ผงะแรง ลูกเก็บศพพ่อจนเน่า-ไม่บอกใครว่าพ่อตาย หวังจิ๊กเงินพ่อ ซื้อยาเสพ

          ลูกชายเก็บศพพ่อไว้จนเน่าคาบ้าน ไม่บอกใครว่าพ่อตาย หวังจิ๊กเงินพ่อ ไปซื้อยาเสพ อ้างไม่รู้เรื่องเลยว่าพ่อตายแล้ว

          วันที่ 29 พฤศจิกายน 2560 เว็บไซต์มิเรอร์ มีรายงานคดีที่ศาลคราวน์คอร์ทของเมืองเลสเตอร์ ในประเทศอังกฤษ เปิดฉากการพิจารณาดคี หลังพบว่า เคย์รอน เวสต์ ชายวัย 36 ปี ได้เก็บศพของพ่อเขาไว้ภายในบ้านเป็นเวลานานถึง 3 สัปดาห์ กระทั่งศพเริ่มเน่า โดยไม่แจ้งใครเรื่องการตายของพ่อเนื่องจากเขาต้องการนำเงินค่าจ้างรายสัปดาห์ของพ่อไปซื้อยาเสพติดมาเสพ
          รายงานเผยว่า ปีเตอร์ วัย 60 ปี พ่อของเวสต์ มีอาชีพเป็นบุรุษไปรษณีย์ที่ได้รับค่าจ้างเป็นรายสัปดาห์ โดยเงินค่าจ้างส่วนนี้จะถูกโอนเข้าบัญชีธนาคารที่ปีเตอร์เปิดร่วมกับลูกชาย ต่อมาปีเตอร์ซึ่งเป็นผู้ป่วยโรคเบาหวาน ได้เสียชีวิตอยู่ภายในห้องนอน ซึ่งแทนที่ผู้เป็นลูกจะแจ้งทางการ แล้วนำศพของพ่อไปฝังให้เหมาะสมตามที่กฎหมายกำหนด เขากลับเลือกที่จะปล่อยศพพ่อทิ้งไว้เช่นนั้น เพื่อให้หน่วยงานต้นสังกัดยังคงโอนเงินค่าจ้างของพ่อเข้าบัญชีมา และเขาก็ได้เบิกเงินส่วนนั้นไปซื้อโคเคนและเฮโรอีน

          กระทั่งเวลาผ่านไป 3 สัปดาห์ ร่างของปีเตอร์เริ่มเน่าสลายและส่งกลิ่นเหม็นเกินกว่าที่เวสต์จะซ่อนศพเขาต่อไปได้ ลูกชายตัวแสบจึงทำอุบายหลอกแม่ของตัวเอง ซึ่งแยกทางกับปีเตอร์ไปแล้ว ให้ช่วยไปเช็กดูว่าปีเตอร์ยังมีชีวิตอยู่ดีในบ้านของเขาหรือไม่ จนเธอไปพบศพเข้าในที่สุด

          อย่างไรก็ตามหลังจากที่เรื่องถึงศาล ปีเตอร์กลับยืนกรานปฏิเสธความผิดฐานไม่ทำการฝังศพอย่างเหมาะสม เขาทำทีเป็นสะอื้นไห้และบอกว่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับพ่อมันช่างเลวร้ายเหมือนหนังสยองขวัญ และอ้างว่าตลอดเวลา 3 สัปดาห์นั้นเขาไม่ได้อยู่ที่บ้าน แต่ไปพักอยู่กับคนรัก เลยไม่รู้ว่าพ่อของเขาตายแล้ว

          เวสต์ยังบอกอีกว่าตัวเขามักจะเสพยาเสพติดจนเมายาหนัก และตัวเองก็แทบไม่เคยคุยกับพ่อ แต่ต่อมาเมื่อมีการแสดงหลักฐานบางอย่างต่อศาล เขาก็กลับคำ บอกว่าได้แวะไปที่บ้านอยู่หลายครั้งในช่วงเวลา 3 สัปดาห์นั้น แต่ก็ไม่รู้เลยว่ามีศพพ่ออยู่บนบ้าน

          ด้านอัยการเผยว่า มีคนพบเห็นปีเตอร์ครั้งสุดท้ายในวันที่ 26 พฤษภาคม 2560 ตอนที่เขาไปเปลี่ยนผ้าทำแผลที่โรงพยาบาล และชุดที่เขาสวมตอนตายก็เป็นชุดเดียวกับที่ไปโรงพยาบาล เมื่อพิจารณาจากการเน่าของศพ มันชัดเจนว่าเขาไม่ได้เพิ่งตาย ดังนั้นจึงเป็นที่เข้าใจได้ว่าลูกชายของปีเตอร์ไม่ต้องการเสียรายได้เสริมในส่วนค่าจ้างของพ่อไป

          อย่างไรก็ตามแม้เวสต์จะปฏิเสธ แต่ท้ายที่สุดเขาก็ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดจริง โดยกระทำผิดร่วมกับคนรักของเขา ขณะที่ศาลยังพบด้วยว่าเวสต์นั้นกำลังมีปัญหาเรื่องการเงินอยู่