ย้อนดูคดีกระฉ่อนโลก เมื่อหลานมหาเศรษฐีที่ขึ้นชื่ อว่าร่ำรวยสุดในโลกถูกลักพาตัว แต่กลับถูกปู่วางเฉย ลั่นจะไม่จ่ายค่าไถ่แม้แต่ แดงเดียว จนนำไปสู่ชะตากรรมอันเลวร้าย
นับเป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่ องที่อยู่ในความสนใจของคอหนั งขณะนี้ สำหรับ All the Money in the World ที่นำเรื่องราวคดีลักพาตัวสุ ดสะพรึง ของทายาทอภิมหาเศรษฐีระดับโลก มาถ่ายทอดซ้ำผ่านทางแผ่นฟิล์ม อย่างไรก็ตามในขณะที่การถ่ ายทำภาพยนตร์ยังไม่เสร็จสิ้น ล่าสุด (4 ธันวาคม 2560) เว็บไซต์อินดิเพนเดนท์ จึงถือโอกาสนี้พาเราไปย้อนดู เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในอดีต เมื่อมหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยที่สุ ดในโลก ปฏิเสธที่จะจ่ายค่าไถ่แลกชีวิ ตหลานชาย จนกลายเป็นเหตุการณ์กระฉ่อนโลก
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มต้ นในเดือนกรกฎาคม 2516 จอห์น พอล เก็ตตี้ ที่ 3 (J. Paul III) เด็กหนุ่มวัย 16 ปี ถูกแก๊งคนร้าย 3 คนจับตัวไปเรียกค่าไถ่ เขาถูกนำตัวไปซ่อนไว้ในถ้ำแห่ งหนึ่งระหว่างที่คนร้ ายพยายามจะเรียกร้องเงิ นจำนวนมหาศาลถึง 17 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 5.53 ร้อยล้านบาท) จากครอบครัวของเขา เพราะคนร้ายรู้ดีว่าเด็กหนุ่ มรายนี้เป็นหลานแท้ ๆ ของ จอห์น พอล เก็ตตี้ (J.Paul Getty) อภิมหาเศรษฐีชาวอเมริกันเจ้ าของโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นบุ คคลที่ร่ำรวยที่สุ ดของโลกในเวลานั้น
อย่างไรก็ตามทุกอย่างดูจะผิ ดแผนเมื่อทั้งตำรวจและครอบครั วของเด็กหนุ่ม เชื่อสนิทใจว่าจดหมายเรียกค่ าไถ่ที่ส่งมานั้นเป็นเพียงเรื่ องหลอก เพราะที่ผ่านมา จอห์น พอล เก็ตตี้ที่ 3 มีไลฟ์สไตล์ที่ค่อนข้างจะขั ดใจปู่อย่างรุนแรง เขาเป็นโบฮีเมียนใต้ดิน แถมยังหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นจิ ตรกรในกรุงโรม ดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่าเด็กหนุ่ มอาจกุเรื่องขึ้นเพื่อหวังเงิ นจากทางบ้านก็ได้
อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นอีก 3 เดือน คนร้ายที่ทนไม่ไหวต่อการเมิ นเฉยของครอบครัวนี้จึงลงมือเฉื อนใบหูของเด็กหนุ่ม และส่งมันไปถึงหนังสือพิมพ์เจ้ าหนึ่ง ในตอนนั้นเองที่ เกล (Gail) ผู้เป็นแม่ของ จอห์น พอล เก็ตตี้ ที่ 3 ตระหนักว่าการลักพาตัวดังกล่ าวเป็นเรื่องจริง !
แต่แม้จะเป็นเช่นนั้นปู่ มหาเศรษฐีของเด็กหนุ่มก็ยื นกรานที่จะไม่สละเงินของเขาเพื่ อหลานชาย โดย จอห์น พอล เก็ตตี้ ถึงกับลั่นวาจาต่อสื่อด้วยซ้ำ ว่าเขาจะไม่จ่ายเงินให้กับคำขู่ นี้เด็ดขาด "ผมยังมีหลานอีก 14 คน ถ้าผมจ่ายแม้แต่เหรียญเดี ยวตอนนี้ ผมก็จะมีหลานที่ถูกลักพาตัวเพิ่ มอีก 14 คน"
สุดท้ายผู้เป็นแม่ต้ องพยายามทำทุกอย่างเพื่อหาเงิ นมาเป็นค่าไถ่ตัวลูกชาย ทั้งยังพยายามเจรจาต่อรองกั บคนร้าย จนท้ายที่สุด ลูกชายของเธอก็ได้รับอิสระอี กครั้งหลังถูกจับตัวไว้นานถึง 5 เดือน แลกกับเงินค่าไถ่จำนวน 2.2 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 71 ล้านบาท)
ทั้งนี้ความยึดมั่นที่จะไม่จ่ ายเงินแม้แต่แดงเดียวเพื่ อหลานชาย ทำให้คดีดังกล่าวกลายมาเป็นคดี ที่สร้างความลือลั่นไปทั่วโลก และมันช่างน่าเศร้าที่แม้คนร้ ายจะถูกจับตัวได้ในเวลาต่อมา แต่นั่นก็ไม่อาจเยี ยวยาแผลใจของเด็กหนุ่มได้ จนท้ายที่สุดเขาก็หันหน้าเข้ าหายาเสพติด และมีการใช้ยาเกินขนาด จนกลายเป็นอัมพาตและต้องใช้ชีวิ ตบนรถเข็นอยู่อีกนานหลายสิบปี กระทั่งจากโลกนี้ไปในปี 2554 ด้วยวัย 54 ปี
ข้อมูลจาก forbes.com