กิต เจ้าของธุรกิจคอลลาเจน แจงรถหรูเป็นของตัวเองและตัวแทน แต่ซื้อเงินผ่อน เชื่อมีเบื้องหลัง เซ็ง ธุรกิจแทบเจ๊ง ย้ำไม่ใช่แชร์ลูกโซ่ แฉมีคนเรียกเงิน 5 หมื่น
จากกรณีข่าว นายณัฐพงษ์ โพธิ์สุการ หรือ กิต เจ้าของบริษัท ลักซ์ชัวรี่ ดีไลท์ ได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) กรณีมีผู้ร้องเรียนจำนวนมากระบุว่าได้ถูก บริษัท ลักซ์ชัวรี่ ดีไลท์ หลอกให้ร่วมลงทุนทำธุรกิจด้วย โดยเจ้าตัวยันไม่ใช่ธุรกิจหลอกขายฝัน มีคนประสบความสำเร็จจริง อ้างรถหรูเป็นของตัวเองทั้งหมด [อ่านข่าว : หนุ่มเจ้าของคอลลาเจน แจง สคบ. ยันไม่เคยหลอกขายฝัน-รถหรูเป็นของตัวเองทั้งหมด คลิก]
"ที่บอกว่าผมเป็นคนให้น้องถ่ายคลิป ผมไม่ได้บอกให้น้องถ่ายคลิป น้องเขาถ่ายเล่น ๆ ของเขาเอง แต่วันที่ไปรวมตัวที่เกิดเหตุการณ์คลิปเมื่อกี้ เป็นวันที่ผมรวมตัวถ่ายนิตยสารเกี่ยวกับขายตรง จะมีแบบว่าประมวลภาพความสำเร็จของบริษัทนี้ ซึ่งผมก็จะประมวลเพราะเป็นเดือนธันวาคม แต่เผอิญว่าไอ้น้องคนนี้มันดันอัดคลิป คนที่ชื่อต้าร์"
- บางคนไม่ได้ถ่ายรูปรถแค่คันเดียว หนึ่งคนเวียนไปถ่ายคันนี้คันนั้นคันโน้น แล้วทำให้คนเห็นเชื่อว่านี่คือรถของเขา อยากมีรถหรูแบบนี้เข้ามาร่วมธุรกิจขายตรงด้วยกัน ?
"จริง ๆ ต้องบอกว่าน้อง ๆ ที่มาถ่ายรูปรถ มีจริง แม้แต่ข้าง ๆ บริษัทเขาเห็นรถสวย ๆ ก็ยังมาถ่ายรูปกับรถเลย แต่ไม่มีแน่นอนที่ไปถ่ายแล้วบอกว่ารถนี่ของฉัน ไม่มีนะพี่"
- มันเป็นการหลบเลี่ยงหรือเปล่า ?
"ผมไปดูสเตตัสน้องที่ถ่ายนะพี่ น้องจะบอกว่าได้เป็นครอบครัวเดียวกันกับแบรนด์ฟินส์แล้ว แต่น้องไม่ได้ไปโพสต์ว่ามาทำเลยนะ แล้วจะได้รถแบบนี้ รถนี้เป็นของฉันแล้วนะ แล้วก็ถ่ายวนเวียนกันไม่ใช่ เพราะบริษัทก็บอกหมดว่ารถคันนี้เป็นของใคร"
- มันคือช่องว่างหรือเปล่า ช่องว่างทางธุรกิจ กฎหมาย เหมือนตอกย้ำว่าใครเข้ามาอยู่ในผลิตภัณฑ์นี้ก็จะได้รถคันนี้ มันเป็นการชวนเชื่อไหม ?
"มันชวนเชื่อมั้ยเหรอครับ ในมุมคนที่มองแบบนั้นก็อาจจะเป็นการชวนเชื่อ แต่ในมุมบริษัท เวลาน้อง ๆ มาถ่ายรูปรถ เขาก็จะยิ้มแย้ม ตื่นเต้น เหมือนไปงานมอเตอร์โชว์แล้วเจอรถที่ชอบเขาก็ถ่ายรถในฝันของตัวเอง แต่ทางเราไม่มีการบีบบังคับ"
- รถพวกนั้นใครซื้อ ?
"ก็จะเป็นของน้อง ๆ ตัวแทนและของผมด้วยครับ"
- ของคุณมีกี่คัน ?
