หลวงพี่น้ำฝนโต้เดือด ซัดคนวิจารณ์กระเป๋ามหามงคล มือไม่พายอย่าเอาเท้าราน้ำ


กระเป๋ามหามงคล

        หลวงพี่น้ำฝนโต้เดือด ! ซัดคนวิจารณ์กระเป๋ามหามงคล มือไม่พายอย่าเอาเท้าราน้ำ ข้องใจอะไรให้มาที่วัด ไม่เคยอวดอ้างสรรพคุณ จะเชื่อยังไงก็แล้วแต่ เอาสมองส่วนไหนคิด ว่าเป็นพุทธพาณิชย์

         จากกรณีข่าว พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ที่ได้มีการเปิดตัวกระเป๋ามหามงคล ชื่อ พูล เพิ่ม ทรัพย์ มีลายยันต์อยู่บนตัวกระเป๋าสีคล้ายกับกระเป๋าแบรนด์เนมชื่อดัง โดยระบุว่าเงินที่ได้จากการจำหน่ายจะนำไปบริจาคแก่โรงพยาบาลนครปฐม จนนำมาซึ่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากนั้น [อ่านข่าว : พระมหาไพรวัลย์ ซัด กระเป๋าพูล เพิ่ม ทรัพย์-ขออย่าทำให้งมงาย..เลอะเทอะ คลิก]
         ล่าสุดวันที่ 4 มกราคม 2561 รายการโหนกระแส ช่อง 28 ได้สัมภาษณ์ พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือ หลวงพี่น้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม พร้อม พระมหาไพรวัลย์ พระนักคิดนักเขียน มาร่วมพูดคุยถึงประเด็นดังกล่าว

- ตอนนี้ยังอยู่ที่วัดไผ่ล้อม ?

         หลวงพี่น้ำฝน : ก็งานเยอะมาก ทั้งงานด้านการศึกษา โรงเรียน งานเกี่ยวกับสภาเยาวชน ของ จ.นครปฐม ซึ่งต้องช่วยขับเคลื่อนไป

- ในอดีต วัดไผ่ล้อมโด่งดังมาก เพราะมีหลวงพ่อพูลเป็นเจ้าอาวาส เคารพกราบไหว้ วันนี้มารับช่วงต่อ ล่าสุดเป็นกระเป๋าพูล เพิ่ม ทรัพย์ คืออะไร ?

         หลวงพี่น้ำฝน : คือกระเป๋าเป็นลายยันต์ ที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อพูลใช้ เจิมบ้าน เจิมรถ ทุกสิ่งทุกอย่างท่านจะใช้อักขระยันต์ตรงนี้ในการเจิม ชื่อยันต์ ณ เมตตา ยันต์ครู ถ้าตามภาษาเขาเรียกว่ายันต์ครู ยันต์นี้พระเดชพระคุณหลวงพ่อพูลท่านใช้ในการเจิมตลอด ลูกศิษย์ลูกหาก็จะเจิม โดยเฉพาะเจิมบ้าน เจิมรถ ออกเหรียญวัตถุมงคลต่าง ๆ ก็จะใช้ยันต์

- หลวงพ่อพูลอาจไปเจิมบ้าน เจิมรถ แต่มาอยู่ในกระเป๋าแบบนี้มันได้เหรอ ?

         หลวงพี่น้ำฝน : ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ก็เหมือนคุณติดสติ๊กเกอร์ เป็นยันต์ที่ติดตามรถก็เหมือนกัน เพียงแต่ว่าทำยันต์แล้วมาลงในแผ่นหนัง พิมพ์ลงไป ก็เปรียบเสมือนผ้ายันต์นั่นแหละ

- ใครเป็นคนริเริ่ม ?

