จบศึกพ่อผัว-ลูกสะใภ้ ! พ่อตาประกาศหยุดตอบโต้ แต่ขอตัดขาดอย่ามาเหยียบบ้าน-ยุ่งกับลูกชายเด็ดขาด ซัดที่ผ่านมาให้เงินไปมากแต่กลับย้อนมาทำลายตัวเอง
สืบเนื่องจากกรณีที่ พ.จ.อ. ถาวร ขวัญขาว อายุ 58 ปี กับนางสุวรรณดี ขวัญขาว อายุ 30 ปี บิดาและภรรยาของ ส.ต.ต. พรประสิทธิ์ ขวัญขาว อดีตตำรวจ สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ที่โดนวางตะปูเรือใบและยิงถล่มในท้องที่ อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส เมื่อปี พ.ศ. 2556 จนต้องพิการเป็นเจ้าชายนิทรามานาน 4 ปี เกิดความขัดแย้งกัน เนื่องจากมีเพจเฟซบุ๊กเปิดขอรับบริจาคเงินช่วยเหลือ ส.ต.ต. พรประสิทธิ์ แต่ต่อมาเพจดังกล่าวได้โพสต์ข้อความชี้แจง และขอโทษหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงบนเฟซบุ๊ก หลังเคยโพสต์ข้อความพาดพิงว่า ไม่มาดูแลช่วยเหลือ ส.ต.ต. พรประสิทธิ์ พร้อมบอกว่าเงินทองไม่เข้าใครออกใคร และไม่สมควรหากินกับคนพิการ ก่อนจะปิดเพจรับบริจาคไปในที่สุด
และล่าสุด (10 ตุลาคม 2560) พ.จ.อ. ถาวร ได้เปิดเผยว่า จะชี้แจงเรื่องดังกล่าวกับสื่อมวลชนเป็นครั้งสุดท้าย หลังจากนี้ลูกสะใภ้จะทำอะไรตนไม่ขอตอบโต้อีกปล่อยให้สังคมตัดสินเอาเอง ส่วนเรื่องที่ลูกสะใภ้ระบุว่า ตนข่มขู่ฆ่ายกครัวนั้น ตนยืนยันเลยว่าไม่เป็นความจริง ไม่เคยคิดแม้แต่น้อย ส่วนที่บอกว่าไปแจ้งความเป็นหลักฐานก็แล้วแต่ว่าเขาจะดำเนินการอย่างไร
พ.จ.อ. ถาวร บอกอีกว่า ส่วนเรื่องเปิด-ปิดบัญชีและธุรกรรมด้านการเงินของลูกชายนั้น ตนมีสิทธิ์ในฐานะผู้ดูแลตามคำสั่งศาล ที่ลูกสะใภ้พูดว่า 4 เดือนแรกมีเงินบริจาคถึง 4-5 ล้านนั้นก็ไม่จริง มันไม่ได้มากขนาดนั้น อย่าว่าแต่ 4 เดือนเลยผ่านมา 2 ปีก็ไม่ถึงอยู่ดี ยอดตอนปิดบัญชีเมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมา มีแค่ 9.1 แสนเท่านั้น แต่ถ้าจะรวมยอดตลอดระยะเวลา 4 ปี ก็ประมาณ 4-5 ล้านบาท และที่ผ่านมา ตนก็ไม่ได้เรียกร้องขอรับบริจาค แต่คนที่เขาสงสารบริจาคมาเอง
ส่วนการเรียกร้องสิทธิต่าง ๆ ถ้าจะอ้างว่าเป็นภรรยาจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายก็เรียกร้องไปได้เลย แต่ตนมีคำสั่งศาลที่สามารถจัดการทุกเรื่องแทนลูกชาย และการที่ตนเก็บเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ทั้งทะเบียนสมรส และสููติบัตรของหลานเอาไว้นั้น ก็เก็บไว้ในฐานะหัวหน้าครอบครัว และต้องรับผิดชอบดูแลทุกคนโดยเฉพาะหลาน ๆ หากลูกสะใภ้นำไปเก็บไว้อาจจะหายได้ และถ้าหายขึ้นมาจะทำอย่างไร
พ.จ.อ. ถาวร บอกต่อว่า ส่วนเรื่องเงินเดือนบุตรชาย ตนจะให้เหมือนเดิม แต่จะไม่ให้ลูกสะใภ้อีก และจะให้กับหลานมารับได้เดือนละ 10,000-12,000 บาท แต่จะรอบคอบมากกว่าเดิม คือจะให้หลานเซ็นชื่อรับไว้เป็นหลักฐานทุกครั้ง เพราะที่ผ่านมา ตนให้เงินลูกสะใภ้จำนวนมาก แต่ไม่เคยทำหลักฐานใด ๆ ไว้ลูกสะใภ้จึงนำมาอ้างว่าตนไม่ได้ให้เงินหรือช่วยเหลือใด ๆ ซึ่งตนก็คาดไม่ถึงว่าลูกสะใภ้จะทำลายตน แต่ตนก็จะเลี้ยงหลาน ดูแลหลานตลอดไป เพราะหลานจะต้องมีอนาคตที่ดี ถ้าหลานอายุครบ 20 ปี เขาทั้ง 2 อาจมีเงินฝากถึง 1-2 ล้านก็ได้ ส่วนลูกสะใภ้ก็ไม่ต้องมาดูแลลูกชายตนอีก ตนรับไม่ได้ ไม่ไว้ใจในพฤติกรรม เพราะเขาไม่ได้รักและเป็นห่วงลูกตนจริง ๆ เพราะถ้ารักคงไม่ทำอย่างนี้ ตนไม่เชื่อและไม่ไว้ใจลูกสะใภ้อีกต่อไปแล้ว
ส่วนเรื่องที่นางสุวรรณดี พยายามเรียกร้องสิทธิการเป็นทายาทเพื่อเข้ารับราชการแทนลูกชายตนนั้น ไม่มีสิทธิ์ที่จะได้รับในฐานะทายาทอย่างแน่นอน เพราะปัจจุบันลูกชายยังรับราชการเป็น ผบ.หมู่ นปพ.สภ.บาเจาะ จ.นราธิวาส ได้เลื่อนยศสิบตำรวจโท และได้รับการอนุมัติจาก พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ ให้ลาป่วยต่อเนื่องมา 4 ปี จึงยังไม่เกิดสิทธิให้ทายาทแต่อย่างใด และหากลูกชายตนเกิดเสียชีวิต หรือไม่ได้รับราชการแล้ว สิทธิที่ทายาทจะได้รับจะตกกับหลานชายที่เป็นลูกคนโตของลูกชายตน
ภาพและข้อมูลจาก
