สืบเนื่องจากคดีน้องพลอย นางสาวพลอยนรินทร์ ผลิผล ที่หายตัวปริศนาไปนาน 3 ปี ก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะมีการสืบสวนพบว่าถูก นายพลกฤต วิเศษ อดีตทหารยศสิบเอก (แฟนเก่า) เป็นคนอุ้มไปฆ่า ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ามีการฆ่าเผานั่งยางบริเวณป่าเขาขาด อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ซึ่งเป็นจุดเดียวกันกับที่เคยมีการพบโครงกระดูกมนุษย์เมื่อปี 2557 และผลการตรวจ DNA โครงกระดูกก็ออกมาตรงกับพ่อและแม่น้องพลอย เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาอดีตสิบเอก ข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา (อ่านข่าว : รู้ผลแล้ว โครงกระดูกซุกป่าปี 57 คือน้องพลอย-จ่อเอาผิดพ่อมือฆ่าโหด เอี่ยวรู้เห็น !)
จากเรื่องดังกล่าว (14 สิงหาคม 2560) ทีมข่าวอมรินทร์ ได้ลงพื้นที่ไปพูดคุยกับ นายเจษฎาภรณ์ พิมูลชาติ อาสากู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง จ.สระบุรี โดยนายเจษฎาภรณ์ เผยว่า เมื่อปี 2557 มีบุคคลให้ช่วยตามหาคนสูญหายเป็นร่างทรงหญิง จึงเดินตามหาไปตรงจุดที่พบศพ พบเศษยางรถยนต์ถูกเผา พร้อมชิ้นส่วนมนุษย์บางส่วน ไม่พบกะโหลก ซึ่งยังไม่รู้ว่าเป็นของใคร แต่ตรวจสอบแล้วไม่ใช่บุคคลที่ตามหา จึงได้แจ้งให้ สภ.หินซ้อน และกองพิสูจน์หลักฐานเข้าเก็บหลักฐานไปแล้วตั้งแต่ 3 ปีก่อน พอมาทราบเรื่องของน้องพลอยตนเองก็ตกใจเหมือนกัน นอกจากนี้ บริเวณนี้ก็เป็นจุดที่ไม่ค่อยมีคน และเป็นทางน้ำไหล เวลาฝนตกเศษดินจะไหลลงมาทับถมกันไปเรื่อย ๆ
ขณะที่ นายเฉลิมฤทธิ์ พงษ์สุวรรณ อายุ 39 ปี ชาวบ้าน ต.ท่าคล้อ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ที่เข้าไปพบซากโครงกระดูกที่จุดเกิดเหตุเป็นรายแรก เผยว่า เมื่อช่วงปี 2557 มีครอบครัวหนึ่งเข้ามาในพื้นที่โดยระบุว่าตามหาคนหาย ตนจึงอาสาไปช่วยค้นหา จนพบกับโครงกระดูกส่วนของซี่โครง กรามฟัน พร้อมเหล็กจัดฟัน และชิ้นส่วนของยางที่ถูกเผาไหม้ แต่จุดเกิดเหตุมีหญ้าและใบไม้ขึ้น คาดว่าเหตุการณ์คงเกิดมาหลายเดือนก่อนที่ตนจะพบ ขณะนั้นดูไม่ออกว่าเป็นกระดูกของผู้หญิงหรือผู้ชาย
เมื่อรู้ข่าวของน้องพลอย ตนอธิบายได้ว่าทำไมตอนที่เผานั่งยางตอนไฟลุกถึงมองไม่เห็นเพราะถนนจุดดังกล่าวมีแท่นปูนสูงบัง รวมทั้งพื้นมีระดับที่ต่ำกว่าถนน ถ้าลงไปด้านล่างแล้วจุดไฟเผาต่อให้ไฟจะลุกขึ้นมาก็ไม่มีใครเห็น และจุดนี้ค่อนข้างลับตาคนและเปลี่ยว รถที่ขับผ่านไป-มา ถ้าขับมาอย่างเร็วแล้วเห็นควันขึ้นก็อาจจะนึกว่าเผาหญ้า คนเลยไม่รู้ว่ากำลังเผาร่างมนุษย์อยู่
ด้านนายศรายุธ สุวรรณรัตน์ ผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า เมื่อ 3 ปีก่อน มีการพบโครงกระดูกคล้ายถูกเผานั่งยาง ตอนนั้นไม่รู้หรอกว่าใครจะมาเผานั่งยางในพื้นที่หมู่บ้าน เพราะตรงจุดที่เจอกระดูกเป็นของหลวงไม่มีใครเป็นเจ้าของ ตอนนั้นตนเคยนำวัวไปกินหญ้าใกล้จุดเกิดเหตุ ได้กลิ่นเหม็นก็สงสัยว่าจะใช่กลิ่นซากศพหรือไม่ จึงไปคุยกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตอนนั้นทั้งตนและเจ้าหน้าที่ก็เข้าใจว่าเป็นกลิ่นสุนัขตาย จึงไม่ได้ไปตรวจสอบ มาทราบภายหลังว่าพบโครงกระดูกมนุษย์ในจุดดังกล่าว
นอกจากนี้ ทีมข่าวยังเดินทางไปยังบ้านของนางปราณี มุ่งกลาง วัย 63 ปี ซึ่งเป็นบ้านที่อยู่ห่างจากจุดเผาไม่ถึง 1 กิโลเมตร เผยว่า เคยได้กลิ่นควันไฟ คล้ายกับกลิ่นยางไหม้แต่ไม่ได้สงสัยอะไร เนื่องจากคิดว่าชาวบ้านเผาป่า นอกจากนี้พื้นที่ดังกล่าวเคยมีคนนำศพมาทิ้งหลายครั้ง แต่ก็ไม่ทราบว่าเป็นศพใครบ้าง
ด้านน้องเอ เพื่อนสนิทของน้องพลอย เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ตนเองก็เป็นอีกคนที่ส่งข้อความไปหาพลอยเป็นประจำตั้งแต่ที่พลอยหายตัวไปเมื่อปี 2557 เพราะพลอยเป็นเพื่อนรัก แล้วก็หวังว่าสักวันหนึ่งพลอยจะตอบกลับมา มีความหวังว่าพลอยยังมีชีวิตอยู่ พลอยเป็นคนที่รักเพื่อน รักครอบครัว พอมารู้ข่าวมันเป็นความเสียใจที่ยิ่งใหญ่ เศร้าสะเทือนใจมากที่เพื่อนที่รักจากไป
น้องเอ บอกต่อว่า ตนทราบมาบ้างว่าพลอยจะเลิกกับผู้ชายคนนี้ อีกทั้งสิบเอกก็ไม่ค่อยสุงสิงกับพวกตน ไม่ค่อยพูดคุยกัน ไม่เคยไปไหนด้วยกัน เพราะเขาจะพยายามให้พลอยตีตัวออกห่างพวกตน เขารู้ว่าพลอยเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ไม่มีทางจะต่อสู้ สงสารเพื่อนที่ต้องมาจบชีวิตด้วยการถูกเผา ตนมีความหวังว่าจะได้เจอพลอยแต่วันนี้มันไม่มีวันนั้นอีกแล้ว ตนช่วยอะไรเพื่อนไม่ได้เลย
ภาพและข้อมูลจาก