         หลวงพี่น้ำฝน : อาตมาเลย เรื่องของเรื่อง ตั้งแต่หลวงพ่อพูลท่านมีชีวิตอยู่ท่านก็เจิม เจิม ณ เมตตา เจิมกระเป๋าสตางค์กราบท่านตลอด จนถึงอาตมา อาตมาก็เจิมแทนท่านมาตลอด ณ ปัจจุบันนี้ยิ่งมากกว่าเดิมเยอะหลายเท่าตัว ในอดีตก็เจิมแทน ไม่มีใครเปรียบเทียบ หลวงพ่อพูลท่านเป็นพระสายเมตตา มีแต่ให้พร ให้โยมอยู่สองคำคือว่าโชคดี

- ตอนนี้มีคนบอกว่าหลวงพี่ทำมาเป็นพุทธพาณิชย์ ?

         หลวงพี่น้ำฝน : มันหมายความว่าอะไร รู้ได้ยังไง เอาสมองส่วนไหนคิด อาตมาเป็นพระ ทำเนี่ยคุณไม่ไปถามเหรอว่าปัจจัยที่ได้มาเอาไปทำอะไรบ้าง ก็ได้ยินมาตลอด มาสัมภาษณ์กี่คนก็เหมือนกัน คำว่าพุทธพาณิชย์ คือคนทำแล้วเอาเข้ากระเป๋าตัวเอง แต่อาตมา โยมไปดูสิครับ โรงเรียนเอย โรงพยาบาลเอย แม้กระทั่งตำรวจ หน่วยงานให้หมด ใจเกี่ยวกับความศรัทธาที่เกิดขึ้นกับความศรัทธาในตัวอาตมา ถ้าไม่มีคนศรัทธาแล้วใครจะนำปัจจัยมาให้อาตมา

         ไปสอนให้โยมหลงงมงายตรงไหน มีสอนแค่ 4 คำ ขยัน ซื่อสัตย์ อดทน รู้บุญคุณคน มันก็คือความกตัญญูกตเวทีอยู่แล้ว พระเดชพระคุณหลวงพ่อพูลท่านสอนอาตมาอย่างนี้ ไปถามสิครับว่าคนไปวัดไผ่ล้อมได้รับหลักธรรมแบบไหน อาตมาเป็นพระไม่ได้เรียนสูงอะไร แต่หลักธรรมแค่นี้ถือว่าเต็มที่แล้ว

- กรณีกระเป๋าทำไมต้องทำเป็นสีน้ำตาล เหมือนลายยันต์ หลายคนบอกว่าเหมือนกระเป๋าหลุยส์ วิตตอง ?

         หลวงพี่น้ำฝน : ไม่รู้ เราต้องการวางยันต์หลวงปู่ให้เป็นลักษณะนี้อยู่แล้ว อาตมามีหน้าที่ออกแบบยันต์ รูปแบบกระเป๋าเป็นลูกศิษย์ ที่เขาทำไปก็ไม่ได้คิดหวังผลประโยชน์อะไรทั้งสิ้น เขาบอกแล้วว่าอยากช่วยซื้ออุปกรณ์การแพทย์โรงพยาบาล ซึ่งเราได้เยอะมาก หลายสิบล้าน อาตมาเป็นพระจะไปวิ่งเพื่ออะไร ไปวิ่งคือไปขอบริจาคเขา แต่อาตมามีของมอบเป็นของที่ระลึกให้เขา ปัจจัยที่ได้มา ไม่ใช่ว่ามอบหนึ่งร้อยได้หนึ่งร้อยเลย เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้มอบให้โรงพยาบาลซื้ออุปกรณ์การแพทย์เท่านั้นเอง

- ทำมากี่รุ่น ?

         หลวงพี่น้ำฝน : ไม่รู้ จำไม่ได้เหมือนกัน (มี 6 แบบ ?) ส่วนใหญ่เป็นกระเป๋าผู้หญิง กระเป๋าใส่เงิน

- ต้องใช้คำว่าอะไร ?

         หลวงพี่น้ำฝน : บูชา ไม่ใช่ซื้อกระเป๋าไปบูชา ก็เหมือนวัตถุมงคล ผ่านการสวดพระพุทธมนต์ พระสงฆ์ในวัดสวดกันเอง เหมือนทำบุญบ้าน พระสวดมนต์สายสิญจน์ทำไง ทำกี่ใบก็จำไม่ได้ 200-300 ใบ แต่เป็นหนังเยอะ

- บูชากระเป๋าใบเท่าไร ?

