นายกรัฐมนตรี ปัดรู้ผลคดี "ยิ่งลักษณ์" ล่วงหน้า ชี้เป็นเรื่องของศาล ขณะเตรียมการรับมือ เป็นเรื่องปกติ ขออย่ายุยงปลุกปั่น - บอกแค่พูดเล่นออกกฏหมายห้ามมีกิ๊ก
วันที่ 23 สิงหาคม 2560 มีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีการเตรียมการก่อนวันตัดสินคดีจำนำข้าว น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็จะมีการเตรียมการตามหน้าที่อยู่แล้ว แต่ไม่ได้เป็นการไปกดดันใคร แต่ขออีกฝ่ายอย่าไปยุแยง ซึ่งหากไม่มีอะไรเกิดขึ้นก็เสียเวลาเปล่า เสียงบประมาณ จึงต้องขอร้องประชาชนด้วย ส่วนคืนวันที่ 24 ส.ค. จะนอนหลับหรือไม่นั้น
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นวันศุกร์ที่ส่วนตัวจะได้พักผ่อน ส่วนเรื่องของคดี ก็เป็นเรื่องของศาล และเชื่อว่าคนนอนไม่หลับมีไม่กี่คน แต่ส่วนตัวนอนหลับสบายทุกวัน เพราะมีงานต้องทำเยอะอยู่แล้ว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันเมื่อวานนี้ ส่วนตัวได้ถามชาวอีสานว่า จะไปในวันที่ 25 ส.ค.นี้หรือไม่ และได้รับคำตอบว่าไม่ไป ส่วนการคาดการณ์ถึงสถานการณ์ต่างๆ หลังวันตัดสินคดีนั้น ต้องถามว่าคนไทยยอมให้เกิดสถานการณ์อะไรขึ้นหรือไม่ ซึ่งผลการตัดสินจะเป็นอย่างไรส่วนตัวไม่ทราบล่วงหน้าและไม่อยากรู้ ดังนั้นหากเกิดอะไรขึ้นมาคนไทยทั้งประเทศจะยอมรับหรือไม่ หากยอมให้เกิดความวุ่นวายส่วนตัวก็ยอม เพราะคนไทยทุกคนเป็นผู้กำหนดอนาคตของประเทศ รวมถึงสื่อมวลชนที่เป็นตัวกลางทำให้ประเทศสงบสุขและเดินหน้าประเทศได้
นายกฯ กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ถึงกรณีที่กล่าวระหว่างพบกับประชาชนเมื่อวานนี้ ว่าจะมีการออกกฎหมายห้ามมีกิ๊ก ว่า ส่วนตัวเพียงแค่พูดเล่น พร้อมถามสื่อว่า มีได้หรือไม่ และควรจะมีหรือไม่ ซึ่งการพูดเมื่อวานนี้เนื่องจากเห็นแม่บ้านเริ่มง่วงนอนจึงต้องให้กำลังใจ แต่สื่อกลับไปพาดหัวข่าวว่า จะออกกฎหมายห้ามมีกิ๊ก และชอบนำไปตีความ พร้อมกล่าวว่า ส่วนตัวเป็นคนสนุกสนานรื่นเริง เป็นคนใจดีและเป็นคนตลก
พร้อมกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวถึงกรณีการยกเลิกแบล็คลิสให้ บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป เข้าเสนอราคาประมูลรถเมล์รอบใหม่ได้อีกครั้ง ว่า กรณีการประมูลรถเมล์ส่วนตัวได้เคยพูดไปแล้ว ซึ่งฝ่ายกฎหมายและฝ่ายต่างๆ ได้ชี้แจงว่าทำได้หรือไม่ได้ จึงเป็นเรื่องของกฎหมาย แต่สิ่งสำคัญอยู่ที่ประมูลแล้วจะได้หรือไม่ และถ้าผิดมาจะทำอย่างไรกันต่อ หากผิดออกมาแล้วได้ขึ้นมา ก็ถือว่ามีความผิด กรรมการทั้งหมดจะถูกลงโทษ จึงขออย่าทำให้เป็นประเด็น และส่วนตัวได้เห็นว่ามีการชี้แจงเรื่องกฎหมาย ทั้งกฎหมายใหม่และกฎหมายต่างๆ และไม่อยากปวดหัวกับเรื่องเหล่านี้ จึงให้คนที่จัดการประมูลรับผิดชอบ หากทำไม่ดีไม่ชัดเจน ประชาชนไม่พอใจ หรือไม่เข้าใจ ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน
