3 แม่ลูกฝ่าที่กั้นเข้าเฝ้าฯ ในหลวง ร.9 แต่กลับได้รับพระเมตตา...ยิ่งอ่านยิ่งคิดถึงพ่อ

            ในยามที่พสกนิกรชาวไทยต่างคิดถึงพ่อคนเดียวกัน... "พ่อของแผ่นดิน" พระผู้เสด็จสู่สวรรคาลัย เรื่องราวของพระองค์จึงถูกเล่าขานให้เราได้รับรู้ถึงพระมหากรุณาธิคุณอันแผ่ไพศาลหาที่สุดมิได้ และนี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคนไทยถึงรักพระราชา พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มากมายเหลือเกิน...

            เช่นเดียวกับเรื่องราวต่อไปนี้ จ่าสิบเอก (พิเศษ) ปราโมทย์ ท้าวโสม อายุ 71 ปี ได้บอกเล่าความทรงจำที่ประทับใจมิรู้ลืมเมื่อครั้งอายุ 7 ขวบ ว่า ครอบครัวของตนได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากในหลวง รัชกาลที่ 9 โดยเมื่อวันที่ 25 มกราคม 2495 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินมางานพระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี

            ในวันนั้น ตน น้องชาย และคุณแม่ ได้มุดรั้วที่กั้นเข้าไปกราบพระองค์ท่าน พร้อมกับนำบัวที่เก็บมาจากหลังบ้านไปถวาย ซึ่งหลังจากกราบพระบาทเสร็จ พระองค์ท่านตรัสถามว่า สบายดีไหม มีความเป็นอยู่อย่างไรบ้าง แม่ของตนก็ตอบว่า ไม่ค่อยสบาย ครอบครัวฐานะยากจน ลำบากมาก ลูกชายคนเล็กหลังหักเพราะล้มกระแทกพื้น พระองค์ท่านตรัสว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวจะนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลจุฬาฯ พร้อมกับพระราชทานเหรียญทองคำอยู่ในถุงสีเงิน ให้กับครอบครัวของตน

            หลังจากนั้นเพียงแค่ 2 วัน มีผู้ว่าฯ สุพรรณบุรี นำเจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังมารับน้องชายตนไปรักษาพยาบาลจนหายดี และเมื่อน้องชายตนอายุ 18 ปี ก็ได้เข้าทำงานเป็นข้าราชการในสำนักพระราชวังด้วย แต่หลังจากนั้นอีก 2 ปีให้หลัง เขาก็ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต



           นายปราโมทย์ กล่าวว่า ผมซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ เป็นครั้งเดียวที่ได้เข้าเฝ้าฯ พระองค์ท่าน...พระองค์ท่านเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่ประเสิรฐจริง ๆ

           "ตั้งใจอย่างจริงจังเลยว่า จะต้องไปให้ได้เดือนตุลาคม เพราะเป็นวันครบรอบวันสวรรคตของพระองค์ด้วย พระองค์ทรงพระเมตตาผม ผมตื้นตันใจจนน้ำตาไหลรินพูดไม่ถูกเลยว่า ชาตินี้เราได้เข้าเฝ้าฯ พระเจ้าแผ่นดิน และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ ทั้งสองพระองค์"


ภาพและข้อมูลจาก รายการทุบโต๊ะข่าว