คนขับรถตู้เมืองนครปฐม ขับรถลากศพหัวหน้า รปภ. กลับบ้านไกลกว่า 3 กิโลเมตร เจ้าตัวอ้างไม่ได้เฉี่ยวชน แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ คาดอาจชนเอง
วันที่ 29 พฤศจิกายน 2560 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครปฐม ได้รับแจ้งจาก นายจินดา สุนศุข เจ้าของบริษัทรถตู้โดยสารประจำทางสายกรุงเทพฯ-นครปฐม ว่า พบศพผู้เสียชีวิตเกี่ยวอยู่ที่หน้ารถตู้ของตนเอง โดยที่ไม่ทราบว่าเฉี่ยวชนมาเมื่อใด ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ
หลังรับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ได้เข้ามาตรวจสอบบริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่งใน
ต.หนองปากโลง อ.เมืองนครปฐม โดยที่บริเวณบ้านพบรถตู้สีขาว ยี่ห้อโตโยต้า
สายกรุงเทพฯ-นครปฐม เป็นรถร่วม บขส. ม 2 จ 83-12 ช. เป็นรถรับ-ส่งผู้โดยสารเฉพาะต้นทางและปลายทาง หมายเลขทะเบียนป้ายเหลือง
15-8308 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ในสภาพหน้ารถไม่มีร่องรอยการชน โดยที่ใต้ท้องรถบริเวณหน้ารถพบศพ นายประเสริฐ ภู่ระย้า อายุ 57 ปี หัวหน้า
รปภ. สภาพศพนอนเสียชีวิตอยู่ที่ใต้ท้องรถบริเวณล้อหน้า แขนขาหัก
ผิวหนังถลอก เนื้อหลุดช่วงแผ่นหลัง
โดยมีเสื้อเกี่ยวอยู่กับเหล็กใต้ท้องรถยนต์
เจ้าหน้าที่ช่วยกันนำศพออกมาเพื่อร่วมกันชันสูตร จากการสอบถามนายจินดา สุนศุข คนขับรถตู้ ให้การในเบื้องต้นว่า
ปกติแล้วจะมีพนักงานเป็นคนขับรถตู้ดังกล่าว แต่วันนี้พนักงานลา
ตนจึงมาขับเอง เมื่อเลิกงานแล้วก็ขับรถไปเติมแก๊สรถยนต์แถวบริเวณวัดไทร
อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม จากนั้นมุ่งหน้าเข้าสู่เมืองนครปฐม
ขับมาถนนเพชรเกษมแล้วเลี้ยวรถกลับเข้าบ้าน โดยใช้เส้นทางมาลัยแมน ในขณะที่กำลังลงมาจากสะพานได้สังเกตเห็นรถจักรยานยนต์ล้ม
แต่ไม่พบศพแต่อย่างใด จึงขับรถมุ่งหน้ากลับมาบ้าน
แต่เมื่อมาถึงบ้านก็ต้องตกใจเพราะมีศพติดมาด้วย
แต่หน้ารถตู้ของตนไม่มีร่องรอยการเฉี่ยวชนแต่อย่างใด และจากการตรวจสอบบริเวณหน้าร้านอาหารกุ้งอบภูเขาไฟ
ห่างจากบ้านของคนขับรถตู้ประมาณ 3 กิโลเมตร พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ สีบรอนซ์เทา หมายเลขทะเบียน กษน 558 นครปฐม เป็นของผู้ตายล้มคว่ำอยู่
แต่ไม่มีร่องรอยการเฉี่ยวชน
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การดังกล่าว โดยตั้งข้อสังเกตว่า
เป็นไปไม่ได้ที่คนขับรถตู้ขับลากศพคนมาแล้วจะไม่รู้ตัว
ประกอบกับท้องรถตู้ไม่สูงมาก
ถ้ามีอะไรติดมาน่าจะต้องรู้สึกว่ามีอะไรครูดอยู่ด้านล่าง
คาดว่าทีแรกที่ชนคงคิดว่าจะหนีหรือไม่
หรืออาจจะพยายามสลัดศพให้หลุดกลางทางแต่ไม่สำเร็จ เลยเลี้ยวเข้าบ้าน
ก่อนจะตัดสินใจโทร. แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เบื้องต้นจึงแจ้งข้อหาขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ส่วนกรณีชนแล้วตั้งใจจะหนีหรือไม่นั้น ต้องตรวจสอบต่อไป
ภาพและข้อมูลจาก
ข่าวเวิร์คพอยท์ข้อมูลจาก สำนักข่าว INN
