
เปิดเรื่องราวชีวิตเปี่ยมแรงบันดาลใจของ นาเดีย โอกาโมโตะ จากเด็กสาวไร้บ้าน สู่การเป็นนักต่อสู้เพื่อผู้หญิง และมุ่งมั่นเข้าสู่แวดวงการเมือง เผยเข้าใจปัญหาความยากไร้ เพราะเคยอยุ่จุดนั้นมาแล้ว
นาเดีย โอกาโมโตะ (Nadya Okamoto) คือ เด็กสาวชาวอเมริกัน วัย 19 ปี เธอเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด หนึ่งในสถาบันที่ดีที่สุดในโลก นาเดียเป็นนักสู้เพื่อผู้หญิงโดยแท้จริง เธอก่อตั้งโครงการ PERIOD ขึ้นมา เพื่อช่วยเหลือผู้หญิงไร้บ้านหรือผู้หญิงที่มีรายได้น้อย ผู้ไม่มีเงินซื้อผ้าอนามัยใช้ เนื่องจากเธอเล็งเห็นว่ามันเป็นปัญหาที่สำคัญที่ควรมีใครสักคนยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ ด้วยภาพลักษณ์กระปรี้กระเปร่า ดูเป็นสาวมั่นใจ เรียนเก่ง แถมยังเป็นคนเอเชีย หลาย ๆ คนอาจจะมองว่าเธอเป็นลูกสาวคนรวย มาจากครอบครัวที่มีเงิน แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่แบบนั้นเลย ชีวิตของนาเดียต้องพบกับความยากลำบากมากมาย เธอเคยเป็นคนไร้บ้าน ต้องใช้ชีวิตอยู่ข้างถนน เธอจึงเข้าใจเป็นอย่างดีว่าความจนเป็นอย่างไร แต่เธอก็ไม่ย่อท้อกับชีวิต และพยายามเต็มที่เพื่อจะช่วยให้คุณภาพชีวิตพวกเขาเหล่านี้ดียิ่งขึ้น
"ครั้งแรกที่ฉันโดนกลั่นแกล้ง มันเกิดขึ้นตอนที่ฉันยังเด็กมาก เด็กคนอื่น ๆ มักจะทำตาหยีเพื่อล้อเลียนฉัน หลังจากนั้นเมื่อฉันโตขึ้น ฉันพยายามต่อต้านทุกสิ่งทุกอย่างที่มันทำให้ฉันดูเป็นคนเอเชีย ฉันบอกคนอื่น ๆ ว่าฉันเกลียดคณิตศาสตร์มาก ทั้ง ๆ ที่มันเป็นวิชาที่ฉันชอบ และฉันก็เรียนได้ดี" นาเดีย เล่าถึงเรื่องราวในวัยเด็กของเธอ
การกลั่นแกล้งด้านนอก ยังไม่เลวร้ายเท่ากับสิ่งที่เธอต้องพบเจอในบ้าน เธอต้องทนกับความรุนแรงในครอบครัว พร้อม ๆ กับความเกลียดชังฝังลึกของครอบครัวฝั่งพ่อและแม่ โดยพ่อของเธอมาจากครอบครัวชาวญี่ปุ่นรุ่นแรก ๆ ที่อพยพมาอาศัยในสหรัฐฯ ส่วนแม่ของเธอมาจากครอบครัวชาวไต้หวันที่อพยพมาอาศัยอยู่ในรัฐอินดีแอนา ตายายของนาเดียเกลียดชังคนญี่ปุ่น เนื่องจากบ้านเกิดของพวกเขาเคยถูกทหารญี่ปุ่นเข้ายึดครองในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งพวกเขาเองก็เติบโตภายใต้จักรวรรดิญี่ปุ่น ในขณะเดียวกัน ปู่ย่าของนาเดียที่เป็นชาวญี่ปุ่นก็เหยียดหยามคนจีน โดยนาเดียเล่าว่า เธอเคยไปเดินซื้อของกับย่าที่ไชน่าทาวน์ ย่าเอามือปิดจมูกเธอเอาไว้ตลอดเวลา และเมื่อกลับถึงบ้าน เธอจะจับหลานสาวอาบน้ำถูตัว และขัดเท้าซ้ำ ๆ หลายครั้ง เนื่องจากย่าเธอเกลียดกลิ่นคนจีน และต้องการขัดล้างความเป็นจีนออกไปจากตัวหลานให้หมด
ชีวิตของนาเดียมาถึงจุดพลิกผันเมื่อเธอเข้าเรียนชั้นมัธยมปลาย ปัญหาครอบครัวลงเอยที่การหย่าร้างของพ่อและแม่ แม่ของเธอตกงานและจ่ายค่าเช่าบ้านต่อไปไม่ไหว ทำให้พวกเธอต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน ตอนนั้นนาเดียอายุแค่ 16 ปี เท่านั้น แต่เธอต้องทำงานถึง 6 อย่างเพื่อต่อชีวิตตัวเองและช่วยเหลือครอบครัวให้รอด

