วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2561 รายการโหนกระแส ทางช่อง 28 ได้เชิญ คุณพิเชษฐ ตัญกาญจน์, คุณสุกัลยา ตัญกาญจน์ และน้องเมี่ยง สุพิชา ตัญกาญจน์ พ่อ แม่ และพี่สาวของ น้องเมย ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ นักเรียนเตรียมทหารเสียชีวิตปริศนา ซึ่งทางครอบครัวได้เผยว่ามีข้อพิรุธ พบว่าน้องเมยอาจถูกล็อกคอ และการที่ซี่โครงหักไม่ได้เกิดจากการ CPR อีกทั้งเชื่อว่าอวัยวะที่ได้มา อาจจะไม่ใช่ของน้องเมย และรู้ตัวคนที่ทำร้ายน้องเมยจนเสียชีวิตแล้ว
คุณแม่ : เกิดอะไรขึ้นคุณแม่ไม่ทราบ แต่มีโทรศัพท์จากผู้พันเข้ามาตอนเที่ยงกว่า ๆ ได้คุยกับลูกแป๊บนึง หลังจากคุณหมอโทร. มา เราก็ได้คุยกับน้อง ซึ่งได้คุยแค่นิดเดียว น้องบอกว่ายังไม่หายป่วยเลย
- ก่อนหน้านั้นน้องเมยป่วยเหรอครับ
คุณแม่ : ก็ที่เขาพูดกันว่าตกบันได แล้วส่งไปเอกซเรย์ ก็ไม่สามารถชี้ชัดได้ว่ามีอะไรแตกหัก ก็ปกติดี พอกลับมาส่งเขาก็บอกว่าเขายังไม่หายป่วยเลย เขาบอกว่าอย่าไปเชื่อผู้พัน หลังจากนั้นอีกสักพักหนึ่งผู้พันก็โทร. เข้ามาอีก แต่เป็นจังหวะที่ซ้อนสายกับทางคุณหมอ มันก็จะงง แป๊บนึง คุณหมอก็บอกว่าคุณแม่ต้องรีบมาที่โรงเรียนด่วนเลยนะ คุณแม่ก็ถามว่ามันเกิดอะไรขึ้น เขาก็บอกว่าต้องมาเดี๋ยวนี้ เราก็ถามว่าคุณพูดแบบนี้ใจไม่ดีแล้วนะ คือตอนนั้นมันพูดไม่ออก รีบไปเร็วได้เท่าไหร่ เรารีบไปให้เร็วที่สุด แต่ช่วง 5 โมงกว่าเราจะไปเร็วกว่านั้นไม่ได้ กว่าจะถึงก็เป็นชั่วโมง
- พอไปถึงก็ทราบว่าน้องเสียชีวิต
คุณแม่ : ก็ทราบก่อนหน้าที่จะไปถึง เพราะคุณหมอโทร. มาตลอด ถามว่าการจราจรเป็นยังไง เราก็บอกว่าช่วยเขาก่อนให้เราไปถึงก่อน
- คือตอนไปถึงคุณแม่ก็ไม่รู้เลยใช่ไหมว่าน้องไม่มีอวัยวะบางส่วนในร่างกาย
คุณแม่ : ยังไม่ได้ทำอะไร คืนนั้นก็ปรึกษากับเจ้าหน้าที่โรงเรียนว่าจะเคลื่อนร่างน้อง แต่คุณแม่ไม่รับอะไรแล้ว เขาพูดไป เราก็ดูลูกอย่างเดียว
- ทางครอบครัวมาทราบได้ยังไงว่าอวัยวะบางส่วนของน้องหายไป
พี่สาว : หนูนำร่างเมยไปชันสูตรครั้งที่ 2 ซึ่งเคสนี้เป็นเคสพิเศษ เขาก็จะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาแล้วจะเชิญเราไปดูด้วย ขั้นตอนชันสูตรพอเปิดกะโหลกขึ้นมาก็ไม่มีสมอง เราก็เริ่มตกใจแล้ว หมอก็บอกว่าอย่าเพิ่งตกใจ เพราะเขาอาจจะเก็บอวัยวะไว้ที่ช่องท้องอย่างเดียว แต่พอเปิดช่องท้อง ไม่มี หัวใจก็ไม่มี กระเพาะอาหาร กระเพาะปัสสาวะก็ไม่มี เรียกว่าเป็นเศษปอด เศษตับ และกระดาษซับเลือดอยู่ข้างใน
