

สืบเนื่องจากกรณีที่เฟซบุ๊กเพจ Social Hunter ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า หญิงสาวคนหนึ่งถูกนักธุรกิจถ่ายคลิปขณะมีเพศสัมพันธ์ร่วมกัน และขู่ให้มามีเพศสัมพันธ์ด้วยกันอีก หากไม่ยอมจะนำคลิปไปเผยแพร่ ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้นั้น

นายไพวัลย์ บอกต่อว่า หลังจากนั้นตนก็วุ่นวายอยู่กับงาน จึงไม่ได้ติดต่อกับ น.ส.พลอย ซึ่งโทรศัพท์เครื่องที่เคยใช้ติดต่อกันตนก็ปิดเครื่องทิ้งไว้ที่บ้าน ไม่ได้เอาออกมาใช้เลย จนกระทั่งวันที่ 28 สิงหาคม น.ส.พลอย ได้แอดไลน์มาหาตนในโทรศัพท์อีกเครื่องหนึ่ง โดยบอกว่าอยากเจอ และเปิดบทสนทนาว่าขอให้ลบคลิป ซึ่งตนไม่ได้เอะใจคิดว่าเป็นการพูดเล่นพูดแหย่ เพราะว่ายังไม่ได้มีอะไรกัน จะให้มาลบคลิปที่ไม่มีอยู่จริงก็เป็นไปไม่ได้ ตนก็คุยเล่นกลับไป ไม่ทันคิดว่าจะกลายเป็นประเด็นในภายหลัง
นายไพวัลย์ เล่าต่อว่า น.ส.พลอย นัดเจอตนอีกครั้ง และบอกตนว่า "จะขอใส่ถุงนะ" ตนเข้าใจตามประสาผู้ชายว่าจะมีอะไรกัน ซึ่ง น.ส.พลอย ให้ตนเป็นคนเลือกสถานที่ หลังจากนั้นจึงนัดเจอที่โรงแรมแห่งหนึ่งและบอก น.ส.พลอย ไปว่าจะเป็นคนเตรียมถุงยางไปเอง ระหว่างตนเดินทางไปโรงแรม น.ส.พลอย ก็ส่งข้อความมาบอกว่า ขอไม่เอาเงินก็ได้ ให้จบเรื่องกันไป ตนก็ยังไม่เอะใจแต่เมื่อไปถึงโรงแรมกลายเป็นว่ามีตำรวจเข้ามาขอค้นรถตน ว่ามีอาวุธปืนหรือยาเสพติดไหม ก่อนจะถูกพาตัวไปที่ สน.ลาดกระบัง โดยเจ้าหน้าที่ระบุว่าเชิญตนมาให้ข้อมูลว่าซื้อบริการหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี หรือไม่
หลังจากนั้น น.ส.พลอย ก็เข้ามาที่ สน. และได้พูดคุยกันจนเข้าใจแล้วว่าคลิปไม่ได้มีอยู่จริง เป็นการเข้าใจผิดของฝ่ายหญิง ก่อนจะแยกย้ายกันโดยไม่มีการแจ้งความ พอไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้นเพจ Social Hunter ก็ได้นำเรื่องของตนไปโพสต์ ซึ่งตอนที่ตนถูกค้นรถที่โรงแรมกระทั่งไปที่โรงพัก แอดมินเพจดังกล่าวก็ตามไปด้วย ส่วนตัวเชื่อว่าน่าจะร่วมกันวางแผนไว้ก่อนแล้ว ยืนยันว่าไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กับ น.ส.พลอย ดังนั้นเรื่องที่จะมีการถ่ายคลิปข่มขู่ หรือบังคับทำร้ายร่างกายจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ ตนตั้งข้อสังเกตว่า การกระทำทั้งหมดอาจจะมีการเชื่อมโยงกับกลุ่มที่เสียผลประโยชน์เรื่องธุรกิจส่งออกน้ำตาล ซึ่งเคยมีการฟ้องร้องไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา แล้วเพจดังกล่าวก็เคยนำเสนอเรื่องราวใส่ร้ายตนมาหลายครั้งแล้วด้วย
นายไพวัลย์ บอกอีกว่า ขณะนี้ได้รับความเสียหายทางธุรกิจต่อเนื่องมาตั้งแต่เรื่องโกงเงินมัดจำส่งออกน้ำตาล ส่วนข้อมูลที่นำไปลงเพจก็ไม่เป็นความจริง ตนจึงได้ปรึกษากับทนายความว่าจะฟ้องร้องเพจดังกล่าว ส่วน น.ส.พลอย นั้น ตนเห็นว่ายังเรียนอยู่จึงไม่อยากเอาเรื่อง เพราะต่างก็มีความผิดด้วยกันทั้งคู่ คือ น.ส.พลอย ค้าประเวณี ส่วนตนเป็นคนซื้อประเวณี แต่ น.ส.พลอย น่าจะเป็นฝ่ายที่เสียหายมากกว่า ซึ่งตนก็เห็นใจ แต่หาก น.ส.พลอย ยังไปเกี่ยวพันกับเรื่องนี้อีกตนก็จะฟ้องร้องเอาผิดด้วยเช่นกัน