"ตอนนั้นเงินทุก ๆ เพนนีมีค่ามาก และแม่ของฉันก็ทำงานหนัก มันเป็นช่วงเวลาเลวร้ายที่ดำเนินติดต่อกันนานหลายเดือน ฉันต้องต่อสู้กับความรู้สึกไร้ค่า อาการซึมเศร้าและความเครียด ฉันมีแฟน ซึ่งมันก็กลายเป็นความสัมพันธ์ที่เลวร้าย ฉันเคยนั่งจมบนโซฟาและอยากให้ชีวิตจบ ๆ ไปเสียตรงนั้น" นาเดีย เล่าถึงจุดที่เลวร้ายในชีวิตของเธอ
แต่ในจุดที่เลวร้ายที่สุดของชีวิต มันยังมีด้านดี ๆ ซ่อนอยู่ การเป็นคนไร้บ้านทำให้นาเดียได้พบปะกับครอบครัวมากมายที่มีสถานะไม่ต่างกับเธอ เธอได้ฟังเรื่องราวของพวกเขาเหล่านั้น สิ่งที่พวกเขาต้องต่อสู้เพื่อให้มีชีวิตรอดต่อไปในแต่ละวัน และหนึ่งในปัญหาใหญ่ก็คือ ประจำเดือน สำหรับคนทั่วไปนั้น การเข้าถึงผ้าอนามัยหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ เป็นอะไรที่ง่ายมาก แต่สำหรับผู้หญิงเหล่านี้ มันไม่ง่ายดายแบบนั้น
"พวกเธอเล่าให้ฉันฟังว่า เมื่อถึงเวลา พวกเธอต้องหาทุกอย่างเอาเท่าที่หาได้ ซึ่งมีตั้งแต่ ถุงเท้า กระดาษ กระดาษชำระ ถุงกระดาษสีน้ำตาลจากร้านค้า หรือแม้กระทั่งกระดาษลัง และเมื่อฉันรับรู้ว่า องค์กรการกุศลต่าง ๆ ไม่มีการยื่นมือมาช่วยตรงนี้เลย ฉันจึงอยากสร้างความเปลี่ยนแปลงตรงนี้ค่ะ" นาเดีย กล่าว
สำหรับมุมมองเชื้อชาติของนาเดียนั้น เมื่อเธอเรียนชั้นมัธยม เธอก็ได้หวนกลับคืนสู่รากเหง้าดั้งเดิมของเธออีกครั้ง และเรียนรู้ที่จะภูมิใจในสิ่งที่เธอเป็น เธอก่อตั้งชมรม Asia Pride Club ขึ้นที่โรงเรียนของเธอ ซึ่งก็ได้รับการต่อต้านจากคณะกรรมการโรงเรียน แต่เธอยืนหยัดต่อสู้จนสามารถรักษามันได้ในที่สุด ตอนนี้นาเดียกำลังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เธอยังคงเคลื่อนไหวเพื่อช่วยเหลือสังคมอย่างต่อเนื่อง และตอนนี้เธอมีจุดมุ่งหมายที่ไกลกว่านั้น นั่นก็คือการได้เป็นสมาชิกสภาเมืองเคมบริดจ์

ตอนนี้นาเดียกำลังอยู่ในช่วงทำแคมเปญเลือกตั้ง เธออยากเป็นกระบอกเสียงของคนหนุ่มสาวและคนยากไร้ นโยบายหลัก ๆ ของเธอมี 4 ประการ ได้แก่ ที่อยู่อาศัยที่สามารถเข้าถึงได้, ทุนการศึกษา, ความเป็นอยู่ที่ยั่งยืน และความใกล้ชิดกับมหาวิทยาลัย ซึ่งถ้าเธอชนะการเลือกตั้ง เธอจะได้เป็นผู้หญิงเชื้อสายอเมริกัน-เอเชีย คนแรก และเป็นผู้สมัครที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่ได้เป็นสมาชิกสภาเมืองเคมบริดจ์ ซึ่งถึงแม้ว่าเธอจะถูกวิจารณ์ว่ายังเด็กเกินไป อีกทั้งไร้ประสบการณ์ แต่เธอก็ยังคิดบวกเสมอ
"ผู้สมัครทุกคนต่างชูประเด็นเรื่องความยั่งยืนของที่พักอาศัย ซึ่งมันต้องเป็นที่ที่ผู้คนสามารถรับไหวและจ่ายได้ ฉันก็ชูประเด็นนี้เช่นกัน แต่สิ่งที่ฉันแตกต่างจากผู้สมัครคนอื่น ๆ ก็คือ ฉันเป็นคนดียวที่เคยผ่านจุดนั้นมาแล้ว และฉันมองว่าการไม่เข้าใจถึงปัญหาอย่างแท้จริง คือจุดอ่อนสำคัญของนโยบายข้อนี้"
"มันเป็นอะไรที่น่าหวาดหวั่นและเหนื่อยที่สุดเท่าที่ฉันเคยทำมา ฉันไม่สามารถทำมันคนเดียวได้ ฉันต้องร่วมมือกับผู้คนมากมาย และพวกเขาต้องเป็นคนที่เชื่อในสิ่งที่ฉันจะทำ มากเท่า ๆ กับที่ฉันเชื่อ ฉันอยากเป็นตัวแทนเสียงเล็ก ๆ ของกลุ่มคนที่ไม่เคยเข้าไปนั่งในสภามาก่อน เราไม่เคยมีนักศึกษาในสภา และฉันก็อยากเป็นตัวแทนนั้นค่ะ " นาเดีย กล่าว





ข้อมูลจาก Vote Nadya for Cambridge City Council, Camions of Care