"ของผมมีสองคัน ปอร์เช่ รุ่นเคย์แมน และแม็คลาเรน ราคาเต็มประมาณ 25 ล้าน แต่ผมซื้อดาวน์ครับ ผ่อนตลอด แต่เป็นรถผม ที่เหลือก็เป็นของตัวแทน แต่ก็มีบางกลุ่มที่ผมแจ้งไป บางคนกู้ไม่ผ่านแต่มีเงินดาวน์ เพราะยอดขายเขาแค่นั้นสุดท้ายกู้ไม่ผ่านเขาก็ตัดสินใจกู้ในชื่อผม แล้วก็ผ่าน"
- คุณใจกว้างขนาดนั้น ไม่กลัวเขาเบี้ยวแล้วมานั่งรับผิดชอบ ?
"ไม่เคยมีเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นครับ เพราะเวลาเราจะรับรองใคร เราก็ต้องมั่นใจ"
- มีกี่คน ที่คุณรับรอง ?
"คนเดียวครับ แต่มีอีกคนคือปันปัน เขาจะรับรองประมาณ 2 คน"
- มีหุ้นส่วนกี่คน ?
"สามคนครับ มีผม ปันปัน แล้วก็พี่อ้น"
- ลักษณะขายตรงของคุณคือ นาย ก. มาเป็นอันเดอร์คุณ ซื้อผลิตภัณฑ์ไป เงินได้มาเขาได้ด้วย เขาไปขายต่อ แล้วก็ส่งเงินให้คุณ เป็นแชร์ลูกโซ่ ?
"คือไม่ใช่อย่างนั้นครับ สมมุติทุกคนมาลงทุน แล้วมีการแบ่งหัวคิวกัน 3 คน อันนั้นเป็นแชร์ลูกโซ่เท่าที่ผมศึกษามา แต่ผมจ่ายตามแผนการตลาด สมมุติพี่หนุ่มซื้อสินค้า 1 ชิ้น เราจะมีพีวี คือคะแนนของสินค้า พีวีสูงสุดคือ 1 หมื่นคะแนน เป็นแต้ม ไม่ต้องแลกกับอะไร สมมุติ 1 หมื่นคะแนน ก็จะกลายเป็นแอมบาสเดอร์ สามารถสะสมได้ตั้งแต่กล่องแรก สมมุติน้องสะสมได้ 1 หมื่นพีวีตามจำนวนสินค้า น้องก็เป็นตำแหน่งใหญ่คือแอมบาสเดอร์"
- มีทั้งหมดกี่ตำแหน่ง ?
"4 ครับ มี ยูเซอร์ เบสิก สุพรีม แอมบาสเดอร์ มันเป็นแผนการตลาดของการขายตรงครับ"
- ในมุมกลับกัน เขาบอกว่าคุณเหมือนมีการตั้งเงินรางวัลถ้าหากขายได้เยอะตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป เขาสามารถได้เงินเดือน 6-7 แสน จริงหรือเปล่า ?
"ต้องบอกว่าไม่มีเงินการันตีหรือเงินเดือนแน่นอน ถ้าตัวผมพูดไม่มีการการันตีหรือเงินเดือน เพราะถ้าเขาขายไม่ได้ เขาก็ได้เงินเดือนสิ ทุกอย่างอยู่ที่ยอดขาย แต่คนที่ตั้งแง่หรือหามุมบริษัท คือตัวแทนเขามีการตั้งระดับ เวลาทำธุรกิจจะได้มีเป้าหมายในการขึ้นตำแหน่ง ซึ่งตามแผน เราจะจดถูกต้องตาม สคบ. อยู่แล้ว แต่ว่าในโครงการของตัวแทน หรือผู้นำ เขาจะกำหนดให้คนพยายามขึ้นตำแหน่งนั้นแต่ละระดับ แต่ละระดับก็จะมีโปรโมชั่นแตกต่างกันไป"
- ที่กำลังพูดตอนนี้ จะบอกว่าลักษณะลูกข่ายของคุณไปตั้งโปรแกรมกัน ?
"ตั้งชื่อตำแหน่ง จริง ๆ แล้วขายได้เท่าไหร่ อยู่ที่กำไรเยอะหรือเปล่า"
- สมมุติขายได้ล้านนึงเขาได้เท่าไร ?
