แพทยสภาเตือนฉีดอวัยวะเพศหญิง 3 มิติให้โหนกนูน ระวังติดเชื้อ ยันปล่อยเป็นตามธรรมชาติดีสุด สธ. ชี้เป็นภาพโฆษณาอุจาดตา เตรียมส่งเรื่องสอบ หากพบความผิดปรับไม่เกิน 40,000 บาท
โลกโซเชียลเผยแพร่ภาพการทำศัลยกรรมอวัยวะเพศหญิง ของโรงพยาบาลเสริมความงามแห่งหนึ่ง โดยการใช้ไขมันของตัวเองจากต้นขา หน้าท้อง ฉีดเข้าไปยังบริเวณแคมใหญ่ เพื่อให้มีความอวบอิ่ม โหนกนูนมากยิ่งขึ้น จนเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากนั้น (อ่านข่าว : มาแนวใหม่ ! ฉีดไขมันเข้าจิ๊มิ เพิ่มความโหนกนูน...ชาวเน็ตฉงน มันดีตรงไหน ?)
ล่าสุด (5 ตุลาคม 2560) พญ.ชัญวลี ศรีสุโข โฆษกแพทยสภา กล่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า การทำศัลยกรรมอวัยวะเพศหญิงมีมานานแล้ว เช่น การทำรีแพร์หลังคลอดบุตร หรือการตัดแคมเล็กให้มีขนาดเล็กลง เพราะเชื่อว่าหากแคมเล็กมีขนาดใหญ่ คือ ผ่านการมีเพศสัมพันธ์มามาก ซึ่งผู้หญิงอายุน้อยจะทำกันมากขึ้น โดยเฉพาะผู้หญิงก่อนแต่งงาน ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีวิธีศัลยกรรมเสริมความงามอวัยวะเพศหญิงเพิ่มมากขึ้น เช่น การฉีดเสริมจีสปอต การดูดไขมันที่เนินหัวหน่าว หรือการดูดไขมันที่แคมใหญ่ออก รวมถึงการฉีดไขมันตัวเองหรือฟิลเลอร์ที่แคมใหญ่ เป็นต้น
พญ.ชัญวลี อธิบายเพิ่มเติมว่า แคมใหญ่จะมีไขมันอยู่ภายในทำหน้าที่ช่วยป้องกันการกระแทกขณะมีเพศสัมพันธ์ ทำให้ไม่เจ็บ ซึ่งหากผู้หญิงอ้วนขึ้น แคมใหญ่ก็อาจจะนูนขึ้นตาม และเมื่อผอมก็มีขนาดลดลง และโดยธรรมชาติเมื่ออายุมากขึ้นก็จะเหี่ยวลง ไม่เต่งตึงเหมือนเดิมเป็นธรรมดา ซึ่งผู้ที่มาทำการฉีดเสริมแคมใหญ่ เท่าที่ทราบส่วนใหญ่จะขาดความมั่นใจในรูปลักษณ์ของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม การศัลยกรรมเสริมความงามทุกชนิดมีอันตราย นอกจากเรื่องเสียเงิน และอาจเสียใจหากไม่เป็นไปตามคาดหวังแล้ว ยังมีปัญหาแทรกซ้อนต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น การอักเสบ ติดเชื้อ เกิดอาการชา เพราะกระทบกับเส้นประสาท เส้นเลือด เป็นต้น เนื่องจากบริเวณอวัยวะเพศหญิงซึ่งมีต่อมไขมันมาก จะทำให้เกิดรูขุมขนอักเสบได้ง่าย สาเหตุมาจากความอับชื้นหรือคับเกินไป อย่างคนอ้วนหรือคนที่มีเนินใหญ่ เวลานั่งทับขาหนีบตัวเองก็อาจเกิดขึ้นได้ การฉีดให้แคมใหญ่มีขนาดใหญ่ขึ้นก็เช่นกัน หากมีความอับชื้นหรือคับเกินไป ก็อาจทำให้เกิดรูขุมขนอักเสบได้เหมือนกัน ดังนั้นแนะนำว่าควรปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติถือว่าดีที่สุด อย่าคิดว่าของตัวเองไม่เหมือนคนอื่น เพราะธรรมชาติสร้างมาก็มีความเหมาะสมแล้ว
ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้มีการพิจารณาข้อความและรูปภาพของการโพสต์โฆษณาดังกล่าวแล้ว เบื้องต้นมองว่าเป็นการใช้ภาพอุจาดตา ไม่น่าจะดำเนินการโฆษณาได้ ซึ่งได้นำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่คณะอนุกรรมการร้องเรียนโฆษณาสถานพยาบาล เพื่อพิจารณาว่ากรณีนี้มีความผิด-เหมาะสมหรือไม่ โดยหากมีความผิดฐานโฆษณา บุคคลธรรมดาจะมีโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาท ส่วนนิติบุคคลมีโทษปรับไม่เกิน 40,000 บาท แต่หากเป็นความผิดครั้งแรกอาจมีการลดโทษ และจะมีโทษปรับอีกวันละ 10,000 บาท จนกว่าจะยุติการเผยแพร่การโฆษณา
ภาพจาก เฟซบุ๊ก หมอแล็บแพนด้า
ภาพและข้อมูลจาก