- ซึ่งตามข่าวเราไม่เชื่อว่าน้องจะหัวใจล้มเหลว แล้วเราเอาโลงเปล่าไปเผา ทำไมวันนั้นถึงฉุกคิด
พี่สาว : มีผู้หวังดีหลาย ๆ คน และเพื่อนของหนูเองโทร. มา ว่าเมยถูกกระทืบนะ ลองเอาไปผ่าดู มีคนโทร. มาแบบนี้เยอะมาก นั่นก็จุดเริ่มต้น วันที่ได้รับข้อมูลคือก่อนวันเผา 1 วันเอง ซึ่งเรากำหนดไว้หมดแล้ว จะยกเลิกการเผาก็ไม่ได้ เพราะได้แจ้งไปหมดแล้ว ก็เลยจัดไปตามปกติ
- ทางครอบครัวทราบใช่ไหมว่าตอนนั้นมีข่าวออกมาว่าเป็นแผนการของทางครอบครัว ที่อยากรู้ความจริง
พี่สาว : เคยได้ยินค่ะ แต่มันไม่ใช่อย่างนั้น คือเขามากันแล้วก็ให้เขาทำพิธีกันไป
- ขอถามคุณแม่นิดหนึ่ง ก่อนที่น้องจะเสียชีวิต ร่างกายแข็งแรง มีโรคประจำตัวไหมครับ
คุณแม่ : ไม่มีค่ะ ร่างกายแข็งแรง
- การแถลงข่าวของทางคณะกรรมการ มันสวนทางกับทางคุณแม่ คุณพ่อ พี่เมี่ยง ที่จะพยายามบอกเราเหลือเกิน
พี่สาว : วันที่คณะกรรมการแถลง วันที่ 10 ตุลาคม เมยกล่าวอ้างว่าตกบันได เรารับเมยมา วันที่ 12 เราพาเมยมาหาหมอ เพราะว่าส่วนที่เขาตก มันใกล้กับกรวยไต หนูกลัวว่าจะฉีกขาด หรือมีปัญหา ก็มาเอกซเรย์ ปรากฏว่าไม่มีอะไรฉีกขาด
- จากการเสียชีวิตแพทย์ระบุว่าหัวใจล้มเหลว แล้วมีการทำ CPR จนมีรอยหัก
พี่สาว : หนูต้องยืนยันคำพูดจากแพทย์นิติวิทยาศาสตร์นะคะ ซี่โครงของเมยถ้าหักก่อนเสียชีวิตเลือดมันออก แล้วมีอาการอักเสบ แต่ถ้าหักหลังเสียชีวิตจะไม่มีอาการอักเสบ มันหักก่อนเมยเสียชีวิต ก็ต้องหักก่อนทำ CPR
พี่สาว : มันน่าจะเป็นเหตุมาก่อน ทำให้หัวใจล้มเหลวเฉียบพลันเป็นไปได้ มันเป็นเหตุประกอบไปได้หมด หัวใจวายเฉียบพลันมันเกิดจากหลายสาเหตุ เราก็ได้ถามกับแพทย์ แต่เราขออนุญาตไม่ระบุสาเหตุ
- แต่เมื่อวานตำรวจสั่งฟ้องผู้ต้องหา พบว่าน้องเมยโดนล็อกคอ ซี่โครงหักไม่ใช่เพราะ CPR
พี่สาว : เรื่องการล็อกคอ วันที่ไปรับผลการชันสูตร คุณหมอเขาจะอธิบายว่าเกิดจากอะไรบ้าง เราก็ถามว่าเป็นไปได้มั้ยที่จะถูกล็อกคอ เขาก็บอกว่าเป็นไปได้ เป็นการสันนิษฐาน
- อีกสิ่งหนึ่ง ณ วันนี้ อวัยวะของน้อง ครอบครัวยังไม่มั่นใจเลยว่าเป็นของน้องเมย
พี่สาว : เพราะว่าในการตรวจสอบยังไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นของน้องเมย
- เรื่องเกิดตุลาคม จนเดือนกุมภาพันธ์แล้ว ยังไม่รู้เลย
พี่สาว : คือเรายังไม่รู้ว่าของเมยหรือเปล่า เราไม่เคยรับเลยว่าสิ่งที่รับมาเป็นของเมยหรือเปล่า เราแค่รับมาเพื่อให้ทางสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ตรวจสอบ ว่าใช่คู่ดีเอ็นเอของเขาหรือเปล่า ซึ่งเรายังไม่ได้รับคำตอบ
