
เปิดภาพพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ และพระพุทธรูปประจำพระชนมวาร ของรัชกาลที่ 1-8
พระพุทธรูปประจำพระชนมวาร คือพระพุทธรูปที่พระมหากษัตริย์หรือพระบรมวงศานุวงศ์ มีพระราชศรัทธาสร้างขึ้นเพื่อประจำพระองค์หรือสร้างถวายพระบรมราชบุพการี ในวาระโอกาสสำคัญต่าง ๆ อาทิ การเฉลิมพระชนมพรรษา การฉลองพระประสูติการ เป็นต้น ซึ่งพระพุทธรูปประจำพระชนมวารส่วนใหญ่ จะเป็นพระพุทธรูปประจำวันพระราชสมภพ หรือวันประสูติของพระมหากษัตริย์หรือพระบรมวงศานุวงศ์พระองค์นั้น ๆ
สำหรับ พระพุทธรูปประจำพระชนมวารของแต่ละรัชกาลมีดังนี้ ..
- พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) คือ ปางอุ้มบาตร
- พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย (รัชกาลที่ 2) คือ ปางอุ้มบาตร
- พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (พระมหาเจษฎาราชเจ้า) (รัชกาลที่ 3) คือ ปางห้ามญาติ
- พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 4) คือ ปางสมาธิ
- พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (พระปิยมหาราช) (รัชกาลที่ 5) คือ ปางห้ามพระแก่นจันทร์
- พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว (พระมหาธีรราชเจ้า) (รัชกาลที่ 6) คือ ปางนาคปรก
- พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 7) คือ ปางอุ้มบาตร
- พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล (พระอัฐมรามาธิบดินทร) (รัชกาลที่ 8) คือ ปางถวายเนตร
และ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (สมเด็จพระภัทรมหาราช) (รัชกาลที่ 9) คือ ปางอภัยมุทรา หรือปางห้ามญาติ เป็นพระพุทธรูปอยู่ในอริยาบถยืน ยกพระหัตถ์ทั้งสองแบบตั้งขึ้นยื่นออกไปข้างหน้าเสมอพระอุระ (อก) เป็นกิริยาห้าม บางแบบเป็นพระทรงเครื่อง มีลักษณะคล้ายกันกับปางห้ามพยาธิ เป็นปางประจำวันจันทร์
ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตั้งการฉลองสมโภชพระพุทธรูปประจำประชนมวาร ในวันที่ 4 ธันวาคม พุทธศักราช 2530 ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เป็นพระพุทธรูปประทับยืนแบบสมภังค์ แสดงปางห้ามญาติหรืออภัยมุทราด้วยพระหัตถ์ขวาเพียงข้างเดียว ส่วนพระหัตถ์ซ้ายทอดลงข้างพระวรกาย พระพุทธรูปมีพุทธลักษณะคล้ายพระพุทธรูปแบบสุโขทัย โดยมีพระพักตร์เป็นวงรี พระนลาฏค่อนข้างแคบ พระขนงโก่ง พระนาสิกโด่ง พระโอษฐ์อมยิ้ม และมีพระกรรณยาว พระเศียรประดับด้วยขมวดพระเกศาเป็นก้นหอย มีเกตุมาลาและรัศมีรูปเปลวไฟอยู่เบื้องบน
องค์พระพุทธรูปมีพระอังสาใหญ่ บั้นพระองค์เล็กโดยครองอุตราสงค์เรียบห่มคลุมพระอังสา ปล่อยชายอุตราสงค์ให้ห้อยตกลงมาเป็นเส้นอ่อนโค้งด้านข้างพระวรกายทั้งสองข้าง อันตรวาสกที่ทรงเรียบเช่นเดียวกับอุตราสงค์คงปรากฏขอบสองชั้นที่บั้นพระองค์และจีบทบห้อยลงมาเบื้องหน้ายาวเกือบจรดข้อพระบาท พระพุทธรูปประทับยืนบนปัทมาสน์ประกอบด้วยกลีบบัวหงายและกลีบบัวคว่ำมีเกสรบัวประดับ ปัทมาสน์นี้วางซ้อนอยู่เหนือฐานเขียงรูปแปดเหลี่ยมเบื้องล่าง
ภาพและข้อมูลจาก
วิกิพีเดีย,







