นางหลัว คือ แม่หม้ายวัยกลางคนชาวไต้หวัน ผู้มีลูกชาย 2 คน เธอเลิกรากับสามีเมื่อหลายสิบปีก่อน และเลี้ยงดูลูก ๆ ทั้งสองคนมาด้วยตัวของเธอเอง นางหลัวต้องการให้ลูก ๆ ของเธอเป็นหมอฟัน จึงได้ส่งพวกเขาเข้าเรียนคณะทันตแพทยศาสตร์จนจบ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายหลายสิบล้านบาท ด้วยความที่นางหลัวเสียเงินในการส่งเสียเลี้ยงดูลูก ๆ ไปเป็นจำนวนมาก เธอจึงกลัวขึ้นมาหากเธอแก่ตัวลงไป และเพื่อให้ตัวเองอุ่นใจ เธอจึงจับลูก ๆ มาเซ็นสัญญาตอบแทนบุญคุณเอาไว้ ปัญหาก็คือ นายฉู ลูกชายคนเล็กของเธอ ปฏิเสธไม่ยอมจ่ายเงิน แต่นางหลัวไม่ยอมง่าย ๆ เธอเดินทางไปที่ศาล และยื่นฟ้องร้องเขา
เมื่อนายฉูปฏิเสธ ไม่ยอมจ่ายเงินตามสัญญามาหลายปี นางหลัวจึงยื่นฟ้องร้องเขาในชั้นศาล ซึ่งนายฉูได้ให้การโต้แย้งแม่ของเขาว่า การที่แม่เลี้ยงดูลูกแล้วมาเรียกค่าตอบแทนนั้น ถือเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง อีกทั้งตอนที่เขาตกลงทำสัญญาตอบแทนบุญคุณฉบับนั้น เขายังอายุน้อยอยู่ ดังนั้นมันจึงควรเป็นโมฆะ นอกจากนี้แล้ว หลังจากที่เขาเรียนจบ เขาก็ทำงานที่คลินิกทันตกรรมของแม่มาโดยตลอด และหาเงินให้เธอได้มากกว่าที่ในสัญญาระบุไว้เสียอีก
ตามประมวลกฎหมายแพ่งของไต้หวันนั้น มีการระบุไว้ว่า บุคคลที่โตเป็นผู้ใหญ่แล้ว มีหน้าที่ต้องผู้แลบุพการีของพวกเขา แต่ถึงแม้ว่าหลาย ๆ คนจะปล่อยปละละเลย ไม่ได้ดูแล แต่ก็ไม่เคยมีพ่อแม่คนไหนลุกขึ้นมาฟ้องร้องกันถึงในชั้นศาล ดังนั้นคดี "ค่าตอบแทนบุญคุณ" ดังกล่าว จึงถือว่าเป็นคดีที่แปลกมากในสังคมไต้หวัน