กองทัพไทย รับเอง น้องเมยถูกซ่อม 2 วันติด เข้าห้องซาวน่า - กระโดดกบ จนหอบคาที่

       กองทัพไทย ยอมรับ น้องเมยถูกซ่อม 2 วันติด ก่อนเสียชีวิต แต่ไม่ส่งผลให้ถึงตาย ยันระบบโรงเรียนเตรียมทหาร "ธำรงวินัย" ยังจำเป็น ชี้อยู่ที่คนฝ่าฝืน สั่งห้ามลงโทษนอกเหนือท่าที่กำหนด 

       จากกรณีกองทัพไทยแถลงสาเหตุเสียชีวิต น้องเมย นักเรียนเตรียมทหาร โดยแพทย์สรุปการเสียชีวิตเกิดจากหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ส่วนซี่โครงหักเนื่องจากการทำซีพีอาร์ ตลอด 4 ชั่วโมง ส่วนรอยช้ำเกิดจากตกบันไดนั้น (อ่านข่าว : กองทัพไทย แถลงยัน น้องเมย หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน - รอยช้ำเกิดจากการตกบันได !)
       เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 15 ธันวาคม 2560 พล.อ.อ. ชวรัตน์ มารุ่งเรือง รองเสนาธิการทหารอากาศ กองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง การเสียชีวิตของน้องเมย ยอมรับว่า น้องเมยโดนซ่อม 2 วันติด ในวันที่ 15-16 ตุลาคม 2560 เป็นชั่วโมง พร้อมเพื่อนอีก 2 คน ก่อนเสียชีวิตวันที่ 17 ตุลาคม 2560 แต่ยืนยันว่าในวันนั้นไม่มีการทำร้ายร่างกาย ซึ่งในวันที่ 15 ตุลาคม 2560 น้องเมยโดนซ่อมท่าออกกำลังกายในห้อง ตามภาษานักเรียนเตรียมทหาร เรียกห้องซาวน่าอบ-ร้อน


       ส่วนวันที่ 16 ตุลาคม 2560 โดนสั่งให้วิ่ง แต่น้องเมยวิ่งช้า จึงโดนตัดยอดกับเพื่อนอีก 1 คน และโดนปรับปรุงวินัย ด้วยการกระโดดกบที่หน้าโรงเลี้ยง แต่ไม่ขอบคุณตามประเพณี เลยโดนท่าพุ่ง และฟุบลง แล้วเกิดอาการ Hyperventilation (โรคหอบจากอารมณ์ อันเกิดจากความเครียด) ก่อนจะเกร็ง มือจีบ หายใจถี่ ซึ่งนักเรียนเตรียมทหารมักจะเป็นกัน โดยยืนยันว่าการถูกซ่อมนั้นไม่ส่งผลให้เสียชีวิต และไม่ใช่เพราะมีรุ่นพี่ที่โดนปลดจากนักเรียนบังคับบัญชาแค้นแต่อย่างใด


       นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้มีการสอบปากคำทั้งหมด 42 คน ทั้งนักเรียนชั้นปีที่ 1 และปีที่ 3 รวม 22 คน และเจ้าหน้าที่ นักเรียนบังคับบัญชา นายทหารปกครอง ยืนยันว่า ไม่มีการกดดัน บังคับ หรือมีใบสั่งให้พูดแต่อย่างใด อีกทั้งมีการสอบปากคำแบบแยกกลุ่ม และสอบซ้ำถ้าใครโกหกจะรู้ได้ทันที พร้อมกับย้ำว่า ระบบโรงเรียนเตรียมทหาร "ธำรงวินัย" ยังจำเป็นในการสร้างทหารที่เข้มแข็ง แต่อยู่ที่คนฝ่าฝืน ซึ่งมีการห้ามลงโทษนอกเหนือท่าที่กำหนด ห้ามซ่อมด้วยท่าปักหัวโหม่งโลก โดยจะต้องกวดขันในการคัดเลือกนายทหารปกครอง และนักเรียนบังคับบัญชาที่เข้มงวดมากขึ้น เพราะกรณีนี้ถือว่าเป็นบทเรียน


       นอกจากนี้ พล.อ.อ. ชวรัตน์ ยังกล่าวถึงกรณีที่นักเรียนบังคับบัญชาถูกปลดนั้น ถือว่าเป็นโทษสูงสุดและเสื่อมเกียรติอย่างยิ่ง อีกทั้งยังถือเป็นระบบในการควบคุมไม่ให้มีการธำรงวินัยจนเกินกว่าที่ระเบียบกำหนด โดยยอมรับว่ามีการกำหนดเขตห้ามเดินผ่านของนักเรียนรุ่นน้องแต่ละรุ่น เหมือนในหลายสถาบัน เพื่อเป็นการสร้างระเบียบวินัย

ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก Wassana Nanuam, Sukanya Tanyakan