จากกรณีที่ศาลฎีกายกคำร้องขอรื้อฟื้นคดีนางจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร คดีขับรถชนคนตายเมื่อปี พ.ศ. 2548 กระทั่งปี 2556 ศาลมีคำพิพากษาจำคุก 3 ปี 2 เดือน ก่อนได้รับอภัยโทษออกมาในปี 2558 ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกมาระบุว่า หากพบว่ามีการสร้างเรื่องเกี่ยวกับพยานหลักฐานต่าง ๆ ขึ้นมาจริง ทางตำรวจจะต้องดำเนินคดีกับผู้ที่เคยออกมาเป็นพยานก่อนหน้านี้ รวมถึงตัวของ ครูจอมทรัพย์ ก็จะมีความผิดด้วยเช่นกัน
ขณะที่ต่อมา พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้เปิดเผยว่า มั่นใจตั้งแต่แรกว่าคดีครูจอมทรัพย์ไม่มีแพะ พร้อมยืนยันว่าการฟ้องกลับนั้นไม่ใช่เรื่องการกู้ศักดิ์ศรี แต่เป็นเรื่องความเป็นธรรม จากนั้น นายสับ วาปี ได้โผล่มอบตัวพร้อมกับสารภาพว่าถูกครูอ๋อง จ้าง 4 แสน ให้รับผิดคดีชนคนตายแทนครูจอมทรัพย์ (อ่านเพิ่มเติม : สับ วาปี สารภาพแล้ว ครูอ๋อง จ้าง 4 แสน ให้รับผิดคดีครูจอมทรัพย์)
ขณะที่เมื่อวานนี้ (23 พฤศจิกายน) เจ้าหน้าที่ตำรวจ จังหวัดนครพนม ได้แจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับครูจอมทรัพย์ ข้อหานำสืบและแสดงหลักฐานอันเป็นเท็จต่อศาล ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 180 วรรค 2 มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 14,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ พร้อมเตรียมรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อขอศาลออกหมายจับต่อไป
นอกจากนี้ หลังมีคำสั่งตั้งคณะกรรมการชุดใหญ่ ขึ้นมาพิจารณาพยานหลักฐานคดีครูจอมทรัพย์ ตำรวจฝ่ายสืบสวนจากกองบัญชาการภาค 4 ก็ได้เตรียมเข้ารายงานตัวเพื่อรับมอบหน้าที่ และดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามแนวทางที่จัดแบ่งไว้ 7 กลุ่ม ใน 7 ฐานความผิดอย่างเร่งด่วน
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก