พบกับนางฟ้าไร้ปีก หญิงสาวชาวจีนผู้พิการแขนทั้ง 2 ข้าง แต่เลือกที่จะไลฟ์สดถ่ายทอดชีวิตประจำวันให้ผู้คนได้ชม เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเขา ให้สู้กับชีวิตและไม่ย่อท้อ
เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2560 เว็บไซต์ news.xinhuanet.com เผยเรื่องราวของ หยางลี่ หญิงสาวชาวจีนวัย 27 ปี เธอเคราะห์ร้ายต้องกลายเป็นผู้พิการแขนทั้ง 2 ข้าง แต่เธอก็ไม่ปล่อยให้มันมาทำลายชีวิตที่เหลือ ตรงกันข้ามเธอกลับมุ่งมั่นที่จะเป็นแรงบันดาลใจ ให้กับคนอื่น ๆ ที่ต้องเผชิญชะตากรรมเช่นเดียวกับ หรือใครที่กำลังท้อแท้ ให้ลุกขึ้นมาสู้ได้อีกครั้ง เช่นเดียวกันกับเธอ
"ฉันเรียนรู้ที่จะแต่งหน้าในช่วงที่เรียนมหาวิทยาลัย เพื่อนร่วมชั้นทุกคนเขียนคิ้วและทาลิปสติก ฉันคิดว่าพวกเธอดูสวย" หยางลี่กล่าว
สำหรับหยางลี่ ก่อนหน้านี้เธอเคยเป็นที่รู้จักมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อปี 2549 เธอเคยมีชื่อขึ้นพาดหัวหนังสือพิมพ์มาแล้ว ภายหลังจากเธอสามารถผ่านการสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัยของจีนได้ จากการทำข้อสอบด้วยเท้า โดยขณะนี้ หยางลี่ทำงานที่บริษัทในเมืองเปิ้งปู้ มณฑลอันฮุย ทางตะวันออกของจีน โดยในช่วงพักกลางวันเธอจะใช้แอปพลิเคชันไลฟ์สตรีมมิ่งในโทรศัพท์มือถือ ถ่ายทอดสดให้บรรดาผู้ติดตามของเธอเห็นว่า เธอสามารถเอาชนะความพิการ และใช้ชีวิตได้อย่างอิสระ
โดยส่วนใหญ่ หยางลี่จะใช้เท้าข้างหนึ่งของเธอถือโทรศัพท์ไว้แล้วบอกเล่าเรื่องราวของชีวิตให้ผู้คนที่เข้ามาชมได้ฟัง และในบางครั้งเธอก็จะใช้ไม้เซลฟี่ช่วยยึดโทรศัพท์ให้ติดกับตัวช่วงบริเวณหน้าอกเพื่อให้เห็นสภาพแวดล้อมรอบข้างของเธอ โดยหยางลี่เริ่มไลฟ์ครั้งแรกในเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา ภายหลังจากนั้นคลิปวิดีโอของเธอก็กลายเป็นกระแสไวรัลอย่างรวดเร็ว มีผู้เข้าไปติดตามเธอมากถึง 2 ล้าน โดยผู้คนเหล่านั้นต่างพากันเรียกเธอว่า "นางฟ้าไร้ปีก" และ "พี่สาวผู้เป็นแรงบันดาลใจ"
"สิ่งที่ฉันทำต่างจากคนอื่น ๆ ฉันไม่ได้ร้องเพลง เล่าเรื่องตลก หรือทำท่าทางน่ารัก ๆ ฉันเพียงแค่แสดงให้พวกเขาเห็นว่า ฉันใช้ชีวิตของฉันอย่างไร" หยางลี่ กล่าว นอกจากนี้ เธอยังไม่เคยขอให้ผู้ติดตามทางออนไลน์ ส่งของขวัญหรือสิ่งใดตอบแทนมาให้เธอ แต่ทั้งนี้ เธอก็ไม่วายถูกคนบางกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ว่า เธอใช้ความพิการของเธอมาเรียกร้องความเห็นใจจากผู้คนเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง
อย่างไรก็ดี หยางลี่ ไม่เคยปล่อยให้คอมเมนต์ด้านลบเหล่านี้มาบั่นทอนจิตใจของเธอ โดยหยางลี่เผยว่า คนปกติทั่วไปก็สามารถไลฟ์สดได้ แล้วทำไมเธอถึงจะทำไม่ได้ เธอไม่ได้รู้สึกเสียใจข้อความเหล่านั้นเลย ผู้คนส่วนใหญ่เป็นกำลังใจให้เธอ และเธอก็รู้สึกได้ถึงความเคารพและความเมตตาของพวกเขาเหล่านั้น
ภาพจาก เฟซบุ๊ก China Xinhua News