         หลวงพี่น้ำฝน : มีหลายราคา ใบใหญ่ 3 พัน ปกติคุณไปซื้อกระเป๋ามากกว่านี้มั้ย

- ใบกลาง 2,500 สะพายข้าง 2,500 แต่ละใบจะมีชื่อแยกต่างหาก กระเป๋าเป้ใส่เงินพูล เพิ่ม ทรัพย์ กระเป๋าสะพายเก็บเงิน กระเป๋าถือเก็บเงิน พวกนี้ใส่แล้วจะรวยไหม ?

กระเป๋ามหามงคล

         หลวงพี่น้ำฝน : ไม่เกี่ยวว่าจะรวย อาตมาบอกเหรอว่าใส่กระเป๋าพวกนี้แล้วจะรวย

- แล้วจะแตกต่างจากกระเป๋าอื่นตรงไหน ?

         หลวงพี่น้ำฝน : นที่นำกระเป๋ามาเจิมเขาต้องการความเป็นสิริมงคล ไม่จำเป็นต้องกระเป๋าหลวงพี่หรอก ทุกคนก็เอากระเป๋ามาให้หลวงพี่เจิมอยู่แล้วเพื่ออะไร เพื่อความเป็นสิริมงคล วันนี้ลูกศิษย์ลูกหาเขาอยากได้ของหลวงพี่เลยคิดว่าจะทำยังไง ก็ให้เขามาช่วยกัน จะทำยังไง
 
- เรียกว่าเป็นวัตถุมงคล ?

         หลวงพี่น้ำฝน : ก็เหมือนบอกผ่านการสวดพระพุทธมนต์ เหมือนเราไปทำบุญตามบ้าน คือการสวดมนต์ อะไรก็แล้วแต่ก็เป็นมงคล บทพุทธมนต์พระพุทธเจ้า 7 ตำนาน 12 ตำนาน ยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎก คาถาชินบัญชร ผ่านการสวดเพื่อความเป็นมงคล

- แต่กฎมหาเถรสมาคมออกกฎมาแล้วว่าไม่ให้พระสงฆ์มีส่วนเกี่ยวข้องกับวัตถุของขลัง ปลุกเสกอะไร ต่าง ๆ นานา ?

         หลวงพี่น้ำฝน : ไม่ใช่อย่างนั้นครับคือเขาห้ามจำหน่ายเปิดให้บูชาวัตถุมงคลบนอุโบสถ จริง ๆ วัดไผ่ล้อมทำแบบนี้มาตลอดอยู่แล้ว ตอนเปิดบูชาก็ไม่ได้มีอะไร เพราะเราไม่ได้ไปโฆษณาชวนเชื่อ

- ดังมาได้ยังไง ?

         หลวงพี่น้ำฝน : ก็ไม่รู้ คนเขาเห็น คุณเองเอามาออกก่อนเลยไม่ใช่เหรอ ไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัว ที่จริงไม่เกี่ยวกับกระเป๋า ยังมีอย่างอื่นที่อาตมาทำมา มันเพื่อประโยชน์ส่วนรวมทั้งสิ้น มันไม่ใช่พุทธพาณิชย์ เพราะพุทธพาณิชย์ เข้าพกเข้าห่อ มีนอกมีใน
 
- ประชาชนส่วนหนึ่งมองว่าตั้งแต่หลวงพี่น้ำฝนเข้ามาแทนหลวงพ่อพูล มันเปลี่ยนไปมาก ดูไม่ขลังเหมือนสมัยก่อน ?

         หลวงพี่น้ำฝน : มันไม่เกี่ยว ขลังไม่ขลังอยู่ที่ตัวคุณเอง ไม่เกี่ยวกับอาตมา อาตมาไม่ได้ทำให้ขลังนี่ คนมากราบไหว้หลวงปู่ คุณไม่ไปดูปิดหูปิดตา วัดสร้างอะไรไปบ้าง ให้เข้าไปดูก่อน

- หลวงพี่น้ำฝนเป็นพระนักเลง ?

