บุกบ้านสาวหลอกแต่งงานเชิดสินสอด พ่อแม่ปัดรู้เห็นร่วมโกง แถมพี่สาวเคยเจอเบี้ยวเงิน 1 หมื่น ด้านชุดสืบสวน เผยอีก เหยื่อเคยขอบุกทวงรถคืนจากพ่อ หลังลูกเอามาให้ใช้
จากกรณีที่มีหญิงสาวหลอกแต่งงาน กับชายหนุ่ม พร้อมกับเอาเงินค่าสินสอดชิ่งหนี มีผู้เสียหายเป็นชายหนุ่มหลายราย ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
ด้านเจ้าของบ้าน กล่าวว่า ได้ประกาศให้เช่าบ้านหลังนี้ผ่านเว็บไซต์ แล้วนางสาวพรติดต่อขอเช่าในราคา 23,000 บาท ต่อเดือน จ่ายมัดจำ 40,000 บาท ซึ่งนางสาวพรได้เช่า 2 เดือนแล้วย้ายออกไป นำช่างมาถอดเครื่องปรับอากาศของตน 3 เครื่อง และยกเครื่องซักผ้าที่เพิ่งซื้อให้ใช้ไปอีก 1 เครื่อง
ส่วนนางมณฑิรา วงศ์แสงทอง เพื่อนบ้านใกล้เคียง เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาเคยเห็นบ้านนี้จัดงาน 2 ครั้ง เข้าใจว่าเป็นงานแต่งงาน 1 ครั้ง และงานที่จัดหลังจากนี้เป็นงานทำบุญบ้าน เพราะไม่เห็นบ่าวสาว แต่ว่าทั้ง 2 ครั้งจะเห็นที่บ้านมีแขกผู้สูงอายุแต่งชุดผ้าไหม นั่งรถตู้มาร่วมงาน
ทั้งนี้ ตนไม่เคยคุยกับนางสาวพร เพราะมนุษยสัมพันธ์ไม่ดี เห็นแต่ว่าอยู่คนเดียว โดยเกือบทุกวันเสาร์-อาทิตย์ บ้านหลังนี้จะจัดงานสังสรรค์สร้างความรำคาญแก่ตนพอสมควร ส่วนวันที่ย้ายออกจากบ้าน เห็นมีช่างมาถอดเครื่องซักผ้า ตนคิดว่าเอาไปซ่อม พอตกเย็นเห็นมีมาถอดแอร์อีก จึงรีบแจ้งเจ้าของบ้าน คิดว่าน่าจะถอนทุนค่ามัดจำ
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์คนใกล้ชิดครอบครัวนางสาวพร ซึ่งยืนยันว่า ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และไม่ได้ติดต่อกับนางสาวพรนานแล้ว แต่เคยไปงานแต่งงานของนางสาวพรเมื่อนานมาแล้วเพียงงานเดียว และไม่ทราบว่าแต่งไปกับผู้ชายกี่คนแล้ว
ส่วนงานแต่งที่ตนเคยไปร่วมด้วย ก็มีพ่อแม่ของนางสาวพรอยู่ด้วย ตอนนี้ทั้งสองคนเสียใจมาก เชื่อว่า นางสาวพรต้องไปหลอกลวงพ่อแม่ให้มาร่วมงาน และคิดว่าพ่อกับแม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ในเรื่องนิสัยส่วนตัว นางสาวพรไม่ค่อยพูดเรื่องส่วนตัว ค่อนข้างกล้าได้กล้าเสียตั้งแต่เด็ก
ต่อมา ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ตลาดไท อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เป็นสถานที่ที่นางสาวพรมักอ้างว่า เปิดแผงขายผลไม้ และเคยถูกออกหมายจับฐานฉ้อโกง จากการสั่งทุเรียนและไม่ยอมจ่ายสินค้ามูลค่า 3 แสนบาท ซึ่งคนในพื้นที่ยืนยันว่า ไม่เคยรู้จักนางสาวพรเลย ตรงกับข้อมูลเจ้าหน้าที่ของตลาดที่ระบุว่า ไม่มีชื่อของนางสาวพรมาขายของในพื้นที่
ขณะที่ พ.ต.ต. บัญชา ศรีสร้อย สารวัตรสืบสวนสอบสวน สภ.วังสะพุง นำกำลังไปตรวจสอบที่บ้านนางสาวพร พร้อมนำหมายจับคดีค้างเก่า การนำบัตรเอทีเอ็มของคนอื่นไปกดเงินไปด้วย แต่ไม่พบว่ามีคนอยู่บ้าน จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบบ้านสวนของพ่อนางสาวพร จนพบนางสาวเหมียว (นามสมมติ) พี่สาวคนโต ระบุว่า ไม่ได้ติดต่อกับนางสาวพรตั้งแต่ปี 2557 และก่อนหน้านี้ก็เคยมีปัญหาเรื่องนางสาวพรยืมเงิน 10,000 บาท แต่ไม่ใช้คืน
ด้านเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เปิดเผยว่า ในเดือนสิงหาคม 2560 มีชาย 2 คนตกเป็นเหยื่อถูกหลอกให้แต่งงาน ได้ขอให้ตำรวจพาไปเอารถกระบะที่นางสาวพรเอามาด้วยหลังแต่งงานมาให้พ่อขับที่บ้าน เจ้าหน้าที่ก็กดดันจนพ่อคืนสำเร็จ 1 คัน ส่วนรถกระบะป้ายแดงอีก 1 คันยังไม่ได้คืน
ภาพและข้อมูลจาก