ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ แฉ มีบุคคลปริศนาเอี่ยวคดีฆ่าน้องพลอย หลังพบสัญญาณมือถือโผล่ห้องใต้ดิน ศูนย์ราชการแห่งหนึ่งใน จ.ลพบุรี ก่อนจะนำไปเผานั่งยางที่ จ.สระบุรี จากการหายตัวไปของ น้องพลอย นางสาวพลอยนรินทร์ ผลิผล นานกว่า 3 ปี ขณะนี้ความจริงหลายอย่างเริ่มปรากฏแล้ว และชัดเจนแล้วว่าเธอถูกฆ่าและเผานั่งยางโดยฝีมือแฟนเก่า นายพลกฤต วิเศษ อดีตทหารยศสิบเอก ซึ่งเจ้าตัวได้เข้ามอบตัวและให้การรับสารภาพเรียบร้อยแล้ว แต่อย่างไรก็ดี คดีนี้ยังไม่ถึงที่สุดและมีการตั้งข้อสงสัยว่า นายพลกฤต ลงมือทำคนเดียวจริงหรือ มีใครสมรู้ร่วมคิดหรือมีเอี่ยวในคดีนี้ด้วยหรือไม่
เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2560 รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง Amarin TV
รายงานว่า ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ผู้ช่วยเหลือด้านคดีความแม่ของน้องพลอย
ไม่เชื่อว่านายพลกฤต จะทำเพียงคนเดียว
เนื่องจากพบสัญญาณโทรศัพท์มือถือของน้องพลอยโผล่ที่สุดท้ายคือ ห้องใต้ดิน
ในสถานที่ราชการแห่งหนึ่งใน จ.ลพบุรี ซึ่งหลังจากนั้นสัญญาณดับ
ไม่มีใครติดตามได้อีก ส่วนจุดที่เผาคือ จ.สระบุรี
แต่ยังมีการจับสัญญาณได้ในวันเกิดเรื่อง ที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ด้วย
ซึ่งนายพลกฤตอ้างว่าไปเอายางรถยนต์ ส่วนตัวตนไม่เชื่อเด็ดขาด
เพราะระยะทางจากอยุธยามาที่ลพบุรี ไกลพอสมควร
ทำไมต้องขับรถอ้อมไปจุดดังกล่าวก่อนที่จะนำร่างไปเผาที่สระบุรีด้วย
ด้วยเหตุนี้
ทนายรณณรงค์ จึงตั้งข้อสังเกตว่า
ตั้งแต่วินาทีที่ร่างของน้องพลอยถูกอุ้มเข้าไปอยู่ที่ห้องใต้ดินของศูนย์ราชการนั้น
เข้าไปได้อย่างไร ใครพาเข้าไป ไม่มีใครเห็นเลยหรือ
เพราะไม่ใช่ที่ที่ใครจะเข้าไปก็ได้ อีกทั้งนายพลกฤตอ้างว่า
บีบคอตั้งแต่ในรถ แต่สัญญาณไปจบที่ห้องใต้ดิน
ดังนั้นการขนร่างคนไปยังห้องนั้นต้องผ่านสายตาใครบ้าง
เชื่อว่าต้องมีคนใกล้ตัวนายพลกฤต รู้เรื่องนี้ด้วย และทำไมนายพลกฤต
จึงต้องโทรศัพท์ไปหาคนคนหนึ่งให้ออกมารับด้วย
ส่วนประเด็นปลายสายที่นายพลกฤต โทร. หาเป็นใครนั้น
ตนคาดว่าน่าจะเป็นพ่อของนายพลกฤตเอง
ทนายรณณรงค์ บอกด้วยว่า
ตนยังไม่สามารถบอกรายละเอียดข้อมูลอะไรได้มากกว่านี้
แต่ตนสงสัยว่าทำไมนายพลกฤต ต้องเก็บตัวน้องพลอยไว้ในระยะหนึ่งด้วย
ซึ่งอยู่ในจุดที่เป็นสถานที่ราชการ
แต่ยังให้คำตอบไม่ได้ว่าเป็นจุดสุดท้ายหรือไม่
เพราะนายพลกฤตยังคงให้การวกไปวนมา
ภาพและข้อมูลจาก
รายการทุบโต๊ะข่าว