นายกรัฐมนตรีนำ ครม. ร่วมปลูกต้นไม้นำร่องโครงการ "ประชารัฐร่วมใจปลูกต้นไม้ให้แผ่นดิน" ที่กรุงเก่า พร้อมเชิญชวนประชาชน ภาครัฐ-เอกชนร่วมกิจกรรม เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบรอบ 65 พรรษา 28 กรกฎาคม 2560 ร่วมสืบสานแนวพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ตั้งเป้าเพิ่มพื้นที่สีเขียวไม่ต่ำกว่า 5 หมื่นไร่
พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบายแนวทางปลูกป่าปลูกต้นไม้แก่เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่า วันนี้ รัฐบาลได้สืบสานแนวพระราชดำริในหลวง รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ในการรักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้เป็นภูมิคุ้มกันลดความเสี่ยงด้วยการปลูกต้นไม้ในพื้นที่ที่ต้นไม้สามารถเติบโตได้ มีคนดูแล โครงการถึงจะประสบความสำเร็จ
"พื้นที่ไหนคนอยู่ไม่ได้ เป็นป่าเสื่อมโทรมต้องเอาออกมา และต้องดูแลให้คนกับป่าอยู่ร่วมกันได้ แนวทางแรกคือ เริ่มจากปลูกป่าในใจคน เพื่อจะได้รู้จักรักหวงแหน ดูแล ถ้าเป็นป่าเขตเมือง ชุมชนหรือสวนสาธารณะอย่าปลูกเป็นแถว ควรปลูกเป็นกลุ่ม มีพื้นที่ให้ประชาชนใช้สอยทำกิจกรรมร่วมกันได้ หรือพิจารณาจัดโซนนิ่งการปลูกว่า พื้นที่ไหนควรปลูกไม้ประเภทไหน ต้นไม้แบบใดนำมาใช้ประโยชน์ได้" นายกฯ กล่าว
สำหรับแนวทางที่สอง คือการปลูกป่าในบ้านและชุมชน เชื่อมโยงกับป่าใหญ่ เป็นฟู้ดแบงก์ เป็นแหล่งอาหารให้คนบริโภคได้ ตามแนวทางสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 และเป็นอาหารสัตว์ได้ด้วย ซึ่งฝากให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ดูแลหาพืชที่ควรนำไปปลูกเสริมบริเวณชายป่า เพราะถ้าคนได้ประโยชน์จากป่าก็จะช่วยดูแลรักษา คิดว่าเป็นเจ้าของร่วมกัน
ด้าน พล.อ. สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรี ทส. กล่าวว่า สืบเนื่องจากนายกฯ มีข้อสั่งการในการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2560 ว่า รัฐบาลควรจัดทำโครงการประชารัฐร่วมใจปลูกต้นไม้ให้แผ่นดิน เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษา ครบรอบ 65 พรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2560 อีกทั้งเพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและร่วมสืบสานแนวพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ในการฟื้นคืนความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรป่าไม้และสิ่งแวดล้อม
รวมทั้งรณรงค์ส่งเสริมให้หน่วยงานภาครัฐ เอกชนและประชาชน ร่วมกันปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่ป่าและพื้นที่สีเขียว ปลูกฝังจิตสำนึกอนุรักษ์ต้นไม้และทรัพยากรป่าไม้แก่ประชาชนทุกคนในประเทศ โดยมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบร่วมกับหน่วยงานภาคส่วนอื่น รัฐวิสาหกิจ องค์กรเอกชนและภาคประชาชนปลูกและบำรุงรักษาต้นไม้ทั้ง 77 จังหวัด อย่างพร้อมเพรียง เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีโอกาสถวายความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ
พล.อ. สุรศักดิ์ ระบุด้วยว่า ดังนั้น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ หรือ ทส. จึงร่วมกับกระทรวงมหาดไทย หรือ มท. จัดโครงการ "ประชารัฐร่วมใจปลูกต้นไม้ให้แผ่นดิน" โดทาง ทส. เป็นหน่วยงานหลักในการเตรียมกล้าไม้ แจกจ่ายกล้าไม้และติดตามผลการปลูกต้นไม้อย่างต่อเนื่องในระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 5 ปี ส่วน มท. ก็จัดเตรียมพื้นที่ปลูกต้นไม้ในทุกจังหวัดและรณรงค์ให้ประชาชนเข้าร่วมโครงการ โดยจัดทำทะเบียนพื้นที่ปลูกต้นไม้ ประเภท ตำแหน่ง ขนาดและเจ้าของพื้นที่ สำหรับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชนจะร่วมปลูกต้นไม้ในพื้นที่ภายใต้การกำกับดูแลของตนเองและดูแลรักษาให้เจริญเติบโต เพื่อเป็นพื้นที่สีเขียวในเมืองและคืนความสมบูรณ์ของทรัพยากรป่าไม้
ในส่วนของพิธีเปิดโครงการ มีขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 7 สิงหาคม 2560 ณ ศูนย์การเรียนรู้การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ต.มหาพราหมณ์ อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมี พล.อ. ประยุทธ์ เป็นประธาน พร้อมคณะรัฐมนตรีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและประชาชน เข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง จากนั้นร่วมกันปลูกต้นไม้พร้อมกับ 77 จังหวัดทั่วประเทศ
"ในงานดังกล่าว นายกฯ ยังมอบกล้าไม้ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี ลพบุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา และนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดพระนครศรีอยุธยาด้วย" พล.อ. สุรศักดิ์ กล่าว
รัฐมนตรี ทส. เผยด้วยว่า สำหรับโครงการประชารัฐร่วมใจปลูกต้นไม้ให้แผ่นดิน กำหนดพื้นที่เป้าหมายดำเนินการ ดังนี้ 1. พื้นที่กรรมสิทธิ์ของประชาชน โดยจะแจกกล้าไม้ให้ประชาชนนำไปปลูกในพื้นที่ตนเอง เช่น ที่พักอาศัย ที่ทำกิน พื้นที่หัวไร่ปลายนา 2. พื้นที่ของรัฐทุกประเภท โดยเชิญชวนประชาชน เอกชนและส่วนราชการเข้าร่วมปลูกต้นไม้ด้วย ได้แก่ พื้นที่ภายใต้การกำกับดูแลของหน่วยราชการ โดยให้หน่วยงานราชการที่กำกับดูแลพื้นที่ดูแลและบำรุงรักษาต้นไม้ที่ปลูกภายใต้โครงการ พื้นที่ตามกฎหมายและมติคณะรัฐมนตรี โดยให้กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ดูแลและบำรุงรักษาต้นไม้ที่ปลูกภายใต้โครงการ พื้นที่สาธารณะและสวนสาธารณะที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่กำกับดูแลพื้นที่ดูแลและบำรุงรักษาต้นไม้ที่ปลูกภายใต้โครงการ
"กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ มุ่งหวังว่าการจัดโครงการประชารัฐร่วมใจปลูกต้นไม้ให้แผ่นดิน จะมีประชาชนร่วมกันปลูกต้นไม้เพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณและเฉลิมพระเกียรติ ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านกล้า ซึ่งจะช่วยปลูกฝังจิตสำนึกในการอนุรักษ์ต้นไม้และทรัพยากรป่าไม้ให้ประชาชนทุกคนในประเทศ และสามารถฟื้นคืนความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรป่าไม้ เพิ่มพื้นที่ป่าและพื้นที่สีเขียวในประเทศไม่ต่ำกว่า 50,000 ไร่" พล.อ. สุรศักดิ์ กล่าวทิ้งท้าย