เจ้าของคลิปฝนซัดเพดานสถานีรถไฟฟ้าบางรักใหญ่พัง แจงยิบ 4 ข้อ หลังเจอข้อสงสัย ทั้งเรื่องทำไมไม่มีคน หรือทำไมไม่ยอมวิ่งหนีไป กลับยืนถ่ายคลิปได้
จากกรณีที่มีคลิปฝนกระหน่ำซัดเพดานสถานีรถไฟฟ้าบางรักใหญ่ ของรถไฟฟ้าสายสีม่วง ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน 2560 นั้น (อ่านข่าว อ่วม ! คลิปฝนกระหน่ำซัดเพดานสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วงพังยับ)
ล่าสุด เมื่อวันที่ 30 กันยายน 2560 เฟซบุ๊ก Piyanat Jeamwong เจ้าของคลิป ได้มีการโพสต์ชี้แจงข้อสงสัยทั้งหมดเกี่ยวกับในคลิป จำนวน 4 ข้อ มีรายละเอียดทั้งหมด ดังนี้
สวัสดีครับจ่า หลังจากที่เกิดเหตุลมกระโชกแรงในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี โดยเฉพาะบริเวณรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีบางรักใหญ่ อำเภอบางบัวทอง จนมีภาพข่าวที่ผมถ่ายได้นาทีฝ้าเพดานอะลูมิเนียมหล่นลงมาทั้งแถบ มีการแชร์และส่งต่อ ๆ กันไปมากมายทั้งทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก ก็ได้อ่านความเห็นของผู้ที่แชร์ออกไปบ้างก็ว่าไม่แข็งแรง บ้างก็ว่าออกแบบไม่ดีบ้างก็พูดถึงมาตรการความปลอดภัยต่าง ๆ นานา ในทวิตเตอร์ผมก็ได้ตอบกลับเพื่ออธิบายไปหลาย ๆ คนอธิบายให้เข้าใจถึงเหตุผลของการอยู่บริเวณนั้น แต่ก็มีหลายข้อความมาก จึงคิดว่าอยากขอใช้พื้นที่ของจ่าในการอธิบายในประเด็นนี้
ผมขอเล่าให้ฟังว่า
1. (คนไปไหนหมด) ณ จุดจุดนั้นที่เกิดเหตุการณ์ มีผู้โดยสารคือผมยืนอยู่ตรงนั้นเพียงคนเดียวลงรถไฟฟ้ามาคนเดียว แต่ออกมาก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งยืนหลบลมและฝนอยู่บริเวณข้างกระจกชั้นชานชาลา แต่คาดว่าจะไปลงอีกฝั่งหนึ่ง เหตุการณ์เกิดตั้งแต่เวลา 2 ทุ่ม 45 นาที ผมรู้สึกได้ว่าลมแรงมากจนไม่สามารถยืนได้ต้องหาที่ยึดและหลบก่อนตั้งแต่ก้าวลงจากรถไฟฟ้าชั้นบน ด้วยสัญชาตญาณที่ยืนตรงไหนก็เปียกก็จะหาที่หลบฝนแต่ตรงไหนก็เปียกไปหมด และลมที่ปะทะสถานีแบบมุมตั้งฉากจึงคิดว่าน่าจะมีเหตุการณ์ที่เสียหายแน่ๆ เลยบังเอิญถ่ายคลิปไว้ได้ ตอนนั้นที่กำลังก้าวลงจากบันไดชั้นบนชานชาลาลงมาทางออกทางสถานีก็มีการประกาศว่าฝนตกลมแรงให้ผู้โดยสารหลบในบริเวณสถานีก่อน ดังนั้นเรื่องความปลอดภัยผมจึงคิดว่ามีการทำงานตามลำดับขั้นของ MRT อยู่แล้ว
