ณิชา ไม่ติดใจตำรวจ เดินหน้าขอใช้สิทธิ์เยียวยา ฝากคดีนี้เป็นบทเรียน

ณิชา เข้ารับเงินค่าประกันตัวที่ศาล หลังตำรวจขอยกเลิกฝากขัง ไม่ติดใจ แต่เตือนอยากให้เป็นอุทาหรณ์ เตรียมยื่นขอเยียวยา

จากกรณีที่ น.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ ถูกคนร้ายเป็นขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นำบัตรประชาชนไปขอเปิดบัญชีธนาคาร 7 แห่ง รวม 9 บัญชี จนตกเป็นผู้ต้องหาฉ้อโกง ต้องติดคุกนาน 3 วัน ก่อนได้รับการประกันตัว ซึ่งต่อมาตำรวจสามารถจับตัวคนร้ายได้ทั้งหมด และแม้จะมีประเด็นเงิน 6 ล้านบาทในบัญชี แต่ทางตำรวจยืนยันแล้วว่าไม่เกี่ยวกับแก๊งคนร้ายแต่อย่างใดนั้น (อ่านข่าว : ไม่พบพิรุธ ณิชา เอี่ยวโรแมนซ์สแกม - ยันไม่เจอเงินหมุนเวียน 6 ล้าน)

ล่าสุด วันที่ 18 มกราคม 2561 ที่ศาลจังหวัดตาก น.ส.ณิชา พร้อมด้วยบิดา เดินทางมารายงานตัวกับศาลจังหวัดตากเป็นครั้งที่ 2 ตามกำหนด หลังจากที่ ตำรวจภูธรจังหวัดตาก ได้ทำคำร้องเสนอต่อศาลยกเลิกคำร้องผลัดฟ้อง ฝากขัง น.ส.ณิชา หลังมีหลักฐานว่าเป็นผู้บริสุทธิ์ จึงไม่จำเป็นต้องฝากขังผู้ต้องหาอีกต่อไป พนักงานสอบสวนจึงขออำนาจปล่อยตัว น.ส.ณิชา และได้รับเงินค่าประกันตัว จำนวน 80,000 บาท คืน

จากนั้น น.ส.ณิชา พร้อมบิดา และนายจิระศักดิ์ สุดสังข์ ทนายความ ได้เดินทางมาพบ นายยงยุทธ ธรรมนิตยางกูร ยุติธรรมจังหวัดตาก ที่สำนักงานยุติธรรมจังหวัดตาก เพื่อรับทราบสิทธิ์ และยื่นขอใช้สิทธิ์จากกองทุนยุติธรรม ผ่านสำนักงานยุติธรรมจังหวัดตาก

เบื้องต้น น.ส.ณิชา เข้าข่ายได้รับการช่วยเหลือการดำเนินคดี ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของคณะอนุกรรมการช่วยเหลือ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดตากเป็นประธาน โดยคณะอนุกรรมการได้พิจารณาให้ความช่วยเหลือด้านค่าทนายความ ค่าเดินทาง ค่าที่พัก เป็นต้น และในส่วนการช่วยเหลือผู้ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะกรรมการอีก 15 คน เป็นผู้พิจารณา

ด้าน น.ส.ณิชา กล่าวว่า ตนอยากให้ประชาชนระมัดระวังในเรื่องของเอกสาร โดยเฉพาะบัตรประจำตัวประชาชน หากสูญหายให้รีบแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเป็นหลักฐาน และในส่วนของคดีความตนไม่ติดใจการทำหน้าที่ของพนักงานสอบสวน สภ.บ้านตาก ที่มีการดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย

ขณะที่ ทนายความ น.ส.ณิชา กล่าวถึงประเด็นที่ว่าจะมีการฟ้องธนาคารหรือไม่นั้น อยู่ที่ น.ส.ณิชา และครอบครัว จะตัดสินใจอย่างไรอีกครั้ง

ภาพและข้อมูลจาก
amarintv.com