นอกจากนั้น นายกฯ ยังกล่าวถึงกรณีแนวทางแก้ปัญหาที่ดินทำกินในภาคอีสาน ว่า รัฐบาลนี้กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งต้องทำแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 4,000 ออกมาก่อน หลังจากนั้นต้องเอาแผนที่ทุกกระทรวงมาทาบดู ตรงไหนที่ตรงกันไม่มีปัญหา ส่วนตรงที่มีปัญหาความขัดแย้งทับซ้อน ต้องหาทางออก ไม่ใช่มาร้องเรียนแล้วยกให้ไป ต้องเอาหลักการ เหตุผลตามกฎหมาย และวิทยาศาสตร์มาคุยกัน ขณะเดียวกันจะต้องลดผลกระทบให้ได้มากที่สุด รวมถึงทำให้สมดุลและเกิดความเดือดร้อนน้อยที่สุด
พล.อ.ประยุทธ์ พูดถึงการลงพื้นที่ในจังหวัดนครราชสีมาเมื่อวานที่ผ่านมา ว่า ขอบคุณมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารีรวมถึงผู้บริหารและคณะอาจารย์ ที่ให้ใช้สถานที่ในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรครั้งนี้ ซึ่งสถานที่มีความเป็นสวยงาม สะอาด และเป็นระเบียบเรียบร้อย ส่วนการลงพื้นที่ในครั้งนี้ ส่วนตัวมีความรู้สึกที่ดีกับประชาชนชาวอีสานทั้งก่อนมา ขณะที่อยู่ที่นี่ และหลังจากกลับไปซึ่งมีความรู้สึกที่ดีมาโดยตลอด ไม่ใช่เฉพาะชาวอีสาน แต่ยังรวมถึงคนทั้งประเทศเพราะส่วนตัวเป็นนายกรัฐมนตรีของคนทั้งประเทศ มีหน้าที่ในการทำงานให้และทำงานให้กับประเทศไทยซึ่งเป็นสิ่งที่ตนเองให้ความสำคัญตั้งแต่เข้ามารับหน้าที่นายกรัฐมนตรี พร้อมขอขอบคุณในกำลังใจที่ให้มา
อย่างไรก็ตาม เมื่อวานนี้มีข่าวจากสื่อว่ามีคนบุกมายื่นหนังสือให้แล้วตนเองทำหน้าไม่พอใจนั้น ขอชี้แจงว่าเป็นหนังสือของคนอีสานเสนอแนวทางปฏิรูปสื่อ ซึ่งส่วนตัวก็รับมา และมีคนมายื่นหนังสือชื่นชมการทำงานของรัฐบาลและอยากให้ตนเองเป็นนายกรัฐมนตรีตลอดไปนั้น มองว่าทั้งหมดเป็นเรื่องกลไก แต่ขอขอบคุณและดีใจที่ได้มา และไม่ได้ผิดหวังว่าจะสนับสนุนตนเองหรือไม่ แต่หวังเพียงว่าจะทำอะไรให้กับประชาชน
นายกฯ ยังกล่าวถึงการพบปะกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 20 จังหวัดว่า ส่วนตัวต้องขอชื่นชมการทำงานตามนโยบายรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง วันนี้จึงเป็นการกำชับ รับทราบปัญหาและอุปสรรคในการทำงาน ที่มีทั้งศักยภาพในพื้นที่ ความเสี่ยงและที่ทำสามารถทำให้เกิดเป็นมูลค่าขึ้นมาได้ โดยส่วนตัวได้เน้นย้ำการทำงานตามฟังก์ชั่นในแต่ละกระทรวง แต่ละหน่วยงาน ที่แต่ละจังหวัดมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นหัวหน้ากลุ่มงาน โดยต้องกระจายตามฟังก์ชั่นให้ได้เนื่องจากแต่ละกระทรวงมีงบประมาณอยู่แล้ว รวมถึงการสร้างความเท่าเทียมทางกายภาพ ลดความเหลื่อมล้ำเพื่อให้ทุกหมู่บ้านเกิดความเชื่อมโยงอย่างเท่าเทียมกัน โดยได้มีข้อตกลงใจว่าจะมีการจัดหาเครื่องมือขุดแหล่งน้ำ รวมถึงเครื่องมือเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตรอีกด้วย
ส่วนการพบปะกับภาคธุรกิจเอกชนในพื้นที่นายกรัฐมนตรี กล่าวยืนยันว่าไม่ได้หารือเรื่องการเมือง และภาคเอกชนไม่ได้ห่วงในเรื่องนี้ ซึ่งไม่ว่าจะพอใจรัฐบาลและคสช.หรือไม่ แต่พอใจสถานการณ์บ้านเมืองในวันนี้ที่มีเสถียรภาพ อย่างไรก็ตามการทำงานต่างๆไม่ต้องให้เครดิตกับรัฐบาลแต่ต้องให้เครดิตกับประชาชนเพราะรัฐบาลไม่หวังคะแนน รวมถึงผลโพลต่างๆ ที่แม้จะคะแนนลดลงก็ไม่ท้อแท้ จะเหลือแค่ 0 เปอร์เซ็นก็ยังอยู่ต่อไปตามกฎหมาย
