x close
hilight > ข่าวต่างประเทศ

เปิดแฟ้มคดีกระฉ่อน มหาเศรษฐีลั่นวาจา..ไม่จ่ายแม้แต่แดงเดียว แม้หลานถูกเรียกค่าไถ่

| 60,926 อ่าน

 
ย้อนดูคดีกระฉ่อนโลก เมื่อหลานมหาเศรษฐีที่ขึ้นชื่อว่าร่ำรวยสุดในโลกถูกลักพาตัว แต่กลับถูกปู่วางเฉย ลั่นจะไม่จ่ายค่าไถ่แม้แต่แดงเดียว จนนำไปสู่ชะตากรรมอันเลวร้าย 
 
นับเป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องที่อยู่ในความสนใจของคอหนังขณะนี้ สำหรับ All the Money in the World ที่นำเรื่องราวคดีลักพาตัวสุดสะพรึง ของทายาทอภิมหาเศรษฐีระดับโลก มาถ่ายทอดซ้ำผ่านทางแผ่นฟิล์ม อย่างไรก็ตามในขณะที่การถ่ายทำภาพยนตร์ยังไม่เสร็จสิ้น ล่าสุด (4 ธันวาคม 2560) เว็บไซต์อินดิเพนเดนท์ จึงถือโอกาสนี้พาเราไปย้อนดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงในอดีต เมื่อมหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยที่สุดในโลก ปฏิเสธที่จะจ่ายค่าไถ่แลกชีวิตหลานชาย จนกลายเป็นเหตุการณ์กระฉ่อนโลก 

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเริ่มต้นในเดือนกรกฎาคม 2516 จอห์น พอล เก็ตตี้ ที่ 3 (J. Paul III) เด็กหนุ่มวัย 16 ปี ถูกแก๊งคนร้าย 3 คนจับตัวไปเรียกค่าไถ่ เขาถูกนำตัวไปซ่อนไว้ในถ้ำแห่งหนึ่งระหว่างที่คนร้ายพยายามจะเรียกร้องเงินจำนวนมหาศาลถึง 17 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 5.53 ร้อยล้านบาท) จากครอบครัวของเขา เพราะคนร้ายรู้ดีว่าเด็กหนุ่มรายนี้เป็นหลานแท้ ๆ ของ จอห์น พอล เก็ตตี้ (J.Paul Getty) อภิมหาเศรษฐีชาวอเมริกันเจ้าของโรงกลั่นน้ำมัน ซึ่งได้รับการยอมรับว่าเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของโลกในเวลานั้น 
 
อย่างไรก็ตามทุกอย่างดูจะผิดแผนเมื่อทั้งตำรวจและครอบครัวของเด็กหนุ่ม เชื่อสนิทใจว่าจดหมายเรียกค่าไถ่ที่ส่งมานั้นเป็นเพียงเรื่องหลอก เพราะที่ผ่านมา จอห์น พอล เก็ตตี้ที่ 3 มีไลฟ์สไตล์ที่ค่อนข้างจะขัดใจปู่อย่างรุนแรง เขาเป็นโบฮีเมียนใต้ดิน แถมยังหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นจิตรกรในกรุงโรม ดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่าเด็กหนุ่มอาจกุเรื่องขึ้นเพื่อหวังเงินจากทางบ้านก็ได้ 
 
อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นอีก 3 เดือน คนร้ายที่ทนไม่ไหวต่อการเมินเฉยของครอบครัวนี้จึงลงมือเฉือนใบหูของเด็กหนุ่ม และส่งมันไปถึงหนังสือพิมพ์เจ้าหนึ่ง ในตอนนั้นเองที่ เกล (Gail) ผู้เป็นแม่ของ จอห์น พอล เก็ตตี้ ที่ 3 ตระหนักว่าการลักพาตัวดังกล่าวเป็นเรื่องจริง ! 

แต่แม้จะเป็นเช่นนั้นปู่มหาเศรษฐีของเด็กหนุ่มก็ยืนกรานที่จะไม่สละเงินของเขาเพื่อหลานชาย โดย จอห์น พอล เก็ตตี้ ถึงกับลั่นวาจาต่อสื่อด้วยซ้ำ ว่าเขาจะไม่จ่ายเงินให้กับคำขู่นี้เด็ดขาด "ผมยังมีหลานอีก 14 คน ถ้าผมจ่ายแม้แต่เหรียญเดียวตอนนี้ ผมก็จะมีหลานที่ถูกลักพาตัวเพิ่มอีก 14 คน"
 
สุดท้ายผู้เป็นแม่ต้องพยายามทำทุกอย่างเพื่อหาเงินมาเป็นค่าไถ่ตัวลูกชาย ทั้งยังพยายามเจรจาต่อรองกับคนร้าย จนท้ายที่สุด ลูกชายของเธอก็ได้รับอิสระอีกครั้งหลังถูกจับตัวไว้นานถึง 5 เดือน แลกกับเงินค่าไถ่จำนวน 2.2 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 71 ล้านบาท)
 
ทั้งนี้ความยึดมั่นที่จะไม่จ่ายเงินแม้แต่แดงเดียวเพื่อหลานชาย ทำให้คดีดังกล่าวกลายมาเป็นคดีที่สร้างความลือลั่นไปทั่วโลก และมันช่างน่าเศร้าที่แม้คนร้ายจะถูกจับตัวได้ในเวลาต่อมา แต่นั่นก็ไม่อาจเยียวยาแผลใจของเด็กหนุ่มได้ จนท้ายที่สุดเขาก็หันหน้าเข้าหายาเสพติด และมีการใช้ยาเกินขนาด จนกลายเป็นอัมพาตและต้องใช้ชีวิตบนรถเข็นอยู่อีกนานหลายสิบปี กระทั่งจากโลกนี้ไปในปี 2554 ด้วยวัย 54 ปี 
 
ข้อมูลจาก  forbes.com
 

เรื่องที่คุณอาจสนใจ
เปิดแฟ้มคดีกระฉ่อน มหาเศรษฐีลั่นวาจา..ไม่จ่ายแม้แต่แดงเดียว แม้หลานถูกเรียกค่าไถ่ อัปเดตล่าสุด 6 ธันวาคม 2560 เวลา 17:57 60,926 อ่าน
TOP