ภาพจาก DAVID BECKER / AFP
ข่าวกราดยิงที่ลาสเวกัส สหรัฐฯ ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดเพิ่มขึ้นเป็น 59 ราย ด้านเอฟบีไอยันไม่พบหลักฐานเชื่อมโยงกลุ่มก่อการร้ายระหว่างประเทศ พร้อมเปิดไทม์ไลน์การก่อเหตุ
จากเหตุการณ์ช็อกโลก คนร้ายกราดยิงใส่เทศกาลดนตรีคันทรี Route 91 Harvest Music Festival บริเวณถนนลาสเวกัส สตริป ใกล้กับโรงแรมมัณฑะเลย์ เบย์ ในนครลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา โดยทราบชื่อคนร้ายคือ สตีเฟน แพดด็อก (Stephen Paddock) ซึ่งต่อมากลุ่มรัฐอิสลาม ISIS ได้ออกมาอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุดังกล่าว ชี้ว่าผู้ก่อเหตุเป็นทหารที่เพิ่งเปลี่ยนมานับถือศาสนาอิสลาม แต่ยังไม่มีหลักฐานพิสูจน์เรื่องดังกล่าวแต่อย่างใดนั้น [อ่านข่าว : ISIS ออกหน้ารับเหตุกราดยิงลาสเวกัส ชี้มือปืนเพิ่งเปลี่ยนศาสนา]
ล่าสุด (3 ตุลาคม 2560) มีรายงานจากเว็บไซต์ไทม์ ระบุว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยกให้เหตุความรุนแรงในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในเหตุกราดยิงที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ยุคใหม่ พร้อมเผยตัวเลขผู้เสียชีวิตขณะนี้ เพิ่มขึ้นเป็น 59 รายแล้ว ขณะที่ยอดผู้บาดเจ็บนั้นมีจำนวนไม่ต่ำกว่า 515 ราย
อย่างไรก็ตามแม้จะมีการออกมาอ้างความรับผิดชอบจากกลุ่ม ISIS พร้อมอ้างว่าคนร้ายเคยเป็นทหารมาก่อน แต่จากการตรวจสอบฐานข้อมูลรัฐและรัฐบาลกลาง เจ้าหน้าที่ไม่พบว่า สตีเฟน แพดด็อก เคยทำงานรับใช้ชาติมาก่อน รวมทั้งเอฟบีไอผู้รับผิดชอบคดีนี้ก็ยืนยันว่า ทีมสอบสวนยังไม่พบหลักฐานเชื่อมโยงเหตุกราดยิงกับกลุ่มผู้ก่อการร้ายระหว่างประเทศ

ภาพจาก DAVID BECKER / GETTY IMAGES NORTH AMERICA / AFP
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่เชื่อมั่นว่าคนร้ายก่อเหตุตามลำพัง แต่ก็ยังต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจาก มาริลู แดนเลย์ (Marilou Danley) หญิงที่น่าจะเคยอยู่ร่วมห้องกับนายแพดด็อก ซึ่งมีรายงานว่าเธอเดินทางออกนอกประเทศไปแล้วในขณะที่เกิดเหตุกราดยิง
ทางด้านเว็บไซต์บิสซิเนสอินไซเดอร์ ก็เผยไทม์ไลน์การก่อเหตุของนายสตีเว่น ตามที่ โจเซฟ ลอมบาร์โด จากสำนักงานคลาร์ก เคาน์ตี้ ชริฟฟ์ ได้แถลงไว้ในช่วงบ่ายวันจันทร์ที่ผ่านมา (2 ตุลาคม) ตามเวลาท้องถิ่น ระบุว่า นายแพดด็อกได้เข้าเช็กอินที่โรงแรมมัณฑะเลย์ เบย์ ตั้งแต่วันที่ 28 กันยายน โดยเข้าพักในห้องสวีท 2 ห้องนอน จากนั้นเขาก็ได้นำกระเป๋าเสื้อผ้ากว่า 10 ใบ เข้ามายังห้องพัก โดยที่ไม่มีใครสังเกตว่าเขาทำการขนย้ายกระเป๋าเหล่านั้นเข้ามาในห้องตั้งแต่เมื่อไร
หลังเกิดเหตุ หน่วยสวาทเชื่อว่ากระสุนน่าจะมาจากห้องพักสักแห่งระหว่างชั้น 29-32 จึงได้ทำการค้นหาและประเมินสถานการณ์ในแต่ละชั้นที่ขึ้นไป ก่อนจะสามารถระบุห้องที่มือปืนอยู่ได้ จากนั้นหน่วยสวาทได้พังประตูบุกเข้าไปในห้องคนร้าย พบว่าคนร้ายยังใช้ปืนยิงสวนออกมา ก่อนจะใช้อาวุธปืนของตัวเองชิงฆ่าตัวตายไปก่อน






