ลูกสาวพนักงานวินรถตู้กาญจนบุรีเชื่อแม่ถูกกรอกยา หลังพนักงานสอบสวนเผย..ก่อนตายแม่เล่าว่าถูกสาวทอมและเพื่อนชาย 3 คน กรอกยา ปมถูกทวงถามค่าแรงช่วยงานก่อสร้าง
สืบเนื่องจากที่นางสาวพิมพ์ผกา เสือสด อายุ 20 ปี เข้าร้องขอความเป็นธรรมหลัง นางวาสนา เตียวตระกูล อายุ 42 ปี ผู้เป็นแม่ พนักงานดูแลรถตู้โดยสารสาธารณะแห่งหนึ่งใน อ.เมืองกาญจนบุรี เสียชีวิตจากการกินยาฆ่าแมลงเข้าไป เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2560 โดยเจ้าตัวไม่เชื่อว่าเป็นการฆ่าตัวตาย เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า ก่อนที่แม่จะเสียชีวิต ได้บอกว่าถูกกรอกยาจากฝีมือสาวทอม ชื่อเปิ้ล และเพื่อนชายอีก 3 คน ตามที่มีรายงานไปแล้วนั้น (อ่านข่าว : พบหลักฐานชัด สาวใหญ่ซื้อยาฆ่าแมลงจริง หลังลูกร้อง แม่ไม่ได้ฆ่าตัวตาย)
เกี่ยวกับเรื่องนี้ ล่าสุด (17 พฤศจิกายน 2560) รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง Amarin TV รายงานบทสัมภาษณ์นางสาวพิมพ์ผกา เสือสด อายุ 20 ปี เผยว่า ครอบครัวได้มีการจัดพิธีฌาปนกิจแม่ไปแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา แต่ตนเองก็ยังไม่เชื่อว่าแม่จะฆ่าตัวตายเอง เพราะทางแพทย์ได้ระบุว่า แม่ตนกินยาไปถึง 200 ซี.ซี. ซึ่งเป็นปริมาณที่เยอะเกินที่คนทั่วไปจะกินเข้าไปได้
นางสาวพิมพ์ผกา กล่าวอีกว่า ในส่วนของสาวทอมที่ชื่อเปิ้ล บุคคลที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า แม่เป็นคนบอกว่าเป็นคนลงมือกรอกยาให้กินก่อนจะเสียชีวิตนั้น ตนไม่รู้จัก และไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน ซึ่งแม่ของตนเป็นคนค่อนข้างเก็บตัว ไม่ชอบยุ่งกับใคร ในวันเกิดเหตุแม่นั่งรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างจาก อ.ท่ามะกา ไปยัง อ.เมือง ก่อนกลับมากินยาใน อ.ท่าม่วง ในระยะทางที่ไกลกันนั้น ตนเชื่อว่าแม่น่าจะถูกคนบังคับให้ไป และอีกอย่างแม่ก็พักอาศัยอยู่ใน อ.เมือง ไม่น่ามีเหตุผลที่ต้องนั่งรถไปกินยาถึงที่ อ.ท่าม่วง
จากการสอบถามเพื่อนร่วมงานของนางวาสนา ที่วินรถตู้ เผยว่า นางวาสนาทำงานที่นี่มาได้ 1 ปี เป็นพนักงานดูแลอู่รถตู้ และพักอาศัยภายในห้องพักที่อู่เพียงคนเดียว ที่ผ่านมาไม่ค่อยยุ่งกับใคร และไม่เคยเห็นเพื่อน หรือคนรู้จักมาหา ปกติแล้วนางวาสนาชอบมีพฤติกรรมแปลก ๆ เช่น ชอบพูดคนเดียว อ้างว่ามีจิตสัมผัส และช่วงสัปดาห์ก่อนเกิดเหตุ นางวาสนามีอาการเซื่องซึมผิดปกติ ก่อนจะหายไปในคืนวันที่ 8 พฤศจิกายน และกลับมาช่วงเที่ยงของวันที่ 9 พฤศจิกายน โดยบอกว่าหายไปหาหมอผีมาเพราะถูกผีหลอก จนมาวันเกิดเหตุช่วงเวลาประมาณ 10 โมง นางวาสนาได้นั่งวินมอเตอร์ไซค์หายออกไปจากที่ทำงาน พร้อมกับเงินที่เก็บค่าตั๋ว 1,300 บาท
