เปิดเรื่องราวซาบซึ้งใจ เมื่อพ่อแม่ของเด็กสาววัย 18 ปี ได้ยินเสียงหัวใจของลูกสาวเต้นอีกครั้ง 2 ปีผ่านไปหลังลูกสาวตายจาก แต่ได้บริจาคหัวใจช่วยต่อชีวิตให้ใครอีกคน
คาร์เมน คือ เด็กสาววัย 18 ปี ผู้เป็นลูกสาวคนเดียวของที่บ้านและเป็นแก้วตาดวงใจของพ่อ-แม่ คาร์เมนสดใสน่ารักและร่าเริงสมวัย เธอใฝ่ฝันอยากเป็นพยาบาล และกำลังศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ที่วิทยาลัยหนานหยาง โพลีเทคนิก ในสิงคโปร์ แต่ใครจะคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องเศร้าที่ทำให้เธอจากไปตั้งแต่อายุยังน้อย โดยเธอเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดสมองโป่งพอง (Aortic Rupture) ในปี 2558 แต่ก่อนที่เด็กสาวใจแกร่งคนนี้จะจากไป เธอได้ทำเรื่องบริจาคหัวใจเอาไว้ และหลังจากเวลาผ่านไป 2 ปี พ่อแม่ของคาร์เมนก็จะได้ยินเสียงหัวใจของเธอเต้นอีกครั้ง
เรื่องราวของคาร์เมนถูกนำมาเปิดเผยโดยเว็บไซต์สเตรทไทมส์ เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2560 เผยว่า เมื่อคาร์เมนรู้ว่าเธอมีชีวิตอยู่บนโลกนี้ได้ไม่นานแล้ว เธอจึงทำเรื่องบริจาคอวัยะในร่างกาย ได้แก่ หัวใจ ไต และตับอ่อน เพื่อให้ผู้อื่นที่เจ็บป่วยและต้องการอวัยวะเหล่านี้สามารถมีชีวิตต่อไปได้ ซึ่งมันเป็นการเสียสละที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ถึงแม้ว่า มาร์ค ก๊อก วาห์ และ ไอรีส ตัน จะเจ็บปวดหัวใจจากการสูญเสียลูกสาว แต่พวกเธอก็ภูมิใจในสิ่งที่ลูกสาวทำ และลงนามในเอกสารยินยอมบริจาค
คนไข้ผู้รับหัวใจของคาร์เมนคือ เซรีน ลี คุณแม่ลูกสาม วัย 37 ปี เธอป่วยเป็นโรคกล้ามเนื้อหัวใจชนิดห้องหัวใจขยายใหญ่ผิดปกติ หรือที่เรียกกันว่ากล้ามเนื้อหัวใจเสื่อม (Dilated Cardiomyopathy) ซึ่งทำให้หัวใจของเธอไม่สามารถเต้นได้ตามปกติเหมือนคนทั่วไปและไม่สามารถสูบฉีดเลือดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งผู้ป่วยโรคนี้มักจะเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวในที่สุด และเซรีนมีชีวิตอยู่ได้เพราะอุปกรณ์ปั๊มเลือดแทนการบีบตัวของหัวใจ (Mechanic Pump) ซึ่งใช้พลังงานแบตเตอรี่และต้องชาร์จใหม่ทุก ๆ 12 ชั่วโมง
เซรีน ลี หญิงชาวสิงคโปร์ ผู้ที่มีชีวิตต่อไปได้ เพราะหัวใจของสาวน้อยคาร์เมน ตัน
"หัวใจดวงนี้คือสิ่งที่มีค่าที่สุด และตั้งแต่ตอนนี้จนตลอดชีวิตของฉัน ฉันจะใช้ชีวิตอย่างตระหนักถึงคุณค่าของมัน ฉันยินดีเหลือที่คุณก็อก วาห์ ไม่ปฏิเสธที่จะพบฉัน ฉันอยากจะช่วยพ่อ-แม่ของคาร์เมนโปรโมตโครงการบริจาคอวัยวะ เพื่อเป็นการสานต่อเจตนารมย์ของคาร์เมนในการช่วยเหลือผู้อื่นค่ะ" เซรีนกล่าว
ก็อก วาห์ และไอรีสยินดีมากที่จะได้พบเซรีน และนั่นจะเป็นครั้งแรกที่พวกเขาจะได้ยินเสียงหัวใจลูกสาวเต้นอีกครั้ง หลังจากที่เธอเสียชีวิตเมื่อ 2 ปีก่อน โดยเซรีนจะเดินทางจากประเทศสิงคโปร์ไปพบพวกเขาที่ปีนัง ประเทศมาเลเซีย ในวันที่ 15 กันยายนที่จะถึงนี้ นอกจากนี้แล้ว เขาได้กล่าวย้อนถึงนาทีที่เขาจรดปากกายินยอมบริจาคอวัยวะของคาร์เมน ว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ยากมากสำหรับเขา แต่เขาก็ยินดีที่คาร์เมนได้ช่วยชีวิตคนอื่น
"ความเชื่อของชาวเอเชียเกี่ยวกับการบริจาคอวัยวะ ทำให้ชีวิตจำนวนมากไม่ได้รับการช่วยเหลือ ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในอนาคตข้างหน้า มุมมองของผู้คนในเรื่องนี้จะเปลี่ยนไป เพราะมันคือสิ่งประเสิรฐที่ช่วยต่อชีวิต"
"ผู้คนพูดกันว่าคาร์เมนควรจะจากไปโดยที่ร่างกายครบถ้วนสมบูรณ์ มันเป็นเรื่องยากเหลือเกินสำหรับผม แต่ผมก็จำเป็นต้องทำเพื่อเธอ และผมเชื่อว่า จริง ๆ แล้วเธอไม่ได้จากไปไหนเลย เพราะหัวใจของเธอยังเต้นอยู่ครับ" ก็อก วาห์ กล่าว