หลายครั้งที่คนเรามักจะถูกคนอื่นตัดสินจากรูปลักษณ์ภายนอก ทั้งจากการแต่งตัว หน้าตา หรือแม้แต่สีผิว ซึ่งอาจก่อให้เกิดความชื่นชมหรือแม้แต่อคติต่อบุคคลนั้น ๆ แต่สิ่งที่ เจมส์ คอนลีย์ หนุ่มอเมริกันวัย 29 ปี จากเมืองแดลลัส รัฐไอโอวา เผชิญมานั้น มันไม่ใช่เพียงอคติแต่เป็นการดูถูกซึ่ง ๆ หน้า เมื่อพนักงานร้านเสื้อผ้าแบรนด์หนึ่งได้แสดงความสงสัยว่าเขาอาจขโมยเสื้อของทางร้าน ทั้งที่เขาไม่ได้ทำอะไรผิดแม้แต่น้อย
โดยเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2561 เว็บไซต์บอร์แพนด้า รายงานว่า เจมส์ คอนลีย์ เพิ่งจะได้รับเสื้อแจ็คเก็ตสีน้ำเงินตัวหนึ่งมาเป็นของขวัญในวันคริสต์มาส ดังนั้นไม่แปลกอะไรถ้าเขาจะสวมมันติดตัวในช่วงที่อากาศหนาวเหน็บ กระทั่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เจมส์ได้สวมเสื้อแจ็คเก็ตตัวนี้เข้าไปหาซื้อเสื้อผ้าที่ร้าน Old Navy สาขาเวสต์ เดส มอยเนส เขาเลือกเสื้อตัวใหม่อย่างสบายใจแล้วก็นำมาจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ตามปกติ
พนักงานรับเสื้อของเขาไปสแกนบาร์โค้ด แต่แล้วในตอนนั้นเองที่พนักงานถามเขาขึ้นว่า "คุณจะซื้อเสื้อตัวที่สวมอยู่ด้วยไหม"
เมื่อได้ยินเช่นนั้นทำเอาเจมส์แทบจะหัวเราะออกมาเพราะไม่เชื่อหูในสิ่งที่ได้ยิน แถมไม่เพียงแต่ตัวพนักงานร้านที่มีท่าทีดูหมิ่นเขาเช่นนี้ แม้ว่าตัวผู้จัดการสาขาเองก็ยังออกมาบอกเขาให้ถอดเสื้อแจ็คเก็ตออกมาสแกนบาร์โค้ดด้วย โดยอ้างว่าพวกเขาต้องตรวจสอบเสื้อผ้าของลูกค้า เพื่อให้มั่นใจว่ามันเป็นเสื้อที่ถูกซื้อไปก่อนหน้านี้
เรื่องดังกล่าวทำให้เจมส์รู้สึกไม่พอใจ เพราะเขาก็สวมแจ็คเก็ตตัวนี้มาแล้วหลายครั้งแต่ไม่เคยถูกขอให้ทำแบบนี้มาก่อน แถมลูกค้าคนก่อนหน้าซึ่งไม่ใช่คนผิวสีก็ไม่ได้ถูกขอสแกนดูเสื้อผ้าแต่อย่างใด ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นมันคือการเลือกปฏิบัติอย่างเห็นได้ชัด
หลังจากนั้นไม่นาน ผู้จัดการร้านในเขตดังกล่าวก็เข้ามาที่ร้าน เขาจึงขอให้เธอตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็นกันชัด ๆ ว่าเขาสวมแจ็คเก็ตตัวนี้มาจริง ๆ มันเป็นของเขา และเขาก็ไม่ได้คิดจะขโมยเสื้อของทางร้านแต่อย่างใด ซึ่งแน่นอนว่าความจริงทั้งหมดได้ปรากฏบนกล้องนั้นแล้ว
อย่างไรก็ตามหลังจากที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด ตัวผู้จัดการระดับเขตเพียงยืนยันว่าเขาไม่ได้โกหกเรื่องแจ็คเก็ตตัวนี้เท่านั้น แต่ไม่มีคำขอโทษใด ๆ หลุดจากปากของเธอ เธอไม่ได้กลับมาพูดอะไรกับเขาด้วยซ้ำ ในขณะที่ตัวผู้จัดการร้านก็ทำเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้เจมส์ได้นำคลิปที่บันทึกเหตุการณ์ดังกล่าวไว้มาเผยแพร่ลงในเฟซบุ๊กของเขา ซึ่งไม่น่าเชื่อเลยว่าโพสต์ดังกล่าวจะกลายมาเป็นที่แชร์ต่ออย่างกว้างขวาง กว่า 1.5 แสนครั้ง นับเป็นสิ่งสะท้อนได้เป็นอย่างดีว่าไม่ใช่เพียงแค่เจมส์เท่านั้นที่ประสบกับปัญหาดังกล่าว แต่เรื่องการเหยียดสีผิวนี้เป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อคนจำนวนมาก ซึ่งจากนี้เขาก็เตรียมที่จะร้องเรียนเรื่องดังกล่าวเพื่อเรียกค่าเสียหายทางแพ่งต่อไป
ขณะที่ในเวลาต่อมา หลังจากที่เรื่องราวของเจมส์กลายมาเป็นที่สนใจของคนในสังคม ในที่สุดทางร้าน Old Navy ก็ได้ออกมาแถลงผ่านเฟซบุ๊กของแบรนด์ โดยระบุว่า สถานการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นนั้นนับเป็นการละเมิดต่อนโยบายและค่านิยมของทางร้าน พวกเขาต้องขออภัยต่อทั้งเจมส์และคนอื่น ๆ ที่ทำให้ผิดหวัง ลูกค้าของทางร้านทุกคนสมควรได้รับการปฏิบัติด้วยความเคารพ ทั้งนี้หลังการสอบสวนทางร้านได้เลิกจ้างพนักงานทั้ง 3 รายที่เกี่ยวข้องแล้ว
ภาพและข้อมูลจาก เฟซบุ๊ก James Conley III
