สภาพที่เกิดเหตุ
ภาพจาก STR / AFP
เปิดเหตุช็อก นักข่าวหญิงถูกคาร์บอมบ์ในมอลตา หลังเปิดโปง ปานามา เปเปอร์ แฉเอกสารลับการฟอกเงินของกลุ่มผู้มีอำนาจ วันที่ 16 ตุลาคม 2560
เว็บไซต์วอชิงตันโพสต์ มีรายงานข่าวช็อกวงการสื่อทั่วโลก หลังจากที่ นางดาฟนี การูอานา กาลิเซีย นักข่าวแนวสืบสวนและบล็อกเกอร์ชื่อดัง วัย 53 ปี ถูกลอบสังหารด้วยการคาร์บอมบ์ ขณะขับรถออกจากบ้านของเธอในประเทศมอลตา ซึ่งจากภาพที่บักทึกได้ในที่เกิดเหตุ เผยให้เห็นว่าแรงระเบิดทำให้รถถูกเผาไหม้และกระเด็นไปอยู่บริเวณท้องทุ่ง ห่างจากถนนเป็นระยะทางหลายเมตร
รายงานเผยว่า นางดาฟนีเพิ่งจะตีพิมพ์บทความลงบล็อกของเธอในเวลา 14.35 น.
ตามเวลาท้องถิ่น ก่อนจะออกจากบ้านไปในเวลาประมาณ 15.00 น.
ตอนที่เกิดเหตุระเบิด
อย่างไรก็ตามแม้ทางการจะยังไม่สามารถระบุตัวผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุได้
แต่กลับมีเจ้าหน้าที่รัฐและบริษัทหลายแห่งในยุโรปถูกจับตา
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่า
ในช่วงเวลาก่อนที่จะเกิดเหตุระเบิดเพียงไม่กี่วัน
นางดาฟนีเพิ่งจะแจ้งความต่อตำรวจว่าถูกข่มขู่คุกคามต่อความปลอดภัยของเธอ
นางดาฟนี การูอานา กาลิเซีย นักข่าวผู้เสีชีวิต
ภาพจาก MATTHEW MIRABELLI / AFP
ทั้งนี้สำหรับ
นางดาฟนี การูอานา กาลิเซีย เธอเป็นนักข่าวแนวสืบสวนสอบสวน
ที่มีผลงานโดดเด่นในด้านการรายงานข่าวทุจริตคอรัปชั่นของรัฐบาลและผู้มีอำนาจต่าง
ๆ โดยการทำงานในช่วงหลายปีที่ผ่านมาของเธอ ก็คือการรายงานข่าว "ปานามา
เปเปอร์" (Panama Papers)
หรือการรั่วไหลของเอกสารลับด้านการเงินจำนวนหลายล้านฉบับ
ที่ส่งผลกระทบต่อผู้ทรงอำนาจทั่วโลก ทั้งนักการเมือง นักธุรกิจ
และกลุ่มอาชญากร ที่จัดตั้ง shell company ในต่างแดนเพื่อฟอกเงิน
หวังหลีกเลี่ยงภาษี
[อ่านเพิ่มเติมที่ : ปานามา เปเปอร์
เอกสารลับการฟอกเงิน เลี่ยงภาษีคนดังทั่วโลก] ยิ่งไปกว่านั้นเธอยังมีบทความวิพากษ์วิจารณ์
นายโจเซฟ มัสแคต นายกรัฐมนตรีแห่งมอลตา รวมทั้งกล่าวหาภริยาของนายโจเซฟ
ว่าเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์จากการจัดตั้งบริษัทในปานามา
และมีการโยกย้ายเงินจำนวนมากระหว่างบริษัทดังกล่าวกับบัญชีธนาคารในอาเซอร์ไบจาน
นำไปสู่การที่ทั้งคู่ยื่นฟ้องเธอกลับฐานหมิ่นประมาท อย่างไรก็ตามหลังการเสียชีวิตของนางดาฟนี
นายโจเซฟ มัสแคต ก็ได้ออกมาประณามคนร้ายที่ก่อเหตุครั้งนี้
ว่าเป็นการโจมตีเสรีภาพของสื่ออย่างป่าเถื่อน พร้อมชี้ว่า
แม้ทุกคนจะรู้กันดีว่าเขาถูกนักข่าวคนนี้วิจารณ์อย่างรุนแรง
ทั้งในด้านการเมืองและชีวิตส่วนตัว แต่ไม่มีใครสมควรถูกกระทำเช่นนี้
เขาจะไม่ขออยู่เฉยจนกว่าคดีนี้จะได้รับความยุติธรรม
ขณะที่ทางการสหรัฐฯ ได้ยืนยันว่าทางมอลตาได้ร้องขอความช่วยเหลือ ให้ทางเอฟบีไอเข้ามามีส่วนร่วมในการสืบสวนคดีครั้งนี้ด้วย
ประชาชนร่วมจุดเทียนไว้อาลัย การจากไปของ นางดาฟนี การูอานา กาลิเซีย
ภาพจาก MATTHEW MIRABELLI / AFP
อนึ่ง
คณะกรรมการเพื่อพิทักษ์ปกป้องผู้สื่อข่าว (Committee to Protect
Journalists) เปิดเผยว่าที่ผ่านมาในปี 2560 มีนักข่าวถึง 27 ราย
ที่ถูกสังหารจากการทำงานของพวกเขา ขณะที่เหตุฆาตกรรมนางดาฟนี
ก็ได้สร้างความช็อกและความโกรธแค้นแค่คนในสังคมอย่างมาก
ข้อมูลจาก
mirror.co.uk