ย้อนเหตุการณ์ ในหลวง ร.5 เสด็จสวรรคต และเสียงร่ำไห้กึกก้องพระที่นั่งอัมพรสถาน

ในหลวง ร.5

                เพจคลังประวัติศาสตร์ไทย พาย้อนเหตุการณ์ ในหลวง ร.5 เสด็จสวรรคต 23 ตุลาคม 2453 เสียงร่ำไห้กึกก้องพระที่นั่งอัมพรสถาน

                ย้อนกลับไปเมื่อ 107 ปีก่อน นับเป็นวันแห่งความโศกาอาดูรครั้งใหญ่หลวงของปวงชนชาวสยาม เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ซึ่งทวยราษฎร์พร้อมใจกันถวายพระนาม "พระปิยมหาราช" เสด็จสวรรคต ในวันที่ 23 ตุลาคม 2453 ถือเป็นช่วงเวลาการผลัดแผ่นดินที่ได้รับการจากรึกไว้ในประวัติศาสตร์ ขณะที่วันที่ 23 ตุลาคม ของทุกปี ก็ได้กลายมาเป็นวันสำคัญของชาติ คือ วันปิยมหาราช

                ด้านแฟนเพจ คลังประวัติศาสตร์ไทย ก็ได้เผยแพร่ข้อมูลจากหนังสือประวัติต้นรัชกาลที่ 6 ประกอบกับบทสัมภาษณ์ หม่อมเจ้าหญิงจงจิตรถนอม ดิศกุล และ หม่อมศรีพรหมา กฤดากร ณ อยุธยา ย้อนความกลับไปเมื่อครั้งที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จสวรรคต โดยมีเนื้อความดังนี้


                ในค่ำวันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม 2453 ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ตามระเบียงบนพระที่นั่งและบันไดทางเดิน เต็มไปด้วยเหล่าพระราชโอรส พระราชธิดา รวมถึงพระมเหสีนางใน ที่มาคอยฟังพระอาการประชวร ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงมีพระอาการไม่สู้ดีนัก ขณะนั้นพระองค์ประทับอยู่บนแท่นพระบรรทม บางเวลาก็ทรงหายพระทัยเข้า-ออกครั้งละยาว ๆ โดยหายพระทัยทางพระโอษฐ์แรง ๆ พระเนตรของพระองค์ทรงเหม่อลอยไม่จับใครเสียแล้ว

                จากนั้น สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระบรมราชินีนาถ ทรงกราบบังคมทูลถามพระเจ้าอยู่หัวว่า "เสวยพระสุธารสไหมเพคะ" พระเจ้าอยู่หัวก็ทรงตอบกลับโดยการพยักหน้า สมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี จึงกราบทูลต่อไปว่า "หม่อมฉันจะถวายพระโอสถแก้พระศอแห้งเพคะ" ครั้งนี้พระเจ้าอยู่หัวรับสั่งกลับว่า "ฮือ"

                แต่ทันใดนั้นพระเจ้าอยู่หัวก็ทรงมีน้ำพระเนตรไหลออกมา คล้ายทรงพระกันแสง พระองค์ทรงพยายามยกพระหัตถ์ทั้งสองข้างขึ้นมาเช็ดน้ำพระเนตรด้วยพระองค์เอง สมเด็จพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี พระอัครราชเทวี จึงรีบนำผ้าขึ้นมาซับน้ำพระเนตรถวาย โดยมี สมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี ประทับอยู่ปลายพระแท่นบรรทม คอยถวายงานนวดอยู่และรับสั่งให้หมอฝรั่งขึ้นมาถวายตรวจพระอาการ

                เวลาข้ามผ่านเที่ยงคืนมาเป็นวันที่ 23 ตุลาคม หมอแต่ละคนหมั่นผลัดเปลี่ยนกันขึ้นถวายตรวจชีพจร พระเจ้าอยู่หัวทรงหายพระทัยแผ่วเบาลงทุกที ๆ ไม่มีพระอาการกระวนกระวายแต่อย่างใด ยังคงบรรทมอยู่อย่างเดิม แต่พระเนตรของพระองค์กลับค่อย ๆ หรี่แล้วทรงหลับพระเนตรลงในที่สุด เจ้าพนักงานลงมาตามหมอฝรั่งขึ้นไปถวายตรวจพระอาการอีกครั้ง สักพักหมอจึงทูลกับเหล่าพระมเหสีที่ประทับเฝ้าพระอาการอยู่ ณ ที่นั้นว่า....พระเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคตเสียแล้ว

                ทันใดนั้นเหล่าพระราชโอรส พระราชธิดา มเหสี สนม เจ้าจอม ก็แย่งกันกรูเข้าไปดูพระบรมศพ เมื่อเห็นแล้วก็พากันล้มลงกับพื้น นอนร้องไห้คร่ำครวญเสียงระงมไปทั่วทั้งพระที่นั่ง โดยเฉพาะพระราชธิดาที่พากันนอนทอดกายกันแสงเป็นลมกันยกใหญ่ ด้านสมเด็จพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี ก็ทรงประชวรพระวาโย หมอฝรั่งต้องรีบถวายยาฉีด ข้าหลวงจึงทูลเชิญขึ้นประทับบนพระเก้าอี้แล้วหามกลับตำหนักสวนสี่ฤดู สำหรับสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา  ก็ทรงประชวรพระวาโยเช่นกัน ทรงพระกันแสงยกใหญ่มิได้สติ ข้าหลวงทูลเชิญขึ้นพระเก้าอี้แล้วหามกลับตำหนักสวนหงส์ เห็นจะมีแต่สมเด็จพระนางเจ้าสุขุมาลมารศรี  พระองค์เดียว ที่สามารถควบคุมพระสติได้ แต่ก็ยังทรงพระกันแสงแข็งพระทัยนั่งเป็นประธานอยู่ปลายพระแท่นที่พระบรมศพบรรทมอยู่

                จากนั้นเหล่าทหารมหาดเล็กจึงรีบเข้าปิดล้อมพระที่นั่งอัมพรสถาน เพื่อถวายความปลอดภัยแก่องค์รัชทายาท ตามธรรมเนียมปฏิบัติในวันผลัดแผ่นดิน สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช จึงทูลเชิญให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ ผู้เป็นองค์รัชทายาท เสด็จฯ กลับลงไปยังชั้นล่างของพระที่นั่งอัมพรสถาน ในที่นั้นเหล่าพระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายหน้า เสนาบดี และองคมนตรี ยืนเข้าเฝ้าฯ อย่างพร้อมเพรียงกัน จากนั้นสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช จึงคุกพระชงฆ์ลงกับพื้น แล้วกราบถวายบังคมแทบพระบาทของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ อัญเชิญเสด็จขึ้นเถลิงวัลยราชสมบัติเป็นพระเจ้าอยู่หัวองค์ต่อไป

ภาพและข้อมูลจาก  คลังประวัติศาสตร์ไทย
 
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
ย้อนเหตุการณ์ ในหลวง ร.5 เสด็จสวรรคต และเสียงร่ำไห้กึกก้องพระที่นั่งอัมพรสถาน อัปเดตล่าสุด 23 ตุลาคม 2560 เวลา 16:17:45 93,969 อ่าน
TOP