ประมวลภาพบรรยากาศ ลอยกระทง 2560 ทั่วประเทศ สวยงาม น่าประทับใจ สะพานพระราม 8 คนแน่น ปากน้ำโพ นครสวรรค์ สืบทอดประเพณีท้องถิ่น ลอยกระทงกะลาสาย-กะลาสี
วันเพ็ญเดือนสิบสอง น้ำนองเต็มตลิ่ง เราทั้งหลายชายหญิง สนุกกันจริงวันลอยกระทง...วันลอยกระทงของทุกปีจะตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ตามปฏิทินจันทรคติไทย โดยในปี 2560 ก็ตรงกับวันที่ 3 พฤศจิกายน ซึ่งในหลายพื้นที่ก็จัดกิจกรรมให้นักท่องเที่ยวเข้ามาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีอันดีงามของไทย และในวันนี้ (4 พฤศจิกายน 2560) กระปุกดอทคอมก็ขอรวบรวมบรรยากาศ งานลอยกระทง 2560 มาให้เพื่อน ๆ ได้ชมกันค่ะ
มาเริ่มกันที่ สะพานพระราม 8 ซึ่งในปีนี้
งดกิจกรรมรื่นเริงและเน้นรักษาความปลอดภัยท่าน้ำเข้มงวด
เนื่องจากแม่น้ำเจ้าพระยามีน้ำเพิ่มสูงขึ้น
แต่ก็ยังมีประชาชนเดินทางมาลอยกระทงกันอย่างคับคั่ง โดย พ.ต.อ. อัศวิน
ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ได้สั่งจัดกำลังเจ้าหน้าที่ให้ดูแลความปลอดภัยบริเวณโป๊ะและท่าเรือ 259
แห่ง รวมทั้งสถานที่จัดงานที่สำคัญ และสวนสาธารณะ 30 แห่ง
นอกจากนี้ยังขอให้ใช้วัสดุธรรมชาติทำกระทง
เพื่อลดปริมาณขยะและร่วมกันสำหรับสถิติการจัดเก็บกระทงด้วย
ส่วนที่ จ.นนทบุรี แม้ว่าปีนี้ทางเทศบาลเมืองนครนนทบุรี
จะงดจัดงานเทศกาลประเพณีลอยกระทง
เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณมาก
อาจไม่ปลอดภัยกับผู้ที่เดินทางมาลอยกระทง แต่พบว่าที่ท่าน้ำนนท์
บริเวณริมเขื่อนหอนาฬิกานั้นกลับคึกคักไม่เบา
มีประชาชนเดินทางมาร่วมลอยกระทงเป็นจำนวนมาก
ไปต่อกันที่บรรยากาศงานลอยกระทงที่สวนสันติชัยปราการ ก็คึกคักสุด ๆ
นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติต่างร่วมประเพณีลอยกระทงกันอย่างคึกคัก
ขณะที่ จ.ศรีสะเกษ ที่สวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เฉลิมพระชนมพรรษา 80 พรรษา (เกาะกลางน้ำห้วยน้ำคำ) ประชาชน
นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง
โดยในปีนี้เทศบาลเมืองศรีสะเกษ ได้จำลองพระจันทร์ขนาดใหญ่ ไว้กลางห้วยน้ำคำ
เพื่อให้ประชานได้ถ่ายรูปคู่กับพระจันทร์จำลอง
เหมือนกับถ่ายรูปกับพระจันทร์บนท้องฟ้าจริง ๆ นั่นเอง
ส่วนกิจกรรมเน้นไปที่ความเรียบง่าย ปลอดเหล้า และปลอดภัย
ปิดท้ายกันที่ จ.นครสวรรค์ ก็คึกคักเช่นกัน ชาวบ้านปากน้ำโพ
และนักท่องเที่ยวจากหลายพื้นที่นับพันคน ร่วมประเพณีลอยกระทงกะลาสาย-กะลาสี
กว่า 2,500 ใบ
เพื่อให้กระทงกะลาไหลต่อกันเป็นสายทางยาวจากแม่น้ำปิงลงสู่เจ้าพระยา
เพื่อเป็นการสืบทอดประเพณีท้องถิ่นที่เรียบง่ายที่มีมานานกว่า 60 ปี
ภาพและข้อมูลจาก
แนวหน้า,
workpointnews,
Thai PBS News, เทศบาลเมือง ศรีสะเกษ