         หลวงพี่น้ำฝน : อาตมาพูดจาเสียงดัง พูดตรงไปตรงมา ได้ยินบ่อยอยู่แล้ว อาตมาพระนักเลงหมายความว่าอาตมาพูดตรงไปตรงมา จะให้ไปต่อยกับใครล่ะ พูดเสียงดังแบบนี้แค่นั้นเอง คนเราคิด วิเคราะห์ แยกแยะ ภายใต้เหตุผล ถ้าไม่มีเหตุผลบรรลัยไปนานแล้ว

- ทำให้กายสังขารหลวงพ่อพูลไม่มีคนเคารพ ?

กระเป๋ามหามงคล

         หลวงพี่น้ำฝน : รู้ได้ไง ก็คนมันไม่ได้ไปไง คนไปเยอะแยะมากมาย ไม่เกี่ยวว่าเป็นเพราะอาตมา แล้วคนไม่ไปเยอะกว่าเดิม คุณไม่ไปดูล่ะครับ คุณได้แต่ฟังเสพข่าวที่ถูกต้องหรือเปล่า อาตมาอยู่ในศีล สมาธิ ปัญญาอยู่แล้ว ตามรอยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยเฉพาะสาธารณสงเคราะห์ กับศึกษาสงเคราะห์เป็นงานหลักที่อาตมาต้องทำ และทำมาโดยตลอด 20 กว่าปีแล้ว

- ยืนยันว่ามีเจตนาดี กระเป๋าถ้าขายได้ไม่มีการหัก ?

         หลวงพี่น้ำฝน : ที่วัดไผ่ล้อมอาตมามีกองทุน จำหน่ายได้ คนมาบูชา 1 ล้านกว่าบาท อาตมาเตรียมซื้อเตียงแล้ว หักต้นทุนตอนไหน เตียงผู้ป่วย เตียงธรรมดา ได้ 160 เตียงแล้ว ตอนนี้บูชาได้ล้านกว่าบาท อาทิตย์หน้าเตรียมสั่งเตียงแล้ว ได้เท่าไรสั่งเข้าไปก่อน ไม่ได้มารอหักต้นทุน ไม่มีครับ อาตมาปัจจัยมีกองเดียว กองนี้สามารถช่วยตำรวจ ช่วยข้าราชการ ช่วยโรงเรียน ช่วยต่าง ๆ นานา กองเดียว ไม่ใช่เอาตรงนั้นมาเป็นต้นทุน ไม่ใช่นะครับ นี่เตรียมแล้ว ช่วยไปทำข่าวด้วยนะครับตอนที่แจก พอเราให้บูชาไปเราเอาไปทำบุญจริง ๆ คุณไม่รู้ไม่ไปสอบถามว่าเราทำอะไรบ้าง ด่าอย่างเดียว มือไม่พาย เอาเท้าราน้ำอีกต่างหาก ถือว่าเป็นเวรกรรมของคนนั้นไป อาตมาจิตใจบริสุทธิ์ไม่มีหวังผลประโยชน์ใด ๆ ทั้งสิ้น อาตมาจะไปรับทำไม คนจะด่าจะว่าอาตมาก็ด่าไป เวรใครเวรมัน

- พอเป็นกระเป๋า พอสะพายปุ๊บจะมีเงินไหลมาเทมา ?

         หลวงพี่น้ำฝน : อันนั้นเป็นคาถาที่อาตมาอธิษฐาน เวลาอธิษฐานจิตในการให้พรญาติโยม มีมั้ยให้คุณหน่อยซวย ๆ พระก็ต้องให้พรอย่างเดียว

- คนจะเข้าใจผิดหรือเปล่าว่ามีเป้ใส่เงิน เงินจะได้พูนเพิ่ม ?

         หลวงพี่น้ำฝน : คุณจะคิดยังไงก็เรื่องของคุณ แต่อาตมาไม่ได้บอกว่าเป็นอย่างนั้น
 
- หลวงพี่ไม่กลัวสีข้างถลอก ?