"ถ้าตามแผนการตลาดเขาจะได้ที่หลักหมื่นหลักแสน สมมุติผมมีพี่หนุ่มเป็นตัวแทน พี่หนุ่มขายจนเป็นแอมบาสเดอร์ ผมก็จะได้เปอร์เซ็นต์ ถ้าเฉลี่ยก็ประมาณ 20-30 เปอร์เซ็นต์ แต่ไม่นับการขายที่พี่หนุ่มได้ข้างกล่องไปเต็ม ๆ ซึ่งผมเรียกว่าเงินร้อนเพราะพี่หนุ่มขายปุ๊บได้กำไรข้างกล่องทันที แต่พอพี่หนุ่มมารับสินค้าที่บริษัทก็แล้วแต่ มันก็จะเป็นพีวีที่เด้งขึ้นไป แต่พี่หนุ่มสามารถมีรายได้แซงผม ถ้าพี่หนุ่มขายมากกว่าและมีตัวแทนที่ขายเก่งกว่า มันอยู่ที่ความสามารถครับ ผมแจ้งแบบนี้เสมอ"
- ตอนนี้กิจการคุณเป็นยังไง ?
"ก็เหมือนปิดกิจการเลยครับ ขายไม่ได้ครับ จากคนที่ขายได้อยู่ดี ๆ ก็พิมพ์มาว่าพี่หนูจะขายยังไง จากที่มีลูกค้าประจำ อยู่ดี ๆ ก็มาบอกว่าไม่เอาแล้ว เมื่อก่อนเดือนนึงก็เยอะเหมือนกัน ก่อนหน้านี้หลักล้าน บางเดือนก็ 10 ล้านครับ"
- เฉพาะของคุณไม่รวมเงินที่ลูกข่ายได้มาอีกต่างหาก ?
"ครับ อันนี้ผมก็จ่ายผลตอบแทนไปด้วย เวลาบริษัทมียอดขายจริงก็จ่ายโปรโมชั่นตามระบบโครงการแผนการตลาด ไม่ใช่ผมได้กำไรเต็ม ๆ นะครับ ผมก็ต้องจ่ายคอมมิชชั่นและโปรโมชั่นต่าง ๆ ที่ผมจ่ายให้น้อง ๆ เขา"
- ที่มีข่าวว่ารถเช่าแล้วเอามาโชว์ขายฝัน ?
"จริง ๆ ไม่ใช่ มีเจ้าของทั้งหมด แต่บางชื่อเป็นชื่อผมและปันปัน เป็นรถเราจริง ๆ แต่เราผ่อนเอาครับ"
- หลายคนก็บอกว่าก็เอาเงินจากชาวบ้านที่คุณไปขายแล้วเอามาผ่อน ?
"ไม่ใช่แน่นอนครับ รูปแบบการขายของผม ผมก็มีสินค้า ใครซื้อสินค้าไปก็ต้องเอาไปขาย เงินที่ได้มาผมก็เอาไปจ่ายโปรโมชั่นและจ่ายคอมมิชชั่นให้ตัวแทน แต่ในมุมที่ผมเห็นคอมเมนต์เขาบอกว่าเอามาเปิดบิล ผมได้เต็ม ๆ มันไม่ใช่แน่นอน ผมมีต้นทุนสินค้า มีต้นทุนการจ่ายต่าง ๆ เยอะแยะ เขามองแค่มุมเดียว"
- วันนี้ สคบ. สั่งตรวจสอบ มีกี่คนที่ไปร้อง ?
"น่าจะประมาณ 30 คนครับ กับสมาชิกผมประมาณ 3 หมื่นคน แต่ตอนนี้ 3 หมื่นคนไม่มั่นใจสักคนแล้ว"
- ทำไม ?
"ก็จะขายใครล่ะพี่ กลายเป็นคนที่กินประจำ แม้แต่ลูกค้าที่อยุธยา เขามาสั่งตลอด เดือนละประมาณ 20 กล่อง ตอนนี้เขาก็ไม่มาสั่งแล้วเพราะไม่รู้จะไปขายใคร คนเห็นแบรนด์นี้ก็ไม่เอาแล้ว ตอนนี้กระแสข่าวที่ออกไปทุกช่อง มันเป็นภาพลบของผมคนเดียว ทั้งที่ผมยังไม่ได้ชี้แจงในมุมเอกสารของผมเลย"
- วันนี้คุณอยากชี้แจงอะไร ?
"ทุกอย่างที่ทุกคนสงสัย เรื่องรถผมไม่ได้เช่า เรื่องที่บอกว่าบริษัทสินค้าไม่มี อย. ก็มีนะครับ อย. ไม่มีสอดไส้ เช็กได้ทุกอย่าง สมัยนี้เอาเลข อย. เข้าในเว็บก็สามารถตรวจสอบได้แล้วว่ามี อย. จริงหรือเปล่า"
- อยากยืนยันว่าของคุณถูกต้อง แต่เขาเล่นคุณว่าไม่มี อย. ?
"แล้วคนที่ออกสื่อโจมตีผมแล้วบอกว่าไม่มีรายได้ ทั้งที่มีรายได้ ผมมองว่าเขาต้องการอะไร คือมันก็ไม่ทุกคน แค่บางคนที่ไปออกสื่อว่าบริษัทหลอกขายฝัน ซึ่งมันไม่จริง ผมมีเอกสารที่เขาได้ผลลัพธ์ และมีรายได้ เขาบอกว่าตัวเขาโพสต์เฟซบุ๊กเองด้วยซ้ำว่าเขามียอดขาย แล้วก็มียอดขายโอนเข้าบัญชีเขาจริง ๆ ด้วยซ้ำ
สำหรับบางคน แต่เขาไปแจ้งว่าตัวผมเองเป็นคนหลอกลวง และไม่ได้แจ้งด้วยว่าตัวแทนคนไหนเป็นคนหลอกเขา ซึ่งผมมีนโยบายอย่างนี้ ตัวแทนคนไหนพูดไม่ดีหรือหลอกลวงเขา น้องมาคุยและเอาตัวแทนมาคุยเพราะเมื่อสองปีที่แล้วผมเคยตัดคนออกจากการเป็นตัวแทนเพราะเคยมีคนทำแบบนี้ ไปพูดไม่โอเคกับตัวแทน ผลเสียมันเกิดกับตัวเขาและตัวผมด้วย ซึ่งผมไม่อยากให้บริษัทเสื่อมเสียชื่อเสียงอยู่แล้ว เพราะมันก็ทำให้กลายเป็นว่าสินค้าเปรอะ ตัวผมเปรอะ แล้วต่อไปผมจะไปขายใครได้ คนก็ไม่มั่นใจในตัวผม กับคนที่มาโจมตีผม"
- เขาจะโจมตีคุณทำไม ในเมื่อคุณบอกว่าเขาได้เงินจริง ?
"ทั้งที่เขาได้ทั้งไอโฟน ได้เยอะแยะมากมาย ได้โปรโมชั่นไปเที่ยวล่องเรือ เยอะแยะมาก บางคนก็ได้ไปต่างประเทศด้วยครับ"
- อันนี้ใช้คำว่าบริษัทบังคับขายตัว ?
"น้องคนนี้ก็มาแถลงแล้ว มาคุยว่าทำไมถึงพูดแบบนั้น"
- คุณเอารายละเอียดมายันว่าแต่ละคนได้รับเงินจริง ๆ แต่พอไปนั่งออกรายการกลับบอกว่าไม่ได้เงิน ?
"เขาบอกว่าไม่ได้เงินเลยสักบาท แล้วบางคนก็บอกว่าบริษัทหลอก"
"ฟ้องครับ อยู่ในกระบวนการทนายเรียบร้อย ส่วนน้องคนนั้นมาคืนสินค้าเรียบร้อยแล้วครับ เขาชื่อน้องเอิร์น ผมไม่ได้มีโอกาสเจอเขา เขาเจอคุณปันปัน แล้วปันปันก็มาเล่าให้ผมฟัง ผมได้มีโอกาสเจอเขาในวันต่อไป เขาก็มาขอโทษ ผมก็ถามสั้น ๆ ว่าทำไมถึงให้ข่าวแบบนั้น เขาบอกว่ามีคนบอกให้เขาพูด"
- เป็นใคร ?
"ไม่ทราบเหมือนกันครับ"
- จะเป็นไปได้เหรอ มีคนบอกให้มาเล่นงานคุณ ?
