รพ.พระมงกุฎฯ ชี้สามารถเก็บอวัยวะได้ โดยไม่ต้องแจ้งญาติ เหตุเป็นวัตถุพยานชิ้นหนึ่ง รับเสียใจถือเป็นบทเรียนลืมนึกถึงจิตใจญาติผู้ตาย ด้านสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ระดมทีมแพทย์ตรวจชันสูตร น้องเมย คาด 7 วันทราบผล
ความคืบหน้ากรณีการเสียชีวิตของ นายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ น้องเมย นักเรียนเตรียมทหาร ชั้นปีที่ 1 ซึ่งต่อมาครอบครัวได้นำร่างไปชันสูตรและพบว่าอวัยวะภายในหายไป โดยทางโรงพยาบาลไม่มีการแจ้งขออนุญาต ทำให้ครอบครัวยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิตของน้องเมยในครั้งนี้
ล่าสุด (23 พฤศจิกายน 2560) พล.ต. นพ.ธารา พูนประชา ผอ.สถาบันพยาธิวิทยา ศูนย์อำนวยการแพทย์พระมงกุฎเกล้า ออกมายอมรับว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเป็นบทเรียนของทีมแพทย์ที่ไม่ได้ดูแลจิตใจคนไข้ อย่างไรก็ตาม กฎหมายอนุญาตให้เก็บอยู่แล้ว โดยไม่ต้องขอความยินยอม เนื่องจากถือว่าเป็นวัตถุพยาน กรณีที่เป็นการตายผิดธรรมชาติ มีทั้งหมด 5 ประเภท คือ 1. ฆาตกรรม 2. ถูกทำให้ตาย 3. ฆ่าตัวเองตาย 4. กินยาพิษ และ 5. ตายโดยไม่รู้สาเหตุ จึงเป็นกฎหมายที่ให้นิติเวชเก็บอวัยวะไว้ได้
ส่วนถามว่ามีการซ้อมหรือไม่นั้น จากการตรวจสอบไม่มี มีเพียงการผิดปกติของหัวใจ สำหรับภาวะปอดคั่งเลือดเกิดจากการที่หัวใจหยุดเต้น ซึ่งเป็นปกติในคนที่ภาวะหัวใจหยุดเต้น เพราะเลือดที่เคยไปเลี้ยงหัวใจไม่มี จึงทำให้ไหลย้อนกลับสู่ปอด ซึ่งตนผ่าศพมาทุกเคส ส่วนใหญ่เลือดคั่งปอดจะพบในคนไข้ที่ช็อกหรือหัวใจหยุดเต้นได้เสมอ
ส่วนจะรู้ได้อย่างไรว่าอวัยวะชิ้นส่วนเหล่านี้เป็นของคนไข้หรือไม่ ต้องตรวจสอบยีนซึ่งมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง ขอบอกก่อนว่าตนไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในกรณีดังกล่าว และไม่จำเป็นต้องไปปกป้องโรงเรียนเตรียมทหาร ไม่มีการเอนเอียง ไม่มีใครมาบังคับได้ และหากโดนบังคับจะลาออก เพราะเราต้องเคารพผู้เสียชีวิตและญาติของผู้เสียชีวิตด้วย ครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนของทางหน่วยงานที่เราดูแค่ศพ และลืมนึกถึงจิตใจญาติ ซึ่งจะกลับไปพัฒนาปรับปรุงให้ดีขึ้น สำหรับชิ้นส่วนอวัยวะทุกเคสที่เก็บไปนั้น ทางสถาบันไม่มีการทิ้ง แต่จะนำไปบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมปีละ 1-2 ครั้ง ไม่สามารถนำไปทิ้งได้อยู่แล้ว
ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Sukanya Tanyakan, ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก