ภาพประกอบไม่เกี่ยวข้องกับข้อมูล
มันช่างเป็นเรื่องน่าเศร้าและทรมานอย่างถึงที่สุด สำหรับกลุ่มคนที่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์ ซึ่งแม้จะมีบางคนโชคดีสามารถหลุดพ้นจากช่วงชีวิตราวตกนรกทั้งเป็นมาได้ แต่ก็ยังมีผู้คนอีกมากมายที่ต้องจบชีวิตลงในมุมมืดที่ไร้แสงแห่งความหวัง
โดย ถานห์ เผยว่า เธอได้เข้าสู่ขบวนการค้ามนุษย์ตั้งแต่มีอายุได้เพียง 5 ขวบ ตัวเธอและพ่อแม่ถูกแก๊งค้ามนุษย์ส่งตัวไปยังประเทศจีน ด้วยคำสัญญาว่าพวกเธอจะได้รับชีวิตที่ดีกว่า แต่สิ่งที่รออยู่กลับไม่เป็นเช่นนั้น เธอถูกใช้แรงงานเยี่ยงทาสในสังคมยุคใหม่ จากนั้นเธอก็ถูกส่งตัวไปทำงานเก็บผลไม้ที่รัสเซีย ก่อนจะถูกพาตัวไปค้ากามที่แคมป์ในป่าของฝรั่งเศส
"หลังจากฉันอายุครบ 15 ปี พวกเขาก็ต้องการให้ฉันหลับนอนกับผู้ชายคนอื่น ๆ บางวันมากถึง 10 คน หรืออาจจะมากกว่านั้น หลังของฉันไม่สามารถเหยียดตรงได้ เพราะถูกบังคับให้เป็นทาสกามมานาน ฉันยังจำได้ว่าครั้งหนึ่งฉันเหนื่อยจนไม่สามารถทำงานตามที่พวกนั้นสั่งได้ พวกนั้นจึงเฆี่ยนตีฉันอย่างหนักจนฉันเชื่อว่าตัวเองคงจะตายไปแล้ว พ่อแม่ของฉันก็อยู่ที่นั่นและเห็นทุกอย่าง พวกเราหวาดกลัวกันมาก"
นอกจากชีวิตที่จมอยู่กับความโหดร้ายทารุณ การลวงหลอกด้วยคำสัญญาจอมปลอม หนี้สินที่ไม่สิ้นสุดแล้ว ถานห์ ยังต้องใจสลายอย่างหนักเมื่อต้องเสียลูกของเธอไป โดยเธอเสียลูกคนแรกไปขณะอยู่ที่จีน แถมเมื่ออยู่ที่ฝรั่งเศสก็ยังต้องพรากจากลูกชายวัย 11 ขวบ ด้วย
"ฉันคิดว่าตัวเองคงไม่ได้เห็นหน้าลูกอีกแล้ว ในคืนหนึ่งฉันกอดลูกไว้ และบอกเขาว่าหากมีโอกาสหนีขอให้เขาหนีไปอย่างไม่ต้องลังเล ขอให้วิ่งออกไป ไม่ต้องคิดถึงฉัน ไม่ต้องคิดถึงอะไรทั้งนั้น" ถานห์ กล่าว
ถานห์ ยังถูกแก๊งค้ามนุษย์จับยัดใส่ตู้แช่เย็นของรถบรรทุก เพื่อลักลอบนำตัวเธอมายังลอนดอนของอังกฤษ อันเป็นขุมนรกสุดท้ายของเธอ ที่แห่งนี้เธอถูกจับขังให้อยู่ในห้องใต้ดินอันมืดมิดกับเหยื่อคนอื่นอีก 7 คน เธอถูกบังคับให้เป็นทาสกามอีกครั้ง และจะได้รับอนุญาตให้ออกจากห้องใต้ดินเฉพาะเวลาออกไปเก็บผัก ท่ามกลางการจับตาอย่างเข้มงวดเท่านั้น
"เราหนีออกมาด้วยกัน ฉันจำได้ว่าฉันไม่มีแม้แต่รองเท้า ได้แต่วิ่งออกมาด้วยเท้าเปล่า เราวิ่งและวิ่งกันนานเป็นชั่วโมง" ถานห์ เล่าย้อนความทรงจำในครั้งนั้น
ในที่สุด ถานห์ ก็มีโอกาสได้สัมผัสกับคำว่าอิสระอีกครั้ง หลังตกอยู่ในนรกที่ชื่อว่าขบวนการค้ามนุษย์มานานถึง 30 ปี เรื่องราวของเธอเพิ่งจะเป็นที่ปรากฏและรู้ถึงตำรวจตอนที่เธอมีก้อนเนื้อที่อก จนต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล แม้จะน่าเศร้าที่ก้อนเนื้อดังกล่าวกลายเป็นเนื้อร้ายที่ต้องรักษา แต่ชีวิตของเธอกลับได้พบกับแสงสว่าง และขณะนี้ก็กำลังจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่แล้ว ภายใต้ความช่วยเหลือของมูลนิธิที่มุ่งช่วยเหยื่อการค้ามนุษย์
ไม่เพียงเท่านั้น ถานห์ ยังมีความสุขอย่างถึงที่สุดเมื่อเธอได้พบหน้าลูกชายอีกครั้ง ทั้งที่เธอไม่เคยคิดว่าจะได้พบหน้าของเขาอีก แม้ว่าชีวิตของเธออาจจะเริ่มต้นช้ากว่าคนอื่นไปนานหลายปี แต่ในที่สุด ถานห์ ก็จะได้มีชีวิตที่เป็นชีวิตของตัวเธอเองแล้ว
"มีสิ่งมากมายที่ฉันอยากจะทำ ฉันอยากจะมีงานทำ ได้กลับไปยังเวียดนามอีกครั้ง และออกไปสำรวจสถานที่ต่าง ๆ ได้มีวันหยุดเหมือนคนอื่น ฉันอยากจะทำสิ่งเหล่านี้ในสักวันหนึ่ง" ถานห์ เผยในการให้สัมภาษณ์กับ ITV