แม่ร่ำไห้ สุดรับได้ลูกป่วยออทิสติก-ทำร้ายตัวเอง ต้องจับล่ามโซ่มาถึง 13 ปี วอนคนช่วย

            หญิงชาวบราซิลจับลูกชายที่ป่วยออทิสติกล่ามโซ่ไว้มานานร่วม 13 ปี จนในที่สุดทนไม่ไหว ออกมาอัดคลิปวอนขอความช่วยเหลือ เชื่อว่าลูกมีโรคร้ายแรงกว่านี้ ภายหลังจากยาไม่ช่วยรักษาให้ดีขึ้น

           เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม 2560 เว็บไซต์เดอะซัน เผยรายงานว่า มาริสา ปาดิลญา หญิงวัย 47 ปี จากเมืองเฟอร์นานโดโพลิส ในเซาเปาลู ประเทศบราซิล ได้ออกมาอัดคลิปวิดีโอร้องไห้ขอความช่วยเหลือผ่านทางโซเชียลมีเดีย โดยได้เผยว่า เธอมีลูกชายชื่ออังเดร อายุ 28 ปี และป่วยเป็นโรคออทิสติก เธอจึงจับเขาล่ามโซ่ไว้มาเป็นเวลานานถึง 13 ปี ตั้งแต่ตอนที่อันเดรยังเป็นวัยรุ่น และเธอจำเป็นต้องจับลูกชายล่ามโซ่ไว้เช่นนี้ เนื่องจากหากปล่อยไว้ เขาจะทำร้ายร่างกายตัวเอง

          มาริสา กล่าวว่า พฤติกรรมของอังเดรเปลี่ยนไปตั้งแต่อายุ 10 ภายหลังจากการได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นออทิสติก โดยที่ยาและการบำบัดรักษาก็ไม่ช่วย ซึ่งส่วนตัวเธอเองคิดว่า เป็นการวินิจฉัยไม่ถูกต้อง หรือไม่สมบูรณ์

          โดยมาริสาได้อัดคลิปวิดีโอที่เผยให้เห็นสภาพร่างกายของอังเดรในตอนนี้ เพื่อที่จะขอความช่วยเหลือ ให้ลูกชายได้เข้ารับการรักษาอย่างที่ควรจะเป็น "ในแต่ละวัน เขา (อังเดร) ต้องกินยาบางชนิด แต่หลังจากนั้นเขากลับยังทุบตีตัวเอง บางครั้งก็กัดตัวเอง และตะโกนร้องออกมาเสียงดัง ฉันคิดว่าเขาต้องมีปัญหาใหญ่ ที่ยังไม่ได้รับการวินิจฉัย" มาริสา กล่าว


          ทั้งนี้ในคลิปวิดีโอที่มาริสาบันทึกนั้น เธอยังได้เผยว่า เธอไม่สามารถทนเห็นลูกชายมีสภาพที่ต้องถูกล่ามโซ่ไว้เช่นนี้ต่อไปได้อีก จึงอยากขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ เนื่องจากเธอและครอบครัวไม่มีกำลังเงินที่จะพาเขาไปรักษาด้วยตัวเอง

          มาริสา กล่าวเพิ่มเติมว่า แม้ว่าอังเดรจะทำร้ายร่างกายตัวเอง แต่เขาไม่ทำร้ายคนอื่น ส่วนตัวเธอก็ต้องลาออกจากงานมาดูแลลูกชายตั้งแต่ตอนที่เขาอายุ 10 ขวบ จากนั้นเมื่ออังเดร อายุได้ 15 ปี เธอก็ตัดสินใจล่ามโซ่เขาไว้ "ฉันไม่สามารถควบคุมเขาได้ ฉันต้องคอยจับตามองเขาตลอดทั้งวันทั้งคืน เพื่อป้องกันไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง" มาริสากล่าว


          ขณะที่ทางด้านสภาเมืองเฟอร์นานโดโพลิส ได้เผยแถลงการณ์ว่า ทางหน่วยบริการด้านสังคม ได้เข้าไปเยี่ยมดูอาการของอันเดรมานานหลายปีด้วยกัน โดยเนื่องจากพฤติกรรมก้าวร้าวของอังเดร ทางผู้พิพากษาจึงได้ตัดสินว่า สมควรให้ได้รับการดูแลในบ้านของเขา โดยมีนักจิตวิทยาคอยช่วยเหลือ 

          ทั้งนี้อังเดรได้รับการเข้าเยี่ยมทุก ๆ เดือน เพื่อตรวจเช็กอาการและบำบัดรักษา รวมทั้งมีการประเมินสัญญาณชีพ และทดสอบทางจิตใจของเขาด้วย นอกจากนี้ ทางแพทย์จะมีการเข้าไปเยี่ยมอังเดรเป็นกรณีพิเศษ หากมีความจำเป็น อย่างไรก็ดี ทางสภาได้ยอมรับว่า อังเดรไม่ได้ตอบสนองต่อยารักษาที่จะช่วยลดความก้าวร้าวของเขา





ภาพจาก Youtube dans le monde