
ย้ำแก๊งโกงจำนำข้าวจีทูจี ต้องมีเหตุผลในคำร้องการขอปล่อยตัวชั่วคราวใหม่ หากศาลพิจารณาแล้วเห็นว่ายังไม่มีข้อเท็จจริงใหม่ ก็จะยึดเหตุผลเดิม
วันที่ 26 สิงหาคม 2560 นายชุติชัย สาขากร รองอัยการสูงสุดหัวหน้าชุดคณะทำงานคดีโครงการรับจำนำข้าวเเละระบายข้าวรัฐต่อรัฐ กล่าวภายหลังศาลฎีกามีคำพิพากษาว่า ในเบื้องต้นที่จำเลยยื่นคำร้องขอปล่อยชั่วคราวมานั้น ทีมอัยการจะยังไม่มีการคัดค้านการประกันตัว จะปล่อยเป็นดุลพินิจของศาล ส่วนเรื่องการยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาในส่วนของจำเลยที่ศาลได้ยกฟ้อง เเละในส่วนค่าเสียหายที่ศาลให้ลดจากคำขอเดิม คาดว่าทางอัยการน่าจะยื่นอุทธรณ์คดีต่อเเต่ต้องขอไปศึกษารายละเอียดคำพิพากษาฉบับเต็มเพื่อหาเเนวทางในการอุทธรณ์ เเละประชุมปรึกษาหารือกับทีมอัยการอีกครั้ง
สำหรับการยื่นประกันนั้น นายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว จำเลยที่ 1 และนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการพิจารณาระบายข้าว จำเลยที่ 2 ทนายความได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นวงเงิน 20 ล้านบาท และ 30 ล้านบาท
ส่วน นายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ จำเลยที่ 4 ได้ยื่นหลักทรัพย์เพิ่มจากหลักทรัพย์เดิมที่เคยยื่นไว้ 12 ล้านบาท ส่วน นายทิฆัมพร นาทวรทัต อดีตรองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และนายอัครพงศ์ ช่วยเกลี้ยง อดีต ผอ.สำนักการค้าข้าวต่างประเทศ จำเลยที่ 5-6 หลักทรัพย์เดิมคนละ 8 ล้าน ด้าน นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ เสี่ยเปี๋ยง นักธุรกิจค้าข้าวคนสำคัญ ไม่ได้ยื่นประกันตัว
แม้ว่าศาลจะยกคำร้องประกันตัว แต่จำเลยยังสามารถยื่นคำร้องขอประกันตัวใหม่ได้ จนกว่าจะสิ้นสุดระยะเวลาอุทธรณ์ หรือ 30 วัน แต่จำเลยจะต้องระบุเหตุผลในคำร้องการขอปล่อยตัวชั่วคราวใหม่ แต่ตามหลักปฏิบัติของการพิจารณาคำสั่งประกัน หากเห็นว่ายังไม่มีข้อเท็จจริงใหม่ ที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมศาลจะยึดเหตุผล และแนวทางเดิมที่เคยยกคำร้องไว้ก่อนหน้านี้
ภาพจาก ทวิตเตอร์ @Kanthapon_TV24






