ส่องไทม์ไลน์แก๊งเปิดบัญชี ณิชา ด้านเพจดังชี้หรือจะมี แกะ แบบคดีครูจอมทรัพย์

          ส่องไทม์ไลน์ แก๊งเปิดบัญชี ณิชา พร้อมดูลำดับเหตุการณ์ ณิชา ทำบัตรประชาชนหาย-ออกใหม่ ด้านเพจดังชี้หรือจะมี "แกะ" ซ้ำรอยคดีครูจอมทรัพย์

          ยังคงเป็นเรื่องที่สังคมให้ความสนใจ สำหรับกรณีของ น.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ อายุ 24 ปี ที่ถูกคนร้ายนำบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีธนาคาร 7 แห่ง รวม 9 บัญชี นำไปใช้เป็นบัญชีหลอกลวงเหยื่อให้โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำให้ น.ส.ณิชา ตกเป็นผู้ต้องหาฉ้อโกงแทน ซึ่งต่อมาทางตำรวจได้ควบคุมตัวคนร้ายได้ทั้งหมดแล้ว แต่ยังไม่ปักใจเชื่อว่า น.ส.ณิชา เป็นผู้บริสุทธิ์ เนื่องจากพบว่า น.ส.ณิชา ได้ทำบัตรประชาชนหาย 3 ครั้ง ในทุกครั้งก็มีการเปิดบัญชีใหม่และแจ้งความ แถมพบเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 6 ล้านบาท ซึ่ง น.ส.ณิชา ได้ชี้แจงว่าไม่รู้จักคนร้ายเป็นการส่วนตัว ขณะที่เงินดังกล่าวเป็นเงินที่พ่อ-แม่โอนให้ ตามที่ได้รายงานไปแล้ว [อ่านข่าว : ณิชา ยืนยันเป็นผู้บริสุทธิ์ แจงเงินในบัญชี 6 ล้านบาท พ่อ-แม่โอนให้]

          ความคืบหน้าวันนี้ (15 มกราคม 2561) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 มีรายงานว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนนครบาล 1 ได้จับกุมตัวผู้ต้องหา 3 ราย คือ น.ส.ปวีณา, นายไซม่อน และ น.ส.แอน ทำให้ทราบถึงความเชื่อมโยงของผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย โดยพบว่า นายไซม่อน เป็นชาวแคเมอรูน หัวหน้าแก๊งโรแมนสแกรม ซึ่งได้ว่าจ้าง น.ส.ปวีณา ให้ไปเปิดบัญชีธนาคาร 5 บัญชี ในขณะที่ น.ส.แอน ซึ่งเป็นเพื่อนกับ น.ส.ปวีณา เป็นผู้เปิดบัญชีธนาคารอีก 4 บัญชีที่เหลือ ซึ่งพฤติการณ์ของ น.ส.ปวีณา ยังพบว่าจะนำเด็กไปด้วยในการเปิดบัญชีที่ห้างสรรพสินค้า
          อย่างไรก็ตามนอกจากการสืบสวนผู้ต้องหา 3 รายนี้แล้ว ทางเจ้าหน้าที่ยังจะมุ่งสอบสวนหาความเชื่อมโยงระหว่าง น.ส.ณิชา กับกลุ่มคนร้ายด้วย หลังพบว่า น.ส.ณิชา ได้ทำบัตรประชาชนหายไปถึง 3 ครั้ง โดยสามารถลำดับเหตุการณ์การทำบัตรประชาชนของ น.ส.ณิชา ได้ดังนี้


          - 26 ธันวาคม 2551 ทำบัตรประชาชนครั้งแรก
          - 31 มกราคม 2557 ทำบัตรประชาชนครั้งที่ 2 หลังบัตรเดิมหาย
          - 18 กันยายน 2560 ทำบัตรประชาชนครั้งที่ 3 หลังบัตรเดิมหาย
          - 7 ตุลาคม 2560 ทำบัตรประชาชนครั้งที่ 4 หลังบัตรเดิมหาย

          โดยพบว่าบัตรประชาชนที่คนร้ายนำไปใช้ในการเปิดบัญชีธนาคาร คือบัตรประชาชนที่ออกในวันที่ 31 มกราคม 2557 ซึ่งตอนนั้น น.ส.ณิชา ได้ทำหายในร้านสะดวกซื้อ แต่ น.ส.ปวีณา ได้สวมรอยขอรับบัตรดังกล่าวมาแทน ก่อนนำไปเก็บไว้นานถึง 3 ปี จึงนำมาเปิดบัญชีธนาคารในปี 2560 ทั้งนี้ทางตำรวจสามารถติดตามข้อมูลได้แล้ว 7 บัญชี จากทั้งหมด 9 บัญชี พบว่ามีเงินถูกโอนเข้าแต่ละบัญชีรวมทั้งหมดราว 5.6 ล้านบาท


          ทางด้าน พ.ต.อ. กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ต้องขอเวลาทำงานขยายผลจนเกิดความชัดเจนก่อน ว่า น.ส.ณิชา มีความเชื่อมโยงกับทั้ง 3 รายที่ถูกจับหรือไม่ ในขณะนี้ น.ส.ณิชา ยังอยู่ในฐานะผู้ถูกกล่าวหาจากคดีที่ จ.ตาก แต่หลังการสอบสวนหลังจากนี้เธอจะกลับฐานะเป็นผู้ต้องหา หรือผู้เสียหาย ก็มีสิทธิ์เป็นไปได้ทั้งนั้น

          โดยมีข้อสังเกตหลายประการในตัว น.ส.ณิชา ว่าคนร้ายมีการโทร. ติดต่อกับเธอหรือไม่ เหตุใดจึงมีเงินหมุนเวียนในบัญชีส่วนตัวมากกว่า 6 ล้านบาท รวมทั้งสงสัยในเรื่องที่คนในครอบครัวของเธอมีการทำบัตรประชาชนหายหลายครั้ง โดย น.ส.ณิชา ทำหาย 3 ครั้ง พ่อของ น.ส.ณิชา ทำหายในปี 2560 มากถึง 8 ครั้ง ส่วนแม่ของ น.ส.ณิชา ก็มีการเปลี่ยนชื่อ-สกุล มาหลายครั้ง

          ด้านเพจชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม โดย นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ที่เคยออกมาตั้งข้อสังเกตในคดีครูจอมทรัพย์ ล่าสุดได้โพสต์ระบุว่า


ภาพจาก เรื่องเล่าเช้านี้, เฟซบุ๊ก ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก