เป็นมหากาพย์ที่ประชาชนและสื่อต่างจับจ้องกันอยู่ในขณะนี้ สำหรับกรณีของ นักศึกษาแพทย์วางยาฆ่าสุนัข หวังเอาเงินประกัน แถมขอร้องให้ลงผลชันสูตรไม่ตรง กับทำใบผลชันสูตรปลอม ทำเอาบรรดาคนรักสัตว์วิจารณ์กันสนั่นถึงความใจร้ายโหดเหี้ยม เพราะคุ้ยเจอว่า นักศึกษาแพทย์รายนี้ ยังเคยทำลักษณะเช่นนี้มาแล้วหลายครั้ง กระทั่งต่อมา พี่ชายฝาแฝดนักศึกษาแพทย์ ได้ออกมาเผยว่า หลังจากเกิดเรื่องครอบครัวเครียดมาก (อ่านข่าว : พี่ชายฝาแฝด เปิดใจ ครอบครัวเครียดมาก หลังเกิดเรื่องนักศึกษาแพทย์วางยาฆ่าหมา)
นอกจากนี้ญาติของนักศึกษาแพทย์ ยังเปิดเผยอีกว่า นักศึกษาแพทย์คนนี้ยังเรียนไม่จบแพทย์ แต่เรียนมาถึงชั้นปีที่ 6 ก็พบว่าสภาพจิตใจไม่ปกติ จึงพักการเรียนชั่วคราว เพื่อรักษาอาการเจ็บป่วย ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (11 กันยายน) พ่อแม่และนักศึกษาแพทย์ จะเดินทางออกจาก จ.นครราชสีมา เข้ามากรุงเทพฯ เพื่อชี้แจงและดำเนินการในคดีที่ถูกกล่าวหา
ขณะที่นักศึกษาแพทย์รุ่นพี่ก็ได้ให้ข้อมูลว่า นักศึกษาแพทย์คนดังกล่าวมีปัญหาทางสภาพจิตใจ ทำให้กระทบกับการเรียนจึงเรียนไม่จบ ยังเรียนอยู่ชั้นปี 6 ทั้งที่เพื่อนรุ่นเดียวกันจบกันไปหมดแล้ว
ด้านสัตวแพทย์หญิงอนงค์นาถ สุตธรรม เจ้าของโรงพยาบาลสัตว์เซ็นเตอร์เพ็ท อ.เมือง จ.นครราชสีมา ผู้ผ่าซาก "น้องซีซ่า" สุนัขพันธุ์ปอมเมอเรเนียน เพศผู้ อายุ 7 เดือน ของนักศึกษาแพทย์ ได้นำตัวอย่างยาวิตามินหลายชนิดที่ใช้กับสุนัขแสดงให้ผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ดูเพื่อยืนยันว่า เม็ดยา 12 เม็ดที่ตกค้างในกระเพาะอาหารสุนัข ไม่ใช่ยาวิตามินตามที่นักศึกษาแพทย์กล่าวอ้าง แต่เป็นยาลดความดัน 3-4 เม็ด ที่ใช้กับคน
และอีกกว่า 10 เม็ด เป็นยาไม่ทราบชนิด ซึ่งไม่เคยพบเห็นว่ามีการใช้ยาลักษณะนี้กับสุนัขมาก่อน แต่อย่างไรก็ตามต้องรอผลการตรวจพิสูจน์เม็ดยาจากทางศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์นครราชสีมา เพื่อยืนยันข้อเท็จจริงอีกครั้ง และหลังจากนี้จะเตรียมส่งซากให้กับปศุสัตว์จังหวัดนครราชสีมา ในฐานะหน่วยงานที่แจ้งความในคดีความผิด พ.ร.บ.ทารุณกรรมสัตว์ เพื่อนำไปพิสูจน์หาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป
ภาพและข้อมูลจาก เพจอีจัน, เฟซบุ๊ก Jakkarin Riangngoen
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
**หมายเหตุอัปเดตข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 15.07 น. ของวันที่ 10 กันยายน 2560