เพจชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เผยมีหลักฐาน-พยาน บ่งชี้ ครูปรีชา ไม่ใช่เจ้าของหวย 30 ล้าน ให้เวลา 3 วัน รีบกลับใจหากไม่อยากจบแบบครูจอมทรัพย์
ยังคงเป็นคำถามกับสังคม กรณีหวยอลเวง 30 ล้าน แม้ทางตำรวจจะออกมาแถลงว่า ครูปรีชา ใคร่ครวญ คือเจ้าของตัวจริง ไม่ใช่ ร.ต.ท. จรูญ วิมูล ผู้ที่นำลอตเตอรี่ดังกล่าวไปขึ้นเงิน แต่ทาง เฟซบุ๊กเพจ ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ออกมาโพสต์ข้อความฟันธง 100% ว่า ครูปรีชาไม่ใช่เจ้าของลอตเตอรี่ตัวจริงนั้น (อ่านข่าว : เพจดังคุ้ยคดี ครูจอมทรัพย์ ประกาศอยู่ข้างลุงจรูญ พร้อมมอบหลักฐานเด็ดปราบ ครูปรีชา)
เกี่ยวกับเรื่องนี้ วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2561 นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ออกมากล่าวผ่านไลฟ์เฟซบุ๊ก โดยระบุว่า คดีนี้ ครูปรีชา ไม่ใช่เจ้าของลอตเตอรี่ 30 ล้านบาทตัวจริง โดยทางชมรมพบความผิดปกติในคดีนี้ เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่รัฐใช้อำนาจเรียกลุงจรูญไปเจรจาไกล่เกลี่ยนอกรอบ จึงลงพื้นที่หาข้อมูลจนได้ข้อเท็จจริงหลายอย่าง แต่ไม่ได้ไปก้าวล่วงทีมทนายของลุงจรูญ ซึ่งทางทีมงานจะไปทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 7 และเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลาง แล้วประสานไปยังกรมสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อเปิดข้อมูลเชิงลึกต่อไป
นายอัจฉริยะ ระบุว่า คดีนี้มีการทำเป็นขบวนการ โดยพบบุคคล 6 คน กล่าวอ้างเห็นลอตเตอรี่ใบนี้หล่น มีประจักษ์พยานสำคัญ 2 คน เป็นเจ้าหน้าที่รัฐทั้งคู่ คนแรกเป็นเจ้าหน้าที่รัฐที่มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สูงในกระบวนการยุติธรรม และจะเป็นคนชี้เป็นชี้ตายให้แก่ฝั่งครูปรีชา ส่วนพยานอีกคนเป็นเจ้าหน้าที่รัฐเช่นเดียวกัน สิ่งสำคัญคือหลักฐานทั้งหมดจะมอบให้กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ในช่วงสัปดาห์หน้า และได้มีการนัดหมายกันไว้ล่วงหน้าแล้ว
นายอัจฉริยะ กล่าวอีกว่า วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561 เวลา 10.30 น. ทางชมรมจะเข้าร้องขอให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) สั่งย้ายผู้บังคับการจังหวัดกาญจนบุรี มาปฏิบัติราชการที่ส่วนกลางในช่วงทำคดี เพราะเจ้าหน้าที่ที่ทำคดีนี้ในพื้นที่รู้สึกอึดอัด หากผู้บังคับการยังคงอยู่ในพื้นที่ เนื่องจากผู้บังคับการเข้าไปมีส่วนร่วมในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม กล่าวทิ้งท้ายว่า มีเวลาให้ ครูปรีชา 3 วันในการคิดทบทวน ให้กลับตัวกลับใจ ไม่อยากให้ครูเป็นแบบครูจอมทรัพย์ ที่ต้องถูกออกจากราชการ ไม่มีที่ยืนในสังคม ซึ่งคดีนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 7 ได้ร่วมกับกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เดินหน้าสืบคดีนี้ในทางลับ พี่น้องไม่ต้องกังวลว่าเจ้าหน้าที่จะเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เชื่อว่าไม่เกิน 15 วันคดีนี้น่าจะได้ข้อยุติ และจะมีการนำหลักฐานมาเปิดเผยที่เพจเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม
ภาพจาก เฟซบุ๊ก ชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม, amarintv