         หลวงพี่น้ำฝน : ไม่เกี่ยว ไม่จำเป็นเลย ใครจะอะไรก็แล้วแต่ มาต่อหน้าเถอะ ไม่ใช่ไปอะไรลับหลัง

- ในมุมพระมหาไพรวัลย์เป็นอย่างไร ?

        พระมหาไพรวัลย์ : คือเป้าหมายเราเข้าใจหลวงพี่ว่าท่านเจตนาดี ความประสงค์ของท่านดีจริง ๆ เป็นการทำเพื่อสาธารณประโยชน์ แต่ทีนี้เรากำลังพูดถึงวิธีให้ได้มาซึ่งเงินบริจาค มันถูกตั้งคำถามจากสังคม ไม่ใช่จากอาตมา เพราะอาตมาไม่ได้มีปัญหากับหลวงพี่น้ำฝนอยู่แล้ว แต่ว่าคนในสังคมกำลังตั้งคำถามกันเยอะมาก และประเด็นนี้มาจากสังคมออนไลน์ว่า เอ๊ะ วิธีการทำกระเป๋าแบบนี้ออกมาให้โยมบูชาหรือให้โยมเช่ามันถูกต้องเหมาะสมหรือเปล่า

         หลวงพี่น้ำฝน : ถามจริง ๆ ว่าการสร้างวัตถุมงคลต่าง ๆ มันเหมาะสมไม่เหมาะสมมันอยู่ที่คนเคารพศรัทธา อาตมา ญาติโยมที่เป็นศิษยานุศิษย์ สำคัญว่าเราไปหลอกลวงใครหรือไปทำอะไรผิด ๆ ถ้าอาตมาทำผิดก็ว่าไปอย่าง แล้วนี่มันผิดตรงไหน มันจะไม่เหมาะสมยังไง

        พระมหาไพรวัลย์ : คือเราจะรู้ว่าวัดไผ่ล้อมคนศรัทธาหลวงปู่พูลกันมาก เพราะท่านเป็นเกจิสมัยก่อน วิธีการปลุกเสกอะไร วัตถุที่ท่านทำขึ้น มันยังอยู่ในร่องรอยพุทธศาสนา มีส่วนทำให้คนบูชาแล้วได้ความเป็นพุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ พูดง่าย ๆ ว่ามันเป็นที่ยอมรับได้เคารพได้

- ท่านปลุกเสกพระเป็นวัตถุมงคล แต่ปัจจุบันปลุกเสกกระเป๋า ?

        พระมหาไพรวัลย์ : คนก็ตั้งคำถามว่างั้นกระเป๋าใบหนึ่งกับพระเครื่องสักองค์หนึ่ง การมองหรือให้คุณค่ามันต่างกันนะ อย่างน้อยเราบูชาพระเครื่องมันก็เป็นตัวแทนของพุทธคุณได้ คนเอาไปบูชาก็มีขวัญกำลังใจ หรือแม้แต่บูชารูปหลวงปู่พูลเองก็ได้สังฆานุสติ นึกถึงคุณงามความดีที่ท่านทำ อันนี้เราพอยอมรับได้

- แต่พอมีการสร้างกระเป๋าขึ้นมา คนก็จะมองว่ากระเป๋าซึ่งเดิมประโยชน์ของมันคือการใส่เงิน ใส่สิ่งของ ทีนี้พอเอามาผ่านการปลุกเสกเพื่อทำให้มีลักษณะเป็นของศักดิ์สิทธิ์หรือของมงคลขึ้นมา มันก็เปลี่ยนคุณค่า เปลี่ยนความหมายดั้งเดิมไป ก็ทำให้คนมองว่าอยากได้กระเป๋าเพื่อได้มาแล้วพูนทรัพย์ เพิ่มทรัพย์มากขึ้นแบบนี้หรือเปล่า

