วันที่ 18 ธันวาคม 2560 เว็บไซต์เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ มีรายงานคดีสะเทือนขวัญที่เกิดขึ้นเมื่อกลางดึกวันอาทิตย์ (17 ธันวาคม) หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจฮ่องกงได้เข้าจับกุมตัวหญิงวัย 37 ปี ฐานต้องสงสัยเป็นผู้ก่อเหตุฆ่าหั่นศพลูกสาววัย 12 ปี ของตัวเอง ภายในห้องชั้น 3 ของแฟลตย่านมงก๊ก โดยพบหลักฐานเป็นชิ้นส่วนศพของเด็กที่ถูกหั่นทิ้งไว้ในห้องน้ำ
รายงานเผยว่า ในเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันที่เกิดเหตุ กลุ่มเพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ห้องติด ๆ กันพบว่าท่อน้ำของพวกเขาอุดตัน โดยภายในห้องน้ำมีน้ำเจิ่งนองและมีเลือดไหลซึมออกมา จึงพยายามจะโทร. แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ ทว่าหญิงผู้ต้องสงสัยกลับรีบคว้าโทรศัพท์มือถือของเพื่อนบ้านแล้ววิ่งหนี ขังตัวเองไว้ในห้อง สุดท้ายเมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงพบว่าเธอคนนี้ไม่ยอมให้ความร่วมมือ ท่าทางมีพิรุธ จึงตัดสินใจพังประตูบุกเข้าค้นห้องของเธอ จนได้พบกับชิ้นส่วนศพอยู่ในห้องน้ำ โดยเชื่อว่าผู้ตายน่าจะเป็นลูกของผู้ต้องสงสัย
ทางด้านเจ้าหน้าที่เผยว่า เด็กหญิงผู้ตายนั้นเป็นพลเมืองของฮ่องกงที่มีบัตรประจำตัว และกำลังศึกษาอยู่ที่ฮ่องกง ร่างของเธอทั้งส่วนหัว อวัยวะ และลำตัว ถูกหั่นแยกออกจากกัน ขณะที่แม่ของเธอซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยนั้นมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ เธออาศัยอยู่ที่มงก๊กมานานแล้ว และไม่พบว่ามีประวัติรักษาอาการทางจิตหรือการใช้ความรุนแรงในครอบครัวใด ๆ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่กำลังพยายามติดตามหาตัวพ่อเด็ก และได้คุมตัวผู้ต้องสงสัยมาเพื่อสอบปากคำแล้ว
โดยจากนี้เจ้าหน้าที่จะเริ่มค้นหาอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ และนักนิติพยาธิวิทยาจะเข้ามาตรวจสอบในช่วงเช้า
ทั้งนี้เพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ห้องฝั่งตรงข้ามกับที่เกิดเหตุ เผยว่า เธอได้ยินเสียงดังคล้ายเสียงกำลังสับอะไร ดังมาจากห้องของผู้ต้องสงสัยราวครึ่งชั่วโมง แถมยังได้กลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อรุนแรงมาก ขณะที่ก่อนหน้านี้ก็มักจะได้ยินเสียงทั้งคู่ทะเลาะกันประจำ
ภาพจาก เฟซบุ๊ก 香港警察 Hong Kong Police
ข้อมูลจาก straitstimes.com
