หนุ่มเมาแล้วขับ โดนจับตรวจแอลกอฮอล์ แต่หัวหมอ ไม่เป่า เอาลิ้นดุนเครื่องแทน สุดท้ายอ่วมหนัก เจอ 3 ข้อหา โดนทั้งจำทั้งปรับ ศาลสั่งคุมความประพฤติ 1 ปี แถมโดนเคอร์ฟิว ห้ามออกนอกบ้านตอนกลางคืน งานนี้ไปไหนไม่ได้ เพราะมีกำไลติดตามตัว จากกรณีที่ นายกรกฎ สิงหะพันธ์ วัย 26 ปี ถูกเจ้าหน้าที่ด่านตรวจใกล้ปากซอยวิภาวดี 72 เชิญตัวมาสอบปากคำ หลังพบว่าขับขี่รถยนต์ในขณะที่มึนเมา แต่ปฏิเสธไม่ยอมเป่าเครื่องตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ โดยแอบใช้ลิ้นดุนเอาไว้แทน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุม และตั้งข้อหา 3 ข้อหา ได้แก่ เมาแล้วขับ, พักใช้ใบอนุญาตไม่น้อยกว่า 6 เดือน และฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงาน ซึ่งเมื่อเจ้าตัวสร่างเมาแล้ว ก็ให้การรับสารภาพแต่โดยดี และญาติก็ได้นำหลักทรัพย์ 2 หมื่นบาท มาประกันตัวออกไป ในเวลาต่อมานั้น
ล่าสุด วันที่ 31 ธันวาคม 2560 มีการรายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีดังกล่าว
โดย พล.ต.อ. วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ศาลแขวงดอนเมือง ได้พิพากษาลงโทษ
นายกรกฎ มีความผิดฐานเมาแล้วขับ โดยสั่งจำคุก 4 เดือน ปรับ 2 หมื่นบาท
รวมทั้งมีความผิดฐานขัดคำสั่งเจ้าพนักงาน ลงโทษสั่งปรับ 1,000 บาท
แต่เนื่องจากนายกรกฎให้การสารภาพ ศาลจึงลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือโทษจำคุก 2
เดือน ปรับ 10,500 บาท และรอลงอาญา 2 ปี
นอกจากนี้แล้ว นายกรกฎ
ยังถูกศาลสั่งคุมประพฤติเป็นเวลา 1 ปี โดยต้องมารายงานตัว 4 ครั้ง
บำเพ็ญประโยชน์เป็นเวลา 24 ชั่วโมง และถูกสั่งห้ามออกนอกเคหสถาน
ตั้งแต่เวลา 22.00-04.00 น. เป็นเวลา 15 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 30 ธันวาคม
2560 โดยเจ้าหน้าที่คุมประพฤติจะใช้กำไลข้อเท้า หรืออุปกรณ์ติดตามตัวอิเล็กทรอนิกส์ ในการควบคุมติดตามตัว พร้อมทั้งพักใช้ใบขับขี่ 6 เดือน และเข้ารับการอบรมวินัยจราจรอีก 1 ครั้ง
พล.ต.อ.
วิระชัย กล่าวอีกว่า สำหรับภาพรวมการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2561 นั้น
สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้สั่งเข้มสถานีตำรวจทั่วประเทศ
โดยเน้นจับกุมผู้ขับขี่เมาแล้วขับ ซึ่งปีนี้สามารถจับกุมได้แล้ว 3,641 ราย
มากกว่าปีที่แล้วที่สามารถจับกุมได้ 2,011 ราย
โดยจากการตรวจสอบสถิติคดีเมาแล้วขับตลอดทั้ง 2 วัน พบว่าร้อยละ 30
คือผู้ที่เคยถูกจับกุมและเคยถูกดำเนินคดีมาแล้ว นอกจากนี้
ยังพบว่ามีผู้หญิงถูกจับกุมมากกว่าเดิมอีกด้วย
ข้อมูลจาก
js100.comภาพและข้อมูลจาก