ส่งศพต่างด้าวเหยื่อรถตู้เสยท้ายรถบรรทุกไฟไหม้ย่างสด 14 ศพ ชันสูตรที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ
จากอุบัติเหตุสุดสลด เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 เกิดอุบัติเหตุรถตู้ ทะเบียน 33-3241 กทม. ที่บรรทุกแรงงานต่างชาติมาจาก จ.ตาก มุ่งหน้าสู่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี มาเต็มจำนวนที่นั่ง ได้พุ่งเข้าชนท้ายรถบรรทุกข้าวสาร จนเกิดเพลิงลุกไหม้ทั้งคัน จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 14 คน โดยสาเหตุเบื้องต้นคาดว่า คนขับอาจหลับในนั้น
ด้าน พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษก ตร. เปิดเผยถึงกรณีข่าวรถตู้ขนส่งแรงงานต่างด้าวชนท้ายรถบรรทุกสิบล้อ มีผู้เสียชีวิตรวม 14 คน ที่ สภ.เมืองสิงห์บุรี ว่า ตนได้รับรายงานเหตุดังกล่าวทราบว่าเมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 เวลา 02.30 น. พนักงานสอบสวน สภ.เมืองสิงห์บุรี ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ตู้โดยสารรับจ้างไม่ประจำทาง เฉี่ยวชนรถบรรทุกสิบล้อ แล้วรถตู้เกิดไฟลุกไหม้คลอกผู้โดยสารและคนขับเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนสายเอเชียขาล่อง กม.ที่ 90+600 ม.3 ต.บางมัญ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและเดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึงพบ รถบรรทุกสิบล้อ ยี่ห้อมิตซูบิชิ ทะเบียน 81-7407 นครสวรรค์ จอดอยู่ในที่เกิดเหตุ สภาพด้านท้ายได้รับความเสียหาย มีนายสุนทร ฟักทอง อายุ 56 ปี แสดงตัวเป็นผู้ขับขี่ และรถตู้โดยสารรับจ้างไม่ประจำทาง ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน 33-3241 กทม. อยู่ในที่เกิดเหตุ สภาพถูกไฟไหม้ทั้งคัน มีผู้เสียชีวิต 14 คน คนขับเป็นชาวไทย 1 คน และมีผู้โดยสารเป็นชาวพม่า 13 คน สภาพศพถูกไฟเผาไหม้ดำยังไม่สามารถพิสูจน์บุคคลได้ จากการสอบสวนทราบว่ารถตู้คันดังกล่าวเป็นของ หจก.บุญเรือน ทัวร์ รับแรงงานต่างด้าวพม่าทั้งหมดจาก อ.แม่สอด จ.ตาก ไปส่งให้นายจ้างที่ จ.สมุทรปราการ แต่ประสบเหตุชนท้ายรถบรรทุกเสียก่อน จนเกิดเพลิงไหม้ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด พนักงานสอบสวนจึงร่วมกับแพทย์ตรวจสถานที่เกิดเหตุและได้ส่งศพผู้ตายทั้งหมดมายังนิติเวช รพ.ตำรวจ เพื่อพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลและหาสาเหตุการตายต่อไป
รองโฆษก ตร. กล่าวต่ออีกว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบเอกสารของรถตู้ถูกต้องและเอกสารของแรงงานต่างด้าวพม่า การเข้ามาในราชอาณาจักรถูกต้องและได้แจ้งให้สถานทูตพม่าประจำประเทศไทยทราบถึงเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว ส่วนทางคดีอยู่ระหว่างสอบสวนพยานในที่เกิดเหตุ รอผลตรวจร่องรอยการเฉี่ยวชน และรอผลการชันสูตรพลิกศพเพื่อหาสาเหตุการตาย
ด้าน พล.ต.อ. จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบแรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในประเทศไทยอย่างเข้มงวด ต่อเนื่องและเป็นประจำอยู่แล้ว เพื่อให้ประเทศไทยมีแรงงานต่างด้าวที่ถูกต้องตามกฎหมายและเป็นแรงงานที่มีประสิทธิภาพในการทำงานต่อไป