นายสมพิศ ทูลประสม วินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เผยว่า นางวาสนาได้เดินมาหาตนและถามว่าไปเมืองกาญจนบุรี คิดราคาเท่าไร ตนเองก็บอกไปว่า 200 บาท นางวาสนาจึงขอสูบบุหรี่ก่อน 1 มวน และให้ตนขี่ไปส่ง ซึ่งตนขี่ไปบนถนนแสงชูโต มุ่งหน้าสู่ตัวเมือง จ.กาญจนบุรี ระหว่างทางบริเวณแยกท่ามะกา นางวาสนามีท่าทีลังเลว่า จะไปหาเพื่อนที่วัดท่ามะกา แต่ก็เปลี่ยนใจให้ขี่รถเข้าเมืองเช่นเดิม โดยตนขี่ไปส่งที่บริเวณชุมชนเตาปูน ฝั่งตรงข้ามสถานีอุตุนิยมวิทยากาญจนบุรี ใช้เวลาเดินทางรวม 30 นาที และตนก็ไม่ได้สังเกตว่านางวาสนาเดินเข้าไปในชุมชนหรือไม่
ขณะที่ นายวิเชียร สังข์มณี ชาวบ้านในพื้นที่จุดเกิดเหตุ บริเวณจุดชมวิวเขื่อนแม่กลองใน อ.ท่าม่วง ที่เห็นเหตุการณ์ เผยว่า ตนเองเห็นนางวาสนาช่วงเวลาประมาณบ่ายโมงวันที่ 10 พฤศจิกายน ขณะที่ตนกำลังนำวัวมากินหญ้าข้างทะเลสาบท่าม่วง เห็นคนนอนคว่ำหน้าข้างทะเลสาบ โดยมีการผงกศีรษะขึ้นมา 1 ครั้ง ตนคิดว่าเป็นผู้ชายที่เมาแล้วมานอนหลับอยู่แถวนั้น จนเวลาผ่านไป ตนเดินกลับมาที่จุดเกิดเหตุอีกครั้ง ก็พบมีชาย 3 คน บอกเล่าให้ตนฟังว่าคนที่นอนคว่ำหน้าเป็นผู้หญิง กินยาฆ่าหญ้าเข้าไปปริมาณมาก และเมื่อตนเดินเข้าไปดูที่จุดเกิดเหตุก็พบขวดยาฆ่าหญ้า และร่องรอยของยาที่หกบนพื้น ห่างจากจุดที่พบร่างของนางวาสนา ประมาณ 3 เมตร และยังมีร่องรอยหญ้าล้มคาดถูกทับด้วยเท้าคนด้วย
ด้าน ร.ต.อ. ชุมพล เหลืองเอี่ยม รองสารวัตรสอบสวน สภ.ท่าม่วง พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า ตนเองเข้าสอบปากคำนางวาสนาหลังถูกส่งตัวมาก่อนเสียชีวิต ผู้ตายระบุว่า ตนเองถูกสาวทอมชื่อเปิ้ล พร้อมพวกอีก 3 คน จับกรอกยา สาเหตุมาจากที่ตนไปทวงถามเรื่องค่าแรงที่เคยช่วยงานก่อสร้าง จำนวน 3 วัน ได้ค่าแรงวันละ 240 บาท แต่ทอมชื่อเปิ้ลไม่พอใจ จึงจับกรอกยา พร้อมกันนี้ยังระบุอีกด้วยว่าทอมชื่อเปิ้ลนั้น ทำงานในแคมป์ก่อสร้าง บริเวณชุมชนวัดศรีโลหะราษฎร์บำรุง อ.ท่าม่วง
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ. ภัคภณ เล็กท่าไม้ ผู้กำกับการ สภ.ท่าม่วง กล่าวว่า เบื้องต้นอยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่เร่งตรวจสอบเพื่อคลี่คลายคดีอยู่ เพื่อให้ความเป็นธรรมแก่ครอบครัวผู้ตาย รวมถึงอยู่ระหว่างสืบหาตัวสาวทอมที่ชื่อเปิ้ล บุคคลที่ผู้ตายเปิดเผยว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุมาสอบสวนแล้ว
ภาพและข้อมูลจาก
