เปิดเรื่องราวชีวิตจริงที่ยิ่งกว่าละคร สาวปลอมตัวไปเป็นพี่เลี้ยงเด็ก แอบขโมยลูกชาย 1 ขวบของเจ้านาย เอาไปเลี้ยงเป็นลูกตัวเอง รายงานเผย ออกมาเล่าความจริงหลังผ่านไป 26 ปี รู้ตัวว่าทำผิด และยอมติดคุก
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2560 หญิงชาวจีน วัย 48 ปี ที่ชื่อ เหอเสี่ยวผิง ได้เดินทางไปยังสถานีตำรวจท้องถิ่่นในมณฑลเสฉวน เพื่อสารภาพความเลวร้ายที่เธอลงมือทำเมื่อครั้งอดีต โดยในปี 2535 เสี่ยวผิงทำงานเป็นพี่เลี้ยงให้กับครอบครัวหนึ่งในเมืองฉงชิ่ง เธอได้แอบขโมยลูกชายวัย 1 ขวบ ของพวกเขา แล้วหลบหนีข้ามมณฑลมายังเมืองหนานฉง เธอเลี้ยงเด็กคนนี้ขึ้นมาเป็นลูกของเธอเอง ไม่เคยเปิดเผยความจริงให้ใครรู้ จนกระทั่งเวลาผ่านไปนานถึง 26 ปี
เสี่ยวผิง สมัยสาว ๆ
และแล้วในปี 2535 เสี่ยวผิงก็ปลอมแปลงตัวตนของตัวเอง โดยการสวมบัตรประชาชนของคนอื่น เดินทางไปยังเมืองฉงชิ่งเพื่อสมัครงานเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ครอบครัวหนึ่งสนใจในตัวเสี่ยวผิงและจ้างเธอมาดูแลลูกชายวัย 1 ขวบของพวกเขา โดยที่ไม่ได้ติดใจสงสัยใด ๆ เลย และไม่กี่วันหลังจากที่เสี่ยวผิงได้ทำงาน เธอก็ลักพาตัวเด็กชายมาจากบ้าน และพาเขาเดินทางกลับเมืองหนานฉงไปด้วยกัน
เสี่ยวผิงตั้งชื่อเด็กว่า หลิวจินซิน ตามชื่อลูกชายคนที่สองของเธอที่เสียชีวิตไปแล้ว ต่อมาในปี 2538 เสี่ยวผิงตั้งท้องและคลอดลูกสาว เธอจึงคิดอยากเอาจินซินกลับไปคืนครอบครัว แต่เกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา เพราะไม่อยากติดคุก เธอจึงเก็บเขาไว้กับตัวต่อไป เลี้ยงเขาเหมือนกับเป็นลูกแท้ ๆ ของตัวเองจนเขาโตเป็นหนุ่ม และซื้ออพาร์ตเมนต์ให้เขาในปี 2557
"ฉันรู้ดีค่ะว่าฉันทำผิด แต่ฉันเลี้ยงเขามาอย่างดี เหมือนกับเป็นลูกแท้ ๆ ของฉัน และเขาเองก็ปฏิบัติกับฉันเหมือนฉันคือแม่จริง ๆ ของเขา" เสี่ยวผิง กล่าว
เสี่ยวผิงไม่เคยคิดเปิดเผยความจริงให้ใครรู้ และไม่คิดจะกลับไปหาพ่อแม่ที่แท้จริงของจินซิน จนกระทั่งเธอได้ดูรายการทีวีซึ่งนำเสนอเรื่องราวชีวิตของหญิงชราคนหนึ่ง ผู้ซึ่งออกตามหาลูกชายที่พลัดพรากจากไปเมื่อกว่า 50 ปีที่แล้ว ชีวิตของหญิงชราคนนี้ทำให้เสี่ยวผิงคิดได้ว่าตัวเองทำผิด เธอจึงเผชิญหน้ากับจินซิน และเล่าความจริงให้เขาฟัง ซึ่งจินซินแทบไม่เชื่อว่ามันคือความจริง และเขาก็เก็บข้าวของออกจากบ้านไป
"ผมไม่เคยคิดเลยว่าเธอไม่ใช่แม่แท้ ๆ ของผม เพราะว่าเธอดีกับผมมาโดยตลอด ผมไม่สนใจหรอกว่าพ่อแม่แท้ ๆ ของผมเป็นใคร และผมก็ไม่สนใจด้วยว่าจะตามหาพวกเขาเจอหรือไม่" จินซิน กล่าว
หลังจากความจริงของเสี่ยวผิงถูกเปิดเผย เจ้าหน้าที่ตำรวจก็เริ่มสืบสวนและตามหาครอบครัวแท้ ๆ ของจินซิน ซึ่งเป็นเรื่องยากกว่าที่ทุกคนคาด เพราะเมื่อเจ้าหน้าที่นำข้อมูลที่ได้จากเสี่ยวผิงไปค้นหา พวกเขากลับไม่พบอะไรเลย ในปี 2535 ไม่มีบันทึกการแจ้งความเด็กหายที่ฉงชิ่งเลยแม้แต่เคสเดียว ซึ่งเรื่องนี้เสี่ยวผิงเองก็ยอมรับว่าเธอแปลกใจ เพราะตั้งแต่ตอนนั้น ก็ไม่มีใครออกตามหาจินซินหรือตามหาตัวเธอเลย อีกเรื่องที่เธอประหลาดใจก็คือ เมื่อลูกหายไปทั้งคน ทำไมพ่อแม่ถึงไม่โทร. แจ้งตำรวจ แต่อย่างไรก็ตาม เสี่ยวผิงยืนยันเองว่า เธอจะตามหาพ่อแม่แท้ ๆ ของจินซินให้เจอให้ได้ และหลังจากนั้น เธอจะเดินเข้าคุกเอง
ด้าน หวงซือเฉียง ทนายความจากสำนักกฎหมายในฉงชิ่ง ให้ความเห็นเกี่ยวกับกรณีนี้ว่า ถ้าหากเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง ตามประมวลกฎหมายอาญาฉบับปี 2552 แล้ว เสี่ยวผิงอาจจะต้องโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี แต่อย่างไรก็ตาม ก็ขึ้นอยู่กับกระบวนการพิจารณาคดี เสี่ยวผิงอาจจะไม่ต้องติดคุกเลยก็เป็นได้
คนอื่นที่ได้ยินคำนี้อาจจะโล่งใจ แต่เสี่ยวผิงไม่คิดแบบนั้น เพราะเธอคิดว่าเธอควรได้รับกรรมในสิ่งที่เธอทำลงไป "แล้วฉันต้องทำยังไงถึงได้ชดใช้ความผิด ฉันต้องไปสารภาพต่อหน้าองค์พระเลยหรือเปล่าเนี่ย" เสี่ยวผิง กล่าว
ทั้งนี้ไม่มีการเปิดเผยเพิ่มเติมว่าคดีดังกล่าวคืบหน้าไปมากแค่ไหนแล้ว และเสี่ยวผิงตามหาพ่อแม่แท้ ๆ ของจินซินได้แล้วหรือยัง ซึ่งก็คงต้องคอยติดตามกันต่อไป