นักเรียน 8 ขวบ กำลังปั่นจักรยานกลับบ้าน ถูกรถกระบะพุ่งขนอย่างจัง อาการบาดเจ็บสาหัส คาดหลบไม่พ้นเพราะชาวบ้านตากข้าวจนเหลือถนนเลนเดียว สุดเวทนาย่านั่งร้องไห้ข้างกองเลือดเป็นห่วงหลาน
วันที่ 24 พฤศจิกายน 2560 มีรายงานว่า เกิดเหตุรถปิกอัพเฉี่ยวชนเด็กนักเรียน อายุ 8 ขวบ ขณะเดินทางกลับจากโรงเรียน บริเวณราวสะพานระหว่างบ้านผาง-บ้านอุดม ต.ชุมแสง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ โดยมีชาวบ้านและเด็กนักเรียนมามุงดูเป็นจำนวนมาก
ส่วนนักเรียนที่ได้รับบาดเจ็บทางเจ้าหน้าที่กู้ชีพได้เร่งนำตัวส่งไปโรงพยาบาลแล้ว สภาพมีเลือดออกตามปากและจมูก มีแผลถลอกบริเวณใบหน้าอาการสาหัส และไม่รู้สึกตัว เบื้องต้นอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด พร้อมกับต้องใส่ท่อช่วยหายใจ
จากการสอบถามนายสนั่น มุ่งดี อายุ 31 ปี คนขับรถปิกอัพ เล่าว่า ตนขับรถกำลังจะกลับบ้าน พอมาถึงที่เกิดเหตุตนได้ขับรถเฉี่ยวชนกับเด็กนักเรียนที่ยืนหลบรถอย่างไม่ตั้งใจ ด้วยความตกใจจึงหักพวงมาลัยอย่างแรงทำให้รถตกลงไปข้างทางและจมน้ำอย่างที่เห็น ตนและผู้โดยสารที่มาด้วยตะเกียกตะกายออกมาจากรถได้อย่างหวุดหวิด
ขณะที่ ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนกำลังตากข้าวอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ พบเด็กนักเรียนปั่นจักรยานบนถนนแบบสวนเลน เพราะอีกเลนตากข้าว พอมีรถวิ่งมา ตนจึงตะโกนให้หลบออกจากถนนเพราะอันตราย เด็กนักเรียนก็ได้ยืนจับรถจักรยานบริเวณเส้นเหลือง เพื่อรอให้รถกระบะคันดังกล่าวสวนไป แต่จู่ ๆ รถที่วิ่งมาด้วยความเร็วได้เลี้ยวตรงมาที่เด็กยืนอย่างกะทันหัน ทำให้เด็กหลบไม่ทันถูกชนเข้าอย่างจัง ก่อนรถปิกอัพพุ่งลงข้างถนนตกลงไปในคูน้ำ จากนั้นตนรีบวิ่งมาดูเด็กพบว่าไม่มีสติ จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนคนขับรถปิกอัพและคนโดยสารมีชาวบ้านช่วยเหลือขึ้นมาจากน้ำ
สำหรับคนขับทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาเบื้องต้นขับรถด้วยความประมาท ส่วนมีอาการเมานั้นต้องรอพิสูจน์หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ต่อไป ทั้งนี้ ในส่วนบริเวณถนนดังกล่าวชาวบ้านมักจะนำข้าวมาตากเป็นทางยาว และได้กินเนื้อที่ถนนจนถึงครึ่งเลน สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้รถใช้ถนน ซึ่งบรรดาครูและผู้ปกครองต่างเป็นห่วงว่าจะเกิดอุบัติเหตุกับเด็กนักเรียนได้ แต่ก็เห็นใจชาวบ้านที่ไม่มีที่ตาก
ภาพจาก ไบรท์ทีวี 20
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