         หลวงพี่น้ำฝน : มันมโนไปเอง มีตรงไหนที่อาตมาพูดแบบนั้น ว่าจะเพิ่มทรัพย์เพิ่มอะไร ไม่มี ไปพูดตรงไหน มีแต่เป็นรุ่นที่ออกมา พูล เพิ่ม ทรัพย์ ก็เป็นคำมงคลไงครับ

- แต่ในโบรชัวร์เขียนชัดเจน กระเป๋าพูล เพิ่ม ทรัพย์ หนุนพลังเมตตา เรียกทรัพย์ สุดยอดนวัตกรรมใหม่ ดีไซน์มหามงคล ลงอักขระลวดลายยันต์ครูประจำหลวงพ่อพูล ผลิตเพื่อเป็นสิริมงคล เสริมพลังบารมี ใช้แล้วร่ำรวย รุ่งเรือง ?

         หลวงพี่น้ำฝน : แล้วผิดตรงไหน โยมเอาไปใช้ก็ต้องประกอบสัมมาอาชีพของโยมอยู่แล้ว  การเขียนแบบนั้นก็เพื่อให้โยมมีกำลังใจประกอบสัมมาอาชีพ ไม่ใช่สีข้างถลอก การเจิมก็เหมือนพระมหาไพรวัลย์พูด ทุกวันนี้เขาก็เอากระเป๋าที่มีอยู่มาเจิมอยู่แล้ว ก็เหมือนกัน ถ้าเขาไม่ถูกใจเขาจะเอาไปเพื่ออะไร อาตมาบอกให้เขาไปเอามั้ย ที่ไหนล่ะ

- เล่นกับความเชื่อ ความศรัทธาหรือเปล่า ?

กระเป๋ามหามงคล

         หลวงพี่น้ำฝน : ไม่มี ส่วนใหญ่เป็นลูกศิษย์มากกว่าที่เขาไปวัดกันอยู่แล้ว

        พระมหาไพรวัลย์ : เราไม่ได้ตั้งคำถามที่จุดประสงค์ เราตั้งคำถามที่วิธีการ อย่างที่คุณหนุ่มบอกโบรชัวร์ ใช้แล้วร่ำรวย รุ่งเรือง กระเป๋าก็พยายามจะโปรโมทความรวย ถ้าใครบูชากระเป๋าไป แต่ถ้าหลวงพี่น้ำฝนทำกระเป๋ารุ่นนี้แล้วท่านอาจจะเขียนใส่ในกระเป๋าว่า คนมีความหมั่นเพียรย่อมหาทรัพย์ได้ หรือเงินทองไม่สามารถไหลมาได้จากการอธิษฐานหรือความคิด โห แบบนี้จะดีเลย อาตมาสนับสนุนมาก และแจกเลยเป็นของขวัญสำหรับคนที่มาทำบุญร่วมสร้างโรงพยาบาล แจกกระเป๋าไม่ต้องปลุกเสก ไม่ต้องใช้ลักษณะจะรวยอะไรแบบนี้

         หลวงพี่น้ำฝน : มันไม่ใช่ อาตมาไม่ได้สอนอะไรแบบนั้น อาตมาสอนอยู่ 4 ข้อ ขยัน ซื่อสัตย์ อดทน รู้บุญคุณคน ในการสอนมีแค่นี้ บ้าน ๆ ใครมาก็เจิมก็บอกไปอย่างนั้นตลอด

- เงินที่ซื้ออุปกรณ์การแพทย์ตอนนี้ได้เท่าไร ?

         หลวงพี่น้ำฝน : ได้มาล้านเศษ ๆ ขาดอีกเยอะ แต่ว่าอย่างที่บอกอาตมาทำไปเรื่อย ๆ พอได้ก็เตรียมที่จะซื้อแล้ว
 
- เป็นไปได้ไหม หลวงพี่จะบอกเขาว่าต้องทำมาหากินนะ ?

         หลวงพี่น้ำฝน : มันชัดเจนอยู่แล้วเราบอกอยู่แล้ว ทุกวันนี้ก็ถามกันอยู่แล้ว จะเป็นคณะศิษย์เท่านั้นที่มาที่วัด มาเจิม เท่านั้นเอง

- ดราม่าขนาดนี้จะล้มเลิกโครงการไหม ?

         หลวงพี่น้ำฝน : ไม่เลิกอยู่แล้ว เพราะใครไม่อยากจะบูชาก็ไม่ต้องมาบูชา ถ้าสังคมด่าก็เรื่องของสังคม ก็ด่าไปสิครับ อาตมาทำอะไรผิดล่ะ ถ้าบอกว่าไม่ควรก็เรื่องของโยม ก็ทิ้งเอาไว้ วางไว้ตรงนั้น คนที่เขาคิดว่ามีค่าก็เรื่องของเขาอีก เงินที่ได้มาก็ไปทำเหมือนเดิม ไม่ได้เพิ่งจะทำ ทำมา 20 กว่าปี ทำเพื่อประโยชน์สังคมทั้งหมด

- ในมุมศาสนารับได้ไหม ?

        พระมหาไพรวัลย์ : รับได้หรือไม่ได้ ให้สังคมใช้วิจารณญาณที่จะพิจารณาเอาเอง การวิพากษ์วิจารณ์เป็นเรื่องปกติ แต่ทีนี้ก็ต้องมามองว่าคณะสงฆ์ท่านจะมองยังไง ก่อนหน้านี้ท่านมีกฎ 13 ข้อ และมีข้อหนึ่งที่เกี่ยวกับการอวดอ้างสรรพคุณอะไรทั้งหลาย ด้วยความนับถือหลวงพี่น้ำฝนมาก ๆ ก็อยากจะเรียนว่าด้วยความที่มีกฎ 13 ข้อ ก็เพราะว่ามีเรื่องแบบนี้มากเกินไปแล้ว คณะสงฆ์เลยต้องเบรกบ้าง เพราะถ้าไม่เบรกจะพังหมดเลย เพราะคนเริ่มโจมตีพระมาก เพราะทำอะไรแบบนี้ออกมา

         หลวงพี่น้ำฝน : อาตมามองว่าไม่ใช่แบบที่ท่านคิด คือถ้าของไม่มีคุณค่าคนไม่มาอะไรอยู่แล้ว จะไปโฆษณายังไงเขาก็ไม่มา สังคมด่าก็เรื่องของสังคม อาตมาทำอะไรผิด ไปหลอกลวงใคร เขากล้ามาว่าอาตมาหรือเปล่า ก็ไม่มีสักคน ให้มีคนมาว่าสิ ไม่ใช่เป็นพวกนักเลงคีย์บอร์ด มาที่วัดสิครับ คุณวิจารณ์ ก็วิจารณ์ไป ถ้าอาตมาทำอะไรผิดก็ว่ากันไป มาเลยครับ มาว่าต่อหน้าเลย มาคุยกันสิครับ อะไรก็คำว่าพุทธพาณิชย์

- ถามพระมหาไพรวัลย์ ถ้าหลวงพี่จะทำก็ไม่เป็นไร ?

กระเป๋ามหามงคล

        พระมหาไพรวัลย์ : ก็เป็นสิทธิ์ของหลวงพี่ เพราะในแง่หนึ่งก็มีคนพร้อมใจไปบูชาอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าทุกอย่างมันจะดูได้เมื่อถูกวิจารณ์ ถูกตรวจสอบ ถูกท้าทายแบบนี้แหละ ถ้าคณะสงฆ์หรือเจ้าคณะผู้ปกครองมองว่าสิ่งที่หลวงพี่น้ำฝนทำอยู่ในขอบเขต โอเคได้ ท่านก็ไม่ได้ลงไปกำชับหรือให้หยุดทำ ก็เป็นสิทธิ์ของหลวงพี่ที่จะทำ



เรื่องน่าสนใจอื่นๆ
เรื่องที่คุณอาจสนใจ
หลวงพี่น้ำฝนโต้เดือด ซัดคนวิจารณ์กระเป๋ามหามงคล มือไม่พายอย่าเอาเท้าราน้ำ อัปเดตล่าสุด 5 มกราคม 2561 เวลา 17:33:59 23,521 อ่าน
TOP
x close