2. เรื่องที่บางท่านแสดงความเห็นว่ามัวแต่ถ่ายคลิปทำไมไม่หนี เป็นเค้าเค้าหนีวิ่งกันไปแล้ว แม้กระทั่งการนำเสนอข่าวของนักข่าวช่องหนึ่งยังแสดงความคิดเห็นว่าถ้าเป็นตัวเขาคงวิ่งหนีไม่มัวแต่ยืนถ่ายรูป ประเด็นนี้ผมขอชี้แจงว่าอยากให้ตั้งสติเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ควรลำดับว่าจะทำอะไรบ้างโดยส่วนตัวผมตั้งแต่ออกจากรถไฟฟ้ารู้สึกว่าลมแรงมากสิ่งแรกที่คิดก็คือออกห่างจากป้ายและกระจกทุกอย่างแม้กระทั่งตัวลิฟท์แก้ว จากคลิปบริเวณที่ผมอยู่คือเสาชั้นสองทางออกของสถานีซึ่งมีขนาดใหญ่และแข็งแรง ไม่มีส่วนประกอบที่จะหลุดได้ ผมจึงเลือกอยู่บริเวณนั้นโดยหลบอยู่ฝั่งตรงข้ามกับทิศทางที่ลมเข้ามา ห่างออกไปประมาณ 10 เมตรก็มีพนักงานรักษาความปลอดภัยสถานีคอยส่งสัญญาณและเตือนตลอด ตัวผมเองก็ไลฟ์สดตอนนั้นอยู่ว่ามันแรงมากๆให้พี่ที่มารอข้างล่างดู ลำพังเจ้าหน้าที่ก็หลบเหมือนกันเพราะไม่รู้ว่า เพดานฝั่งที่ลมปะทะจะปลิวมาไหมปลอดภัยและมั่นคงหาที่ยึดก่อนดีกว่าจะได้ตั้งสติ?
3.ทำไมไม่วิ่งหนี ออกจากสถานีไป อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ คิดว่าตรงนี้ปลอดภัยสุด ถ้าวิ่งออกไปฝ้าฝั่งลมปะทะจะปลิวมาตัดหัวไหม เพราะประตูออกอยู่ฝั่งลมปะทะเข้าด้วย ป้ายที่ไม่ได้สังเกตจะลอยมาไหม กระจกที่ต้านลมจะแตกไหม คิดไปหมด เงยหน้ามองข้างบนหัวไม่มีอะไรที่ล่วงลงมาได้ ห่างจอแขวนแค่ไหน หลังพิงเสาปูนใหญ่ ข้างตัวมีป้ายบอกสถานีให้เอาตัวยึดได้ผมว่านั่นปลอดภัยเวลานั้น หลายๆท่านที่บอก "คนถ่ายคลิปไม่คิดถึงความปลอดภัย" ผมว่าคิดแล้วครับ
4. เรื่องสุดท้าย ฝ้าทำไมมันพัง ผมไม่ได้มีความรู้วิศวะกรรมและออกแบบอะไรแต่เท่าที่สังเกตดูหรือถ้าผู้อ่านลองสังเกตจากคลิป จะเห็นว่ามันมีช่องว่างระหว่างรางไฟที่ล่วงลงมา เมื่อลมแรงขนาดนั้นปะทะและแทรกเข้าไปในช่องว่างนั้น ผมว่ามันมีความเป็นได้ที่จะพังครับ เสาไฟฟ้ายังหักโค่น ป้ายโฆษณายังล้มมากมาย เสาคอนกรีตยังแตกหักในคืนนั้น ..
ท้ายนี้ก็อยากบอกว่า อะไรจะเกิดก็ต้องเกิดครับ แต่สังเกตและระวังตัวเองดีกว่าครับ อย่าเตลิดเพราะตกใจ มันอาจจะไม่โชคดีไม่มีอันตรายหรือเสียหายกับตัวเราแบบนี้เสมอไป ตัวผมเองก็โชคดีที่ไม่มีอะไรปลิวมาในวันนั้นก็ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ประจำสถานีครับที่คอยมองและส่งสัญญาณบอกให้อุ่นใจตลอดเวลาครับ. . ..
ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Drama-Addict, เฟซบุ๊ก Piyanat Jeamwon