พยานใหม่ เจ๊เกียว ยันครูปรีชาซื้อลอตเตอรี่ 30 ล้านจริง ย้ำจำหน้าลูกค้าได้หมดทุกคน ด้านทนายลุงจรูญ ท้าอีกฝ่ายออกมาแฉระวังจะหลุดเอง มั่นใจหลักฐานแน่น เดี๋ยวขึ้นศาลรู้กัน
ยังคงเป็นเรื่องราวคาราคาซัง สำหรับกรณี นายปรีชา ใคร่ครวญ ครูโรงเรียนมัธยมชื่อดังแห่งหนึ่ง เข้าแจ้งความจับ ร.ต.ท. จรูญ วิมล อดีตนายตำรวจ ใน จ.กาญจนบุรี กล่าวหาขโมยลอตเตอรี่ 30 ล้าน โดยมีแม่ค้าลอตเตอรี่ออกมายืนยันว่าได้เก็บเลขไว้ให้กับครูปรีชา ต่อมากลับมี 2 สาว ออกมาแย้งว่าแม่ค้าพูดไม่จริง เพราะยังเรียกให้ตนเข้าไปซื้อเลขดังกล่าวอยู่เลยนั้น (อ่านข่าว : โผล่ 2 พยานอ้าง แม่ค้าอาจโกหกเรื่องหวย 30 ล้าน พบเลขอยู่ที่แผง ไม่ได้เก็บให้ครูปรีชา)
ล่าสุด (9 ธันวาคม 2560) ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปสอบถาม นางปณัญชญา สุขพูล อายุ 49 ปี หรือ เจ๊เกียว ซึ่งเป็นเพื่อนของ นางรัตนาพร สุภาทิพย์ แม่ค้าที่อ้างว่าขายลอตเตอรี่ให้กับครูปรีชา โดยเล่าเหตุการณ์ว่า ช่วงเวลาที่ครูปรีชามารับหวยจากนางรัตนาพรนั้น เป็นเวลาประมาณ 16.00 น. มีสลากรวม 4 ชุด ชุดละ 5 ใบ ราคา 2,200 บาท ครูปรีชาบอกว่า แพงจัง เลยตอบกลับไปว่าเป็นเลขดัง ระหว่างนั้นมีหญิงรายหนึ่ง ชื่อว่า แดง เดินเข้ามาถามครูปรีชาว่า ต้องการจะแบ่งขายหรือไม่ แต่ครูปรีชาไม่ขาย แล้วรีบเก็บลอตเตอรี่เข้ากระเป๋าเสื้อ ก่อนขอตัวไปซื้อของอย่างอื่นต่อ
เจ๊เกียว เล่าต่อว่า ตลาดแห่งนี้จะมีแผงลอตเตอรี่ทั้งหมด 7 แผง ทางตลาดจะไม่อนุญาตให้คนขายขาจรเข้ามาขายในตลาด เพราะเกรงจะเป็นการแย่งกันขาย ซึ่งตนประกอบอาชีพขายลอตเตอรี่มากว่า 20-40 ปี ลูกค้าประจำจะรู้ว่าถ้าอยากได้เลขเด็ดจะติดต่อมาทางไลน์ หรือมาหาที่ร้าน จากนั้นตนจะคัดใส่ซอง และเขียนชื่อติดไว้ โดยก่อนหวยออก 3 วัน ลูกค้าจะเริ่มมารับลอตเตอรี่ไป พร้อมกับยืนยันว่าจำหน้าลูกค้าได้ทุกคน
เจ๊เกียว กล่าวอีกว่า ตนก็มีไลน์ส่วนตัวครูปรีชา แต่ไม่เคยติดต่อซื้อ-ขายกัน เพราะครูปรีชาเชื่อว่าการซื้อเลขเสี่ยงดวงกับคนผิวคล้ำจะดี ขอฝากไปถึงฝ่ายที่กล่าวหาว่าทำเป็นขบวนการ ยอมรับว่าเคืองมาก อยากให้มาต่อหน้า เพราะคนทำงานทุกคนมีเงิน เข้าใจว่าคุณทำอาชีพทนาย แต่บางครั้งจะทำอะไร อย่าสรุปว่าคนนั้นชั่ว คนนี้ร้าย แล้วออกมาขอโทษภายหลัง บอกตรง ๆ ไม่มีใครรับได้
ขณะที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ และผู้ดูแลคดีของ ร.ต.ท. จรูญ เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนได้ไปเก็บข้อมูลในจุดเกิดเหตุที่ซื้อลอตเตอรี่ ภายในตลาดเรดซิตี้ พร้อมถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐานในการต่อสู้คดี รวมถึงถ่ายรูปจุดที่ ร.ต.ท. จรูญ ถูกตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี เรียกไปพบที่บ้านพัก เพื่อให้ ร.ต.ท. จรูญ ตกลงกับฝ่ายครูปรีชาให้ยอมรับผิด ซึ่งถ้าตกลงกันได้จะมีค่าตอบแทนให้ แต่ถ้าไม่ยอมก็จะถูกดำเนินคดี
ทั้งนี้ ตนไม่ขอเอาการพูดคุยกับตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ไปโยงว่าทำเป็นขบวนการหรือไม่ เพราะเกรงจะถูกฟ้องได้ ในขณะนี้ตนได้รวบรวมพยานหลักฐานไว้หมดแล้ว รอทางตำรวจออกหมายเรียก ร.ต.ท. จรูญ ในฐานะผู้ต้องหาก่อน ซึ่งก็จะนำหลักฐานทุกอย่างไปให้พนักงานสอบสวน พร้อมขอให้ออกหมายเรียกพยานทุกคน รวมถึงตำรวจชั้นผู้ใหญ่นายนี้ด้วย
ทนายษิทรา กล่าวอีกว่า ตอนนี้ตนไม่มีความกังวลใด ๆ แม้ว่าฝ่ายครูปรีชาจะเอาพยานอะไรมาเพิ่มเติมก็ตาม โดยพยานทุกคนของครูปรีชาที่ออกมาพูด ตนไม่ปักใจเชื่อ ออกมาเยอะก็ดี เพราะศาลท่านจะได้เห็นพิรุธ ซึ่งตอนนี้นักกฎหมายหลายคนก็ออกมาให้ความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้เยอะ ประชาชนที่เสพข่าวก็พิจารณาดูอย่างเป็นกลาง เชื่อว่าทุกคนจับพิรุธได้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้คดียังอยู่ในระหว่างที่ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน และรอแจ้งข้อกล่าวหาทางฝ่ายตนอยู่ และยืนยันว่าตนมีหลักฐานมากพอที่จะสู้คดี
ภาพและข้อมูลจาก
