พม. รุดเยี่ยมเด็กหญิงอายุ 14 ถูกรุ่นพี่รุมโทรมข่มขืน ขณะที่เหยื่อยังผวาไม่กล้าไปโรงเรียน ตำรวจยันไม่นิ่งนอนใจ สั่งสอบเจ้าหน้าที่ทำคดีพูดจาไม่เหมาะสม พร้อมเปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนให้ญาติสบายใจ จากกรณีเด็กหญิงอายุ 14 ปี ถูกรุ่นพี่อายุ 17-18 ปี รวม 3 คน รุมโทรมข่มขืน ตั้งแต่คืนวันที่ 31 ธันวาคม 2561 หลังเกิดเหตุญาติได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เชียงกลม ผ่านมาหลายวันคดีกลับไม่มีความคืบหน้านั้น (อ่านข่าว : เด็ก 14 ถูก 3 รุ่นพี่ ขืนใจยันเช้า แจ้งความคดีไม่คืบ-ขู่ใครเป็นพยานจะฆ่าให้ตาย)
ล่าสุด (9 มกราคม 2560)
เจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเลย
พร้อมด้วยนายราเชนท์ กงสิมมา นายกเทศมนตรีตำบลเชียงกลม
ได้เข้าเยี่ยมให้กำลังใจ ด.ญ.เอ และตากับยาย
พร้อมมอบเงินช่วยเหลือสำหรับเดินเรื่องดำเนินคดี ขณะที่ ด.ญ.เอ
ยังเก็บตัวอยู่ในบ้าน ไม่สามารถไปโรงเรียนได้ และพบว่ายังมีอาการซึมเศร้า
หวาดผวา โดยหลังจากนี้จะนัดหมายกับพนักงานสอบสวน สภ.เชียงกลม
และทีมสหวิชาชีพเข้ามาสอบปากคำเด็ก หากเด็กยังมีสภาพจิตใจไม่ดีขึ้น
ทางเจ้าหน้าที่จะนำเด็กไปเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูสภาพจิตใจที่โรงพยาบาลจิตเวชราชนครินทร์ต่อไป ด้าน
พ.ต.อ. ภุชงค์ ภัทรพงศ์สินธุ์ ผู้กำกับ สภ.เชียงกลม ยืนยันว่า
ทางพนักงานสอบสวนไม่ได้นิ่งนอนใจ
หลังเกิดเหตุได้ออกไปตรวจสอบเก็บพยานหลักฐานต่าง ๆ ในที่เกิดเหตุ
โดยเมื่อวันที่ 8 มกราคม ที่ผ่านมา ผู้ต้องสงสัยเข้ามามอบตัว 2 คน
เป็นเยาวชนอายุ 17 ปี กับอายุ 19 ปี ส่วนอีก 1 คน กำลังติดตามตัวอยู่
ซึ่งทั้งสองคนได้ส่งฝากขังที่ศาลเรียบร้อยแล้ว
ส่วนเหตุที่ล่าช้าเพราะคดีนี้ต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวัง
นอกจากนี้
เจ้าหน้าที่ก็ได้สอบสวนพยานซึ่งเป็นเด็กและเยาวชน 11 คนแล้ว
และขอให้ผู้เสียหายคลายความกังวล
ทางเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง
และคลี่คลายคดีให้เร็วที่สุด แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายด้วย
ส่วนกรณีที่พนักงานสอบสวนใช้กิริยาวาจาไม่สุภาพกับญาติผู้เสียหายนั้น
ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง
หากผิดจริงก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย
และเบื้องต้นได้เปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนรายนี้แล้ว
เพื่อให้ญาติผู้เสียหายสบายใจภาพและข้อมูลจาก
amarintv