เหยื่อเข้าชี้ตัว หนอ วีระชัย เอาปืนจ่อหน้ารีดทรัพย์ บอกเป็นดารา ถึงปิดหน้าแต่จำได้

         ผู้เสียหายถูกแก๊ง "ดาราอ้างเป็น ป.ป.ส." โผล่ชี้ตัวอีกราย ชี้เป็นตำรวจ ปส. ชุดสยบไพรี พร้อมยัน อดีตดาราหนุ่มเป็นคนถือปืนจ่อหน้าและเป็นคนที่เจรจาทั้งหมด

         จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Nuttapong Jitsaguan ได้โพสต์ภาพพร้อมคลิปวิดีโอเหตุการณ์ขณะที่กำลังอยู่ที่อู่ทำสีรถของตัวเอง และได้มีชายฉกรรจ์ 2 คน ขับรถมาจอดหน้าร้าน โดยอ้างตัวเป็น เจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด หรือ ป.ป.ส. ถือปืนสั้นและกระดาษมา 1 แผ่น พร้อมถามหาคนชื่อ นายณัฐพงษ์ ก่อนที่จะมีชายอีกคนเดินเข้ามาที่ร้านและถือปืนลูกซองสไลด์มา พร้อมกับเอากุญแจมือใส่ทันที ก่อนจะปิดประตูร้าน และแจ้งว่ามีหมายจับคดีครอบครองยาเสพติด เสพยาและฟอกเงิน ก่อนจะขับรถหลบหนีไปเมื่อผู้เสียหายมีการติดต่อบิดาที่เป็นทหารอากาศ และมีการเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.สายไหม

         ล่าสุดวานนี้ (7 ธันวาคม 2560) หนอ วีระชัย หรือ นายวีระชัยศรีวณิก วรรณึกกุล อายุ 38 ปี นายศิวัช หล่ำศรี อายุ 36 ปี และนายณรงค์ฤทธิ์ ทองพันธุ์ อายุ 30 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรี ในข้อหาร่วมกันบุกรุกยามวิกาล โดยใช้อาวุธปืน, แอบอ้างเป็นเจ้าพนักงาน และกระทำการเป็นเจ้าพนักงานโดยตนเองไม่ได้เป็นเจ้าพนักงานที่มีอำนาจกระทำการนั้น, พกพาอาวุธปืนไปในชุมชน หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต, กักขังหน่วงเหนี่ยว พร้อมทนายความเดินทางเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สน.สายไหม โดยยังไม่มีการให้รายละเอียด เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจะมีการแถลงข่าวในคดีนี้อีกครั้งในช่วงเวลาบ่ายสองโมง ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล



         ขณะที่ นายเกียรติศักดิ์ สาระวดี เจ้าของรถตู้ที่ให้บริการรับ-ส่งพนักงานบริษัทเอกชน เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน.สายไหม เพื่อขอดูตัวผู้ก่อเหตุทั้งสาม หลังจากที่เคยถูกกลุ่มคนร้ายอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามยาเสพติด หรือ ตำรวจ ปส. ชุดสยบไพรี เข้าคุมตัวและรีดทรัพย์สินไป รวมกว่า 2 แสนบาท เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน จากในพื้นที่บ้านพักย่านซอยวัชรพล เขตพื้นที่ สน.คันนายาว และได้มีการแจ้งความไว้กับ สน.คันนายาว แล้ว เผยว่า ส่วนตัวรู้จักหน่วยสยบไพรี และเชื่อว่ากลุ่มคนที่จับตนเองนั้นไม่ใช่ เนื่องจากไม่มีเครื่องหมายรวมทั้งไม่คิดว่าหน่วยงานใหญ่แบบนี้จะมีขั้นตอนการจับกุมตัวแบบนี้ เพราะอ้างว่ามีหมายจับแต่ไม่มีหมายมาแสดง รวมถึงพฤติกรรมที่ใช้ทั้งที่ตนไม่ได้มีพฤติการณ์หลบหนี และไม่เคยยุ่งเกี่ยวยาเสพติด แต่มีการจับตนกดลงกับพื้น และจับใส่กุญแจมือ และใช้วาจาหยาบคายตลอดการคุมตัว