จำคุกตลอดชีวิต เล่าต๋า แสนลี่ ราชายาเสพติด ลูกชาย-พวก เจอโทษประหาร

        ศาลอาญาพิพากษาจำคุก เล่าต๋า แสนลี่ พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ ตลอดชีวิต ปรับ 2.5 ล้านบาท ส่วนลูกชายพร้อมพวกสั่งประหารชีวิต เนื่องจากให้การปฏิเสธและเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ

        วันที่ 13 ธันวาคม 2560 มีรายงานว่า ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นัดฟังคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติด 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายเล่าต๋า แสนลี่ พ่อค้ายาเสพติดระดับชาติ, นางอาส่าหม่า แสนลี่ ภรรยา, นางรพีกาญจน์ หจันทร์ฉาย หรือไก่ ภพเพชรลักษณ์ หรือทรายมูล, นายวิจารณ์ แสนลี่ บุตรชายซึ่งเป็นอดีตกำนัน ต.ท่าตอน อ.แม่อาย จ.เชียงใหม่ และนายบารมี บารมีเกื้อกูล ทั้งหมดเป็นจำเลยที่ 1-5 ในความผิดฐานร่วมกันสมคบ และร่วมกันจำหน่าย ยาไอซ์ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 โดยไม่ได้รับอนุญาต, ความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ. 2490
        โดยพฤติการณ์คำฟ้องระบุว่า เมื่อวันที่ 20 กันยายน - 11 ตุลาคม 2559 นายเล่าต๋า นางอาส่าหม่า และนางรพีกาญจน์ จำเลยที่ 1-3 ได้มียาไอซ์ 1 ถุง หนัก 994 กรัมเศษ ซึ่งนำมาจำหน่ายให้กับสายลับราคา 550,000 บาท ที่นายเล่าต๋า จำเลยที่ 1 เป็นผู้ติดต่อเจรจาซื้อ-ขาย ส่วนนายวิจารณ์ และนายบารมี จำเลยที่ 4-5 เป็นผู้จัดหายาไอซ์ ชนิดผลึกสีขาว จำนวน 20 ถุง หนัก 19 กิโลกรัมเศษ จำหน่ายให้แก่สายลับที่เข้าล่อซื้อราคา 11 ล้านบาท โดยที่นายวิจารณ์ กับนายบารมี ยังทำหน้าที่คุ้มกันให้นายเล่าต๋า ระหว่างส่งมอบยาเสพติดด้วย

        นอกจากนี้ระหว่างที่ถูกจับกุมนายเล่าต๋า จำเลยที่ 1 มีอาวุธปืนสั้นและปืนยาวรวม 2 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนจำนวนมาก ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนนายวิจารณ์ บุตรชาย จำเลยที่ 4 มีอาวุธปืน ขนาด .45 พร้อมเครื่องกระสุน โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง ที่ใช้ในการติดต่อและยาเสพติดของกลาง เหตุเกิดที่ปั๊มน้ำมัน เล่าต๋าปิโตรเลียม และที่อื่นเกี่ยวพันกัน

        ชั้นสอบสวน นายเล่าต๋า และนางอาส่าหม่า ภรรยา ให้การรับสารภาพเฉพาะข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายเท่านั้น ส่วนข้อหาอื่นให้การปฏิเสธ ขณะที่นางรพีกาญจน์ ให้การรับสารภาพโดยตลอด ส่วนนายวิจารณ์ รับสารภาพเฉพาะข้อหากระทำผิด พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ และนายบารมี ที่ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

        ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์จากพยานหลักฐานของโจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปลอมตัวเข้าไปล่อซื้อยาไอซ์ และกำลังอีกส่วนหนึ่งเข้าไปบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐานทุกขั้นตอน จึงเชื่อได้ว่าจำเลยทั้งหมดมีความผิดตามฟ้องจริง และทางโจทก์ยังให้เพิ่มโทษจำเลยที่ 4 เป็น 3 เท่า เนื่องจากเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วย


        จึงพิพากษานายเล่าต๋าและนางอาส่าหม่า จำเลยที่ 1-2 จำคุกตลอดชีวิต โดยทั้งคู่ให้การรับสารภาพจึงลดโทษจำคุกเหลือ 25 ปี ปรับคนละ 2.5 ล้านบาท แต่นายเล่าต๋า จำเลยที่ 1 ยังมีความผิดฐานค้ายาไอซ์จำนวน 19 กิโลกรัมเศษ อีกกระทง จึงให้ประหารชีวิต ซึ่งจำเลยรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่งจึงให้จำคุกตลอดชีวิต และให้จำคุกอีก 9 เดือน ฐานพกอาวุธปืนฯ เมื่อรวมโทษทุกกระทงของนายเล่าต๋า จำเลยที่ 1 แล้วคงจำคุกตลอดชีวิต และปรับ 2.5 ล้านบาท


        ส่วนนางรพีกาญจน์ จำเลยที่ 3 ให้การปฏิเสธ ศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิต ปรับ 5 ล้านบาท ขณะที่นายวิจารณ์ แสนลี่ จำเลยที่ 4 ซึ่งเป็นอดีตกำนัน ต.ท่าตอน และนายบารมี บารมีเกื้อกูล ลูกน้อง จำเลยที่ 5 ให้การปฏิเสธ ศาลมีคำสั่งให้ประหารชีวิต โดยไม่นำโทษในคดีที่ 1 มารวมด้วย

        อย่างไรก็ตาม หลังจากฟังคำพิพากษาแล้ว จำเลยทั้งหมดแสดงความประสงค์ขออุทธรณ์คำพิพากษา แต่เนื่องจากไม่ได้รับประกันตัว เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงได้นำตัวทั้งหมดไปคุมขังยังทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง และทัณฑสถานหญิงกลางต่อไป

        สำหรับนายเล่าต๋า แสนลี่ นั้น เคยได้รับการขนานนามว่า "ราชายาเสพติด" และถูกโยงว่าเป็นเลขาฯ คนสนิทของนายจาง ซี ฟู หรือขุนส่า นักค้ายาเสพติดรายใหญ่แห่งสามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งนายเล่าต๋า และนายวิจารณ์ บุตรชาย เคยถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ปส. จับกุมเมื่อปี 2546 และถูกดำเนินคดีฐานค้าเฮโรอีน แต่คดีถึงที่สุดเมื่อศาลฎีกามีคำพิพากษาเมื่อปลายปี 2550 ให้ยกฟ้องตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ เนื่องจากพยานหลักฐานยังมีข้อพิรุธน่าสงสัย กระทั่งล่าสุดนายเล่าต๋า และครอบครัวก็ถูกจับกุมดำเนินคดีค้ายาไอซ์ดังกล่าว (อ่านเพิ่มเติม : เล่าต๋า แสนลี่ คือใคร ย้อนดูเส้นทางชีวิต พ่อค้ายาเสพติดรายใหญ่ภาคเหนือ)


ภาพจาก ทวิตเตอร์  @TNAMCOT, @OHcrime_ThaiPBS
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก