วันที่ 5 มกราคม 2561 นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงถึงความคืบหน้าการสอบข้อเท็จจริงปมนาฬิกาหรูของ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่า ในสัปดาห์หน้า ป.ป.ช. จะสอบถ้อยบุคคลภายนอก ที่ พล.อ. ประวิตร อ้างถึงในหนังสือที่ชี้แจง จำนวน 4 คน ซึ่งทุกคนเป็นภาคเอกชนทั้งหมด
อย่างไรก็ดี เลขาธิการ ป.ป.ช. ไม่ขอให้รายละเอียดว่า พล.อ. ประวิตร มีนาฬิกากี่เรือน ระบุได้แต่ที่มาของนาฬิกาทุกเรือนที่เป็นข่าว ยืนยันว่า ป.ป.ช. เป็นมืออาชีพ ทำงานภายใต้กฎหมาย คาดว่าในเดือนมกราคมนี้คงมีความชัดเจน เว้นแต่จะต้องสอบพยานเพิ่มซึ่งอาจจะต้องขยายเวลาเพิ่มเติม
ขณะเดียวกัน นายวรวิทย์ เผยอีกว่า ป.ป.ช. ได้ทำหนังสือให้ พล.อ. ประวิตร ชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมอีก 1 ฉบับ ในการครอบครองทรัพย์สินอื่น รวมถึงแหวนเพชรที่ปรากฏเป็นข่าวด้วย ซึ่ง พล.อ. ประวิตรต้องชี้แจงเพิ่มภายใน 15 วัน
ส่วนคืบหน้าคดีการเช่าเครื่องบินเหมาลำของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ไปประชุมที่รัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้พิจารณาเห็นว่า พยานหลักฐานไม่ปรากฏว่ามีการกระทำผิดระเบียบแต่อย่างใด จึงมีมติไม่รับไว้ดำเนินการไต่สวนตามระเบียบคณะกรรมการ ป.ป.ช. ว่าด้วยการตรวจสอบคำกล่าวหา การแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐาน พ.ศ. 2560 ข้อ 25 (2)
ทั้งนี้กรณีดังกล่าวผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. เปิดเผยข้อมูลว่า พล.อ. ประวิตร มีรายชื่อผู้ร่วมคณะทั้งหมด 38 คน และในเอกสารชี้แจงระบุว่าที่ต้องเช่าเหมาลำ เนื่องจากเป็นคณะประชุมที่ต้องไปพร้อมกันและปรึกษาหารือกัน ไม่อาจสะดวกที่จะซื้อแยกหรือทยอยตามกันไป และการไปประชุมครั้งนี้ ไปในส่วนของหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง ในระดับรองนายกรัฐมนตรี หรือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งหลาย ๆ ประเทศก็อาจดำเนินการเช่นเดียวกัน
ในส่วนการเดินทางไปยังรัฐฮาวาย มีการเปิดเผยข้อมูลค่าใช้จ่ายด้วยงบประมาณรวมทั้งหมด 20,953,800.00 บาท โดยประกอบไปด้วยค่าเครื่องบินกว่า 3.8 ล้านบาท, ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง 10 ล้านบาท, ค่าอาหาร 6 แสนบาท, ค่าปฏิบัติการภาคพื้น 2.6 ล้านบาท และค่าดำเนินการต่าง ๆ อีก 3.1 ล้านบาท
ภาพและข้อมูลจาก
- ทวิตเตอร์ @Kob_springnews
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