- ได้มีการสอบถามไปไหม
พี่สาว : ถามค่ะ แต่เราทำความเข้าใจว่าอวัยวะพวกนี้ถูกนำมาจาก รพ.พระมงกุฎฯ เราไม่รู้เลยว่าใช่หรือไม่ใช่ นิติวิทยาศาสตร์เป็นที่ที่สอง ซึ่งเราเข้าใจ ไม่อยากเร่ง ถ้าผิดพลาดมันต้องผิดพลาดมาจากที่แรกใช่มั้ยคะ
คุณพ่อ : ผมถามกับทางพระมงกุฎฯ ตั้งแต่วันแรกแล้วว่า ของที่ส่งมามันใช่ของน้องเมยจริงหรือเปล่า ที่ถามเพราะว่าการผ่าแล้วไม่นำอวัยวะกลับไปในส่วนของร่างกาย ทำให้ผมคิด การกระทำของเขาไม่ได้บอกกล่าวผมเลย ซึ่งถ้าเผาไปแล้ว ผมจะไม่มีวันทราบเลย
- สิ่งหนึ่งที่เราอยากรู้มากคือ ครอบครัวคิดว่าการเสียชีวิตน่าจะเกิดจากการถูกทำร้าย
คุณแม่ : น่าจะเป็นเหตุประกอบหลายอย่าง พระมงกุฎฯ เองก็บอกหัวใจของน้องเมยมีการเปลี่ยนแปลงแบบนิวเคลียส ซึ่งมันเล็กมาก ไม่ได้ส่งผลเยอะ ถ้ามีอะไรไปกระตุ้นมัน คือโรคหัวใจ อยู่ดี ๆ มาตายเลยไม่ได้ ทั้งที่ร่างกายแข็งแรงในเด็กวัย 20 กว่า ๆ
- ทราบไหมว่าใครกระทำ
พี่สาว : ทราบค่ะ รู้ทุกคน ไม่เคยพูดที่ไหนมาก่อน เพราะว่าเขาเคยไปบอกกับคนอื่น เด็กคนที่กระทำ เขาบอกเขาไม่กล้ามาขอโทษครอบครัว เพราะกระแสสังคมแรงมาก เขาเลยไม่กล้าออกมาขอโทษ เรื่องที่เขาทำเมยตั้งแต่ 23 สิงหาคม จนถึงวันที่น้องเสียชีวิต เป็นเวลายาวนาน เขาน่าจะออกมาขอโทษ แต่เขาก็ไม่เคย 23 สิงหาคม คือวันที่น้องโดนเอาหัวปักพื้น ที่มีผลมาถึงวันเสียชีวิตเพราะเกิดจากความแค้น ที่ตัวเองโดนปลดจากตำแหน่งนั้น เหมือนเพื่อนแค้นแทนเพื่อน เรื่องนี้เป็นหนังเรื่องยาว น้องเมยโดนเล่นมาตลอด
- ทำไมถึงกล้าที่จะออกมาพูดวันนี้
พี่สาว : คือเมยเขารักโรงเรียนของเขามาก เขาปกป้องชื่อเสียงโรงเรียนของเขา เราก็ไม่อยากจะอะไรกับเขามาก แต่วันหนึ่งจิตใต้สำนึกของแต่ละคนน่าจะออกมาขอโทษให้เราเห็นหน่อย และข่าวทุกอย่างเขาก็ปล่อยกันมาว่าเมยเป็นโรคหัวใจ เมยตายเอง ก็ถึงเวลาที่เราจะต้องพูด
- ถ้าเราขึ้นศาลเราต้องมีพยานและหลักฐาน เรามีพร้อมไหม
พี่สาว : คนที่ทำ คณะกรรมการการสอบสวนก็มีรายชื่อ ทางครอบครัวเราเองก็รู้ว่ามีใครบ้าง และก็ดูมาจากของตำรวจมันสอดคล้องจากเด็กที่มาเล่าให้เราฟัง
- เรื่องนี้จะทำยังไงต่อไป
พี่สาว : ก็ต้องปล่อยไปตามกระบวนการ ทางหนูเองก็พยายามหาหลักฐานมาโดยตลอด ในมือเรามีแต่เอกสารทางการแพทย์ เรื่องที่หนูมาเล่าวันนี้เป็นข้อมูลลับ ๆ ที่เขาอยากบอก เขาก็รักเมย แต่เขาไม่สามารถออกมาได้ เพราะเขาอยากจะมีชีวิตในโรงเรียนนี้ต่อไป