หนุ่มถูกตั้งข้อหาไม่เปลี่ยนคอนโซลรถสีชมพู อัดคลิปปัดใบสั่ง เอาหลักฐานโชว์ พร้อมจะแจ้งความกลับ ด้านตำรวจแจงเป็นเรื่องเข้าใจผิด
จากกรณีที่โลกออนไลน์ แชร์คลิปจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก Ben Natapol โดยเป็นเหตุการณ์ที่เจ้าตัวถูกตำรวจออกใบสั่งข้อหาคอนโซลรถจักรยานยนต์ไม่ตรงกับที่มีการแจ้งกับกรมการขนส่งทางบกว่ารถสีชมพูล้วน ซึ่งเจ้าตัวยืนยันว่าตนเองไม่ผิด และอัดคลิปไม่รับใบสั่ง รวมถึงจะแจ้งความตำรวจกลับอีกด้วยนั้น
ความคืบหน้าเรื่องนี้ วันที่ 17 สิงหาคม 2560 นายณัฐพล ขันโท เจ้าของคลิปดังกล่าว เปิดเผยกับอมรินทร์ ทีวี ว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งถูกด่านตรวจจราจร ของ สน.วัดพระยาไกร ให้ใบสั่งฐานสีรถไม่ตรงกับเอกสารที่แจ้งกับทางกรมการขนส่งทางบก เนื่องจากตัวรถแต่เดิมเป็นสีแดง คอนโซลดำ แต่ภายหลังตนเปลี่ยนเป็นสีชมพู ซึ่งได้แจ้งเปลี่ยนสีรถต่อกรมการขนส่งทางบก และเสียภาษีถูกต้องมาโดยตลอด โดยเจ้าหน้าที่ของกรมการขนส่งทางบกก็ได้ระบุในเอกสารว่ารถเป็นสีชมพู แต่ทั้งนี้คอนโซลรถก็ยังเป็นสีดำเหมือนที่โรงงานผลิต ซึ่งที่ผ่านมาก็ยังไม่เคยถูกออกใบสั่งด้วยเรื่องดังกล่าว
นายณัฐพล กล่าวอีกว่า หลังจากได้ใบสั่งดังกล่าว ตนจึงตัดสินใจไม่รับ และเดินทางไปที่ สน.วัดพระยาไกร ก่อนจะไลฟ์สดเพื่อให้ดูการทำงานของตำรวจ รวมถึงจะแจ้งความกลับในฐานปฏิบัติงานโดยมิชอบ แต่ร้อยเวรกลับบ่ายเบี่ยงจะไม่รับแจ้งความ โดยสิ่งที่ตนอัดคลิปไม่ใช่ว่าจะสื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ดี คนที่ดีก็มี แต่แค่อยากให้เจ้าหน้าที่ดูให้แน่ชัดก่อนว่าประชาชนผิดจริงหรือไม่ ไม่ผิดแล้วให้ผิดมันไม่ใช่
ด้าน พ.ต.อ. รัชพล ชนะศรีขจร ผกก.สน.วัดพระยาไกร กล่าวว่า กรณีนี้เจ้าหน้าที่ได้ตรวจรถของนายณัฐพล ก่อนพบว่ามีการเปลี่ยนสีรถ แต่ภายหลังเมื่อได้เห็นหลักฐานที่ถูกต้องตามระเบียบของกรมการขนส่งทางบก จึงไม่ได้ออกใบสั่งแต่อย่างใด และได้มีการเจรจาไกล่เกลี่ยเป็นที่เรียบร้อย ส่วนเรื่องที่นายตำรวจได้ออกใบสั่งเรื่องไม่เปลี่ยนคอนโซลรถสีชมพู อาจเกิดจากความเข้าใจผิด โดยไม่อยากให้ประชาชนมองว่าตำรวจกลั่นแกล้ง และจากนี้ตนได้กำชับเจ้าหน้าที่ทุกนายให้เน้นบริการด้วยใจมากกว่าการตั้งด่านจับกุม
รายงานระบุว่า เมื่อไม่นานมานี้ สน.วัดพระยาไกร เคยปรากฏเป็นข่าวออกใบสั่งให้ นายมงคล บุญศักดิ์เลิศวิทยา ข้อหาบรรทุกสิ่งของที่ไม่มีสิ่งปกคลุมและยื่นล้ำเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ซึ่งนายมงคลยืนยันที่จะปฏิเสธรับใบสั่ง เนื่องจากมั่นใจว่าได้ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย ก่อนจะมีการเดินหน้าฟ้องร้องทางตำรวจอีกด้วย