เมื่อไปถึงก็มีการพูดคุยกันตามปกติ จากนั้นชายคนดังกล่าวก็พยายามขอมีอะไรด้วยโดยไม่สวมถุงยาง ตนขัดขืนทุกวิถีทาง พยายามร้องเรียกคนช่วยแต่ไม่มีใครได้ยิน แถมยิ่งขัดขืนเขาก็ยิ่งทำร้ายร่างกาย เมื่อเห็นว่าตนหมดหนทางก็พยายามร่วมเพศกับตน แต่สอดใส่อวัยวะเพศได้เพียงไม่มากก็ต้องยุติ เนื่องจากอวัยวะเพศไม่แข็งตัว โดยเขาได้บอกตนว่า เพราะตนขัดขืนจนตัวเขาไม่มีอารมณ์ และถือเป็นโชคดีของตน
จากนั้นเขาก็ขับรถออกมาส่งตนที่ป้ายรถประจำทาง พร้อมกับให้เงิน 2,000 บาท เมื่อตนกลับมาบ้านตนตัดสินใจลบแชททุกอย่าง และติดต่อกลับไปทางเพจเฟซบุ๊กเดิม พร้อมแจ้งเรื่องนี้ให้ทราบพร้อมกับถามทางเพจคนกลางว่า ไหนบอกว่าจะปลอดภัย ทำไมถึงเกิดเหตุลักษณะนี้ จากนั้นคนกลางน่าจะเอาเรื่องนี้ไปคุยกับชายคนดังกล่าว แล้วคนกลางก็มาบอกตนว่า เขาแจ้งกับแฟนเพจคนกลางว่า ตนขัดขืน ไม่ยอมมีเพศสัมพันธ์ด้วย ตนจึงบอกไปว่า ตนจะโดนข่มขืนนะ ใครจะยอม นอกจากนี้คนกลางยังบอกว่า นักธุรกิจคนนี้ต้องการให้ตนไปขอโทษ ตนก็งงว่าตนโดนกระทำขนาดนี้ ต้องไปขอโทษอีกเหรอ


แต่อย่างไรก็ตาม ตนตัดสินใจติดต่อกลับไปเพื่อขอโทษ โดยการขอไปเลี้ยงข้าวสักมื้อเพื่อไถ่โทษ แต่เขาไม่ยอม และบอกตนว่ามีคลิปขณะที่ตนไปออฟฟิศของเขา พร้อมขู่จะนำออกมาเผยแพร่ แล้วเขาก็ยื่นข้อเสนอให้ตน 2 ข้อ คือ 1. ให้ตนทำให้เขาพอใจ ให้มีความสุข แล้วจะลบคลิป 2. จะให้เขาเก็บคลิปไว้ และมาหาความสุขกับตน ซึ่งตนกลัวคลิปหลุดกลัวคนรู้ ตอนนั้นยิ่งตนต่อรองเขา เขาก็ยิ่งต่อรองตนเช่นกัน
จนกระทั่งเช้าของวันที่ 29 สิงหาคม ชายคนดังกล่าวให้ตนไปหา หากไม่ไปจะเพิ่มอีกเป็นครั้งที่ 2 จากที่ตกลงว่าจะไปหาเพียงครั้งเดียว ตนไม่มีทางเลือก จึงตอบตกลงนัดเจอกัน พร้อมกับติดต่อผ่านเพจเฟซบุ๊กให้ติดต่อตำรวจที่ สภ.ปทุมธานี ไปดักจับชายคนนี้ โดยตนนัดให้ไปที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่านลาดกระบัง พอมาถึงเวลานัดหมายเขาก็มา เมื่อได้เวลาเจ้าหน้าที่ก็เข้าแสดงตัวและพาตัวไปที่ สน.ลาดกระบัง ซึ่งตำรวจก็ได้ไปไกล่เกลี่ยกัน ตนลงยอมความไม่ได้เอาเรื่องอะไร เพราะกลัวว่าจะมีคนรู้เรื่อง โดยเฉพาะทางบ้าน ยืนยันตนไม่ได้เสนอขายบริการ แต่เพียงต้องการหางานที่เป็นเพื่อนคุย เพื่อนเที่ยวเท่านั้น เพราะตนร้อนเงิน ส่วนตัวไม่อยากให้ใครเป็นเหยื่อแบบนี้อีก
นอกจากนี้ น.ส.พลอย ยังเล่าให้ทีมข่าวฟังต่อว่า ระหว่างที่ตนคุยกับนายไพวัลย์ เมื่อครั้งแรกที่ไปเจอกัน นายไพวัลย์จะอวดอ้างว่าเคยช่วยเหลือเด็กลักษณะนี้ ทั้งส่งไปเรียนต่อ ให้เงินไปเที่ยวไม่ต่ำกว่า 10 คน ยิ่งทำให้ตนหลงเชื่อว่าตนจะได้เป็นแบบคนเหล่านั้นบ้าง ยืนยันแน่นอนว่าไม่เกี่ยวกับการขายตัว
ขณะที่ ปราย แอดมินเฟซบุ๊กเพจ Social Hunter ได้ชี้แจงว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นหลังผู้เสียหายได้ร้องเรียนทางเพจ และก็ได้รับหลักฐานจึงได้นำมาโพสต์ ส่วนกรณีที่นายไพวัลย์ ออกมากล่าวหาว่าเพจเป็นผู้อยู่เบื้องหลังก็ไม่เป็นความจริง หากนายไพวัลย์มีหลักฐานว่าร่วมมือกัน ก็ให้นำออกมาเปิดเผย ส่วนที่กล่าวหาว่าโยงกับบริษัทที่เสียผลประโยชน์จากกรณีธุรกิจส่งออกน้ำตาลนั้น ยืนยันไม่เกี่ยวข้อง รวมไปถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ลาดกระบัง เข้าตรวจค้นรถนายไพวัลย์ และนำตัวไปที่ สน. แล้วกล่าวหาว่ามีแอดมินเพจตามไปด้วยนั้น ก็ไม่เป็นความจริง และทางเพจก็มีหลักฐานที่จะเปิดเผยเกี่ยวกับนายไพวัลย์ด้วย
ภาพและข้อมูลจาก รายการทุบโต๊ะข่าว