"อันนี้ผมก็ยังอึ้งอยู่ว่ามันเป็นไปได้ยังไง ถ้าพี่หนุ่มเชิญเขามาออกรายการก็ดีนะครับ เพราะคนนี้คือคนที่ออกรายการแล้วพูดจาแรงมาก ที่บอกว่าบริษัทบังคับให้ขายตัว แต่วันนี้ออกมาพูดว่าโดนบังคับให้พูดแบบนั้น บริษัทไม่ได้พูดแน่นอน คนที่พูดเป็นเพื่อนกัน เขาพูดกันเล่น ๆ ซึ่งเขาชี้แจงว่า เขาไม่ได้พูดใส่บริษัทว่าอย่างนั้นแต่มีบุคคลอีกบุคคลหนึ่งพูดว่าให้พูดถึงบริษัทว่าบริษัทพูดถึงไปเลย"
- อีกเรื่อง จริงหรือเปล่าที่มีเรื่องราวของลักษณะคนคนหนึ่ง ที่ตั้งตัวเองเป็นคนเข้ามาจัดการพวกแชร์ลูกโซ่ มาเรียกเงินคุณ ?
"จริงครับ แต่ผมไม่ได้มีข้อมูล ไม่มีหลักฐาน แต่ยืนยัน"
- ไม่ดูเป็นการใส่ร้ายเขาเหรอ ?
"ผมไม่ได้พูดถึงใครเลยครับ ส่วนเขาเรียกยังไง (หัวเราะ) ผมไม่อยากพูดไป"
- เขาเรียกอะไรคุณ เขาต้องการเงินยังไง ?
"คือผมเป็นธุรกิจขายตรง มันก็จะมีข้อผิดพลาดและข้อเสียที่คนไทยเข้าใจว่าเป็นแชร์ลูกโซ่ ซึ่งผมทำมาหลายปีแล้ว และเพิ่งจะเป็นเจ้าของผู้ประกอบการได้สองปีกว่า ผมเคยเป็นตัวแทนของแบรนด์อื่นเหมือนกัน ณ วันนี้ผมมีโอกาสได้คุยกับคนคนหนึ่ง เขาอยากดูแลแค่นั้นเอง"
- ดูแลอะไร ?
"เอาเป็นว่าดูแลแล้วกันพี่"
- มันมีความเสี่ยงระหว่างขายตรงกับแชร์ลูกโซ่ เขาเสนอตัวมาขอดูแลตรงนี้ ถ้าเขาเข้ามาดูแลตรงนี้ธุรกิจคุณจะไม่กลายเป็นแชร์ลูกโซ่ ?
"ประมาณอย่างนั้นครับ"
- ถ้าไม่จ่าย ธุรกิจสีขาวคุณจะกลายเป็นสีดำทันที เพราะเขาจะเป็นคนกระทำ ?
"ประมาณนั้นครับ"
- เท่าไร ?
"ตอนแรกที่คุยก็ห้าหมื่นต่อเดือน ผมไม่เคยให้ครับ ก็เงียบไป ไม่ให้ ผมไม่รู้ว่าขายตรงแบรนด์อื่นมีแบบนี้หรือเปล่า แต่ของผมเจอครับ"
- เรื่อง สคบ. ใครเป็นคนจัดการคุณ ?
"ตอนนี้ผมก็ไม่รู้ว่าน้อง ๆ ตัวแทนคนอื่นต้องการอะไรที่ไปปลุกปั่นกัน บางคนทำไปสองสามปีแล้ว แล้วมาเกลียดอะไรผม ผมงงว่าผมไปคุยส่วนตัวกับเขา หรือว่าคนที่เคยชวนเขาทำเขาเสียหาย แล้วทำไมไม่ไปแจ้งความกับคนนั้น ตำรวจต้องเรียกบริษัทไปตรวจสอบอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เขามาระดมพลเพื่ออะไร ผมไม่เข้าใจ จริง ๆ อยากให้เห็นในมุมของผมว่าผมทำธุรกิจถูกต้องแน่นอน ไม่ใช่การระดมทุน หรืออย่างที่บอกว่าบริษัทไม่เห็นพฤติกรรมตัวแทนเหรอ ผมเรียนตรง ๆ ว่าถ้าเห็นผมแก้ไข ถ้าผมไม่เห็นผมก็ยังไม่ได้แก้ไข แต่ถ้าเห็นผมก็แก้ไขทันที"