ครอบครัวนางงามอิรักถูกขู่ฆ่า ต้องหนีออกนอกประเทศ เซ่นปมเซลฟี่นางงามอิสราเอล

ครอบครัวนางงามอิรัก ต้องหลบหนีออกนอกประเทศ หลังถูกขู่ฆ่า เพราะภาพเซลฟี่คู่นางงามอิสราเอล เจ้าตัวเผยอยากเป็นตัวแทนภาพลักษณ์ดี ๆ ของชาติ แต่กลับถูกโจมตีรุนแรง

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2560 ซาราห์ อีดัน (Sarah Idan) วัย 27 ปี ตัวแทนสาวงามจากประเทศอิรัก เดินทางไปร่วมการประกวด Miss Universe 2017 ที่เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐอเมริกา เธอมาที่นี่ด้วยความรู้สึกยินดีและมีเกียรติ เพราะเธอคือนางงามอิรักคนแรกในรอบ 45 ปี ที่ได้มาร่วมประกวดเวทีนี้ โดยซาราห์ได้พบกับ อาดาร์ กันเดลส์มัน (Adar Gandelsman) ตัวแทนสาวงามจากอิสราเอล พวกเธอสร้างมิตรภาพที่ดีต่อกัน และได้ถ่ายภาพเซลฟี่คู่กัน เพื่อแสดงให้เห็นถึงสันติภาพและความเป็นมิตร แต่ภาพนี้กลับสร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรงมาก และมันก็ได้ส่งผลกระทบไปถึงครอบครัวของเธอด้วย

โดยจากการรายงานของสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2560 ระบุว่า ครอบครัวของซาราห์ตกเป็นเป้าของความอาฆาตมาดร้าย ผู้คนขู่จะเอาชีวิตพวกเธอ เพราะโกรธแค้นที่เธอไปถ่ายภาพคู่กับนางงามอิสราเอล เหตุนี้ทำให้พวกเขาต้องหลบหนีออกนอกประเทศอิรัก และไปซ่อนตัวเพื่อความปลอดภัย แต่ซาราห์ไม่ได้เปิดเผยว่าพวกเขาหนีไปอยู่ที่ประเทศไหน และจะหลบซ่อนเป็นเวลานานเท่าไร ส่วนตัวเธอเองนั้นอาศัยอยู่ที่ลอสแอนเจลิส เพราะเธอถือสัญชาติอเมริกันควบคู่กับสัญชาติอิรัก เธอเองก็อยากต่อหนังสือเดินทางอิรักใหม่ แต่นั่นหมายความว่าเธอต้องเดินทางกลับอิรัก ซึ่งตอนนี้เธอกลัวเกินกว่าที่จะกลับไป

"ตอนที่ฉันโพสต์รูปนั้น ฉันไม่ได้คิดเลยแม้แต่วินาทีเดียวเลยว่ามันจะสร้างปัญหา เมื่อฉันตื่นขึ้นมาตอนเช้า ฉันก็พบว่ามีคนโทร. หาฉันเยอะมาก หัวหน้ากองประกวดนางงามอิรักโทร. มาหาฉัน บอกว่าเขาได้รับการกดดันอย่างหนักจากเบื้องบน เขาบอกฉันว่าถ้าฉันไม่ลบรูปทิ้ง ฉันจะถูกปลด"

"คนอิรักรู้จักครอบครัวฉัน พวกเขาใช้เวลาไม่นานก็หาบ้านของครอบครัวฉันเจอ แม่ของฉันกลัวมาก ฉันบอกเธอไปว่า 'แม่คะ หนีเถอะ แม่ออกจากที่นั่น แม่ต้องหนีไป' ฉันบอกแม่ว่าฉันขอโทษ ฉันถามแม่ว่าอยากให้ฉันออกจากการประกวดไหม ณ จุดนั้นฉันพร้อมออกทันที"

"ฉันร้องไห้กับแม่ ฉันรู้สึกผิดมาก เพราะสิ่งที่ฉันทำ มันทำให้ครอบครัวฉันต้องหลบหนี แต่แม่ก็บอกฉันว่า 'ไม่หรอกลูก มันไม่ใช่ความผิดลูกเลย มันผิดที่เราอยู่ในสังคมที่โหดร้าย'" ซาราห์ กล่าว

ซาราห์เผยอีกว่า การที่เธอมาร่วมประกวดมิสยูนิเวิร์สนั้น เพราะเธอต้องการเผยแง่มุมดี ๆ ในประเทศของเธอให้โลกได้เห็น แต่เธอกลับไม่ได้รับการสนับสนุนใด ๆ

"ผู้คนมากมายมองอิรักในทางลบ ประเทศของฉันมีกลุ่มก่อการร้าย แต่ยังมีคนดี ๆ อยู่อีกมาก และผู้คนเหล่านั้นไม่เคยถูกมองเห็น ฉันมาประกวดเพื่อแสดงภาพลักษณ์ใหม่ ๆ ของบ้านเกิดให้โลกเห็น แต่ฉันกลับถูกโจมตี รัฐบาลไม่ให้การสนับสนุนใด ๆ กับฉัน กองประกวดนางงามอิรักก็เช่นกัน" ซาราห์ กล่าว

ด้าน อาดาร์ กันเดลส์มัน นางงามอิสราเอล ก็ได้กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า "ภาพเซลฟี่ของเธอและซาราห์ได้ก่อให้เกิดความโกรธแค้นอย่างมากในอิรัก ผู้แสดงท่าทีคุกคามเธอและครอบครัวอย่างรุนแรง พวกเขาขู่ว่าถ้าซาราห์ (ซึ่งพำนักอยู่ในสหรัฐฯ) ไม่เดินทางกลับบ้านเกิดและลบรูปทิ้ง พวกเขาจะยึดมงกุฎของเธอ และจะฆ่าเธอทิ้ง"

ทั้งนี้นอกจากซาราห์จะถูกโจมตีเรื่องการถ่ายภาพเซลฟี่คู่กับนางงามอิสราเอลแล้ว ภาพที่เธอสวมชุดว่ายน้ำก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าซาราห์จะถูกขู่ฆ่า และเธอเองก็กลัว แต่เธอก็ไม่ลบภาพเซลฟี่ออก โดยเธอก็ได้เขียนอธิบายไว้ว่า "ฉันต้องการยืนยันความแน่วแน่ถึงจุดประสงค์ที่ฉันถ่ายภาพนี้ ภาพนี้ถ่ายขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นถึงความหวังและความปรารถนาให้ทั้งสองประเทศเกิดความสงบสุข