เพื่อนบ้านเล่านาทีนักข่าวสาวถูกอดีตสามียิงกระหน่ำ ก่อนเดินหลบหนีด้วยท่าทีเรียบเฉย เผยหลังก่อเหตุ..คนร้ายได้เดินทางไปเรือนจำกรุงเทพฯ ระบายกับเจ้าหน้าที่ว่าเพิ่งไปฆ่าคนตาย !!
สืบเนื่องจากกรณี นางสาวเหมือนแพร ศรีสุวรรณ อายุ 33 ปี อดีตนักข่าวหนังสือพิมพ์แห่งหนึ่ง ถูกยิงเสียชีวิตภายในบ้านพัก โดยผู้ก่อเหตุคือ นายยงยันย์ จันทะสะเร อายุ 38 ปี อดีตสามี ที่เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังก่อเหตุ พร้อมสารภาพสาเหตุที่ลงมือ เนื่องจากเมาสุราขณะมาขอคืนดี แต่ผู้ตายไม่ยินยอมจึงมีปากเสียงกัน ก่อนที่จะโมโหหนัก เนื่องจากผู้ตายได้โทร. หาแฟนใหม่ต่อหน้าให้มาช่วย ตามที่มีรายงานไปนั้น (อ่านข่าว : แฟนเก่ากระหน่ำยิงอดีตนักข่าวสาวดับ ฉุนไปขอคืนดี แต่กลับโทร. หาแฟนใหม่)
เกี่ยวกับเรื่องนี้ (2 กุมภาพันธ์ 2561) รายการเรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 รายงานบทสัมภาษณ์ เพื่อนบ้านของนางสาวเหมือนแพร เผยว่า ช่วงที่เกิดเหตุได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จึงได้วิ่งออกมาดู พบผู้ชายยืนอยู่ภายในรั้วบ้านแต่ไม่ได้เข้าไปในบ้าน ก่อนจะกระหน่ำยิงอีกหลายนัด ซึ่งหลังยิงเสร็จก็ยังไม่ได้มีการหลบหนีแต่อย่างใด ยังมีการเดินมองรอบ ๆ บ้าน ก่อนที่จะปีนกำแพงบ้านออกมาพร้อมกับสะพายกระเป๋าเป้หลบหนีไป ช่วงเวลานั้นมีเพื่อนบ้านที่เป็นผู้ชายขี่รถมาพอดี จึงได้ชักชวนกันไปดู พบว่าผู้ตายถูกยิงเสียชีวิตแล้ว และจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดหลังเกิดเหตุ พบชายคนร้ายเดินออกไปจากหมู่บ้านในลักษณะไม่ได้เร่งรีบอะไร คล้ายกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
จากการสอบถาม แม่ของนายยงยันย์ ผู้ก่อเหตุ เผยว่า ทราบว่าลูกชายคบหากับหญิงสาวและอยู่กินด้วยกันที่บ้านหลังหนึ่ง ซึ่งนาน ๆ ทีถึงจะพามาหาที่บ้าน แต่ตนไม่ทราบข้อมูลอะไร
ด้าน นายเชา เพื่อนบ้านของนายยงยันย์ เผยว่า นายยงยันย์ มีปัญหาเกี่ยวกับสมอง เป็นคนเงียบ ๆ นาน ๆ จะกลับมาที่บ้านครั้งหนึ่ง จะแวะมาซื้อเบียร์ที่ร้านตน และช่วง 2 สัปดาห์ก่อนเกิดเหตุ เห็นผิดสังเกตคือเห็นนายยงยันย์มาอยู่ที่บ้านทุกวันและจะมาซื้อเบียร์วันละ 2-3 ขวด
ขณะที่ รายการทุบโต๊ะข่าว ทางช่อง Amarin TV รายงานเพิ่มเติมว่า หลังก่อเหตุ นายยงยันย์ ได้เดินทางไปพูดคุยกับเจ้าหน้าที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ เรื่องที่ตัวเองเพิ่งฆ่าคนตาย เจ้าหน้าที่เรือนจำจึงแจ้งตำรวจให้เข้าตรวจสอบ โดยที่นายยงยันย์ ก็ให้การรับสารภาพทันทีว่าเป็นคนก่อเหตุยิงนางสาวเหมือนแพร จนเสียชีวิต
ภาพและข้อมูลจาก ข่าวอรุณอมรินทร์, ทุบโต๊ะข่าว, เรื่องเล